เคียฟ 26 ต.ค. – ยูเครนขอให้ประชาชนที่อพยพออกจากประเทศตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ พำนักอาศัยอยู่ในต่างประเทศต่อไปจนสิ้นสุดฤดูหนาว เนื่องจากยูเครนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ไฟดับที่เกิดจากการที่รัสเซียโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในยูเครน
ไอรีนา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรีของยูเครน กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของยูเครนเมื่อวันอังคารว่า เธอขอให้ประชาชนที่อพยพออกนอกประเทศพำนักอาศัยอยู่ในต่างประเทศไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิก่อนที่จะเดินทางกลับมายูเครน และไม่ควรเดินทางกลับประเทศในตอนนี้ เนื่องจากยูเครนกำลังประสบปัญหาด้านพลังงานไม่เพียงพอในช่วงฤดูหนาว โดยที่ในขณะนี้มีชาวยูเครนกว่า 1 ล้านคนที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางไฟดับหลังถูกรัสเซียโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทั่วประเทศ
ยูเครนระบุว่า รัสเซียได้เปิดฉากยิงจรวดและใช้โดรนโจมตีทางอากาศใส่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน จนทำให้ยูเครนเผชิญกับปัญหาไฟดับและระบบส่งน้ำขัดข้อง นับตั้งแต่ที่เกิดเหตุระเบิดบนสะพานเชื่อมรัสเซียกับคาบสมุทรไครเมียเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งรัสเซียเชื่อว่าเป็นฝีมือของกองทัพยูเครน ยูเครนยังระบุว่า รัสเซียได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนไปแล้วร้อยละ 40 ขณะที่เจ้าหน้าที่ในกรุงเคียฟเตือนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ชาวยูเครนต้องเตรียมรับมือกับเหตุไฟดับที่อาจเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์
ทั้งนี้ เหตุโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในยูเครนของรัสเซียมีขึ้นในขณะที่หลายประเทศในทวีปยุโรปที่ชาวยูเครนอพยพไปพำนักอาศัยกำลังเผชิญกับปัญหาด้านพลังงาน อาหาร และค่าครองชีพอื่น ๆ ที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ผู้อพยพชาวยูเครนยิ่งประสบปัญหาหนักขึ้นจากเดิมที่ต้องการหางานประจำที่มีรายได้ดีในประเทศใหม่. -สำนักข่าวไทย