“ภูมิธรรม” ส่งตัวแทนยื่นร้องเรียนมรรยาท “ทนายทิวา”

​สภาทนายความ 18 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ส่งตัวแทนยื่นร้องเรียนมรรยาท “ทนายทิวา” แถลงข่าวเรื่องที่ดินเขากระโดง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายภาคิน จินาภักดิ์ ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการสอบสวนมรรยาททนายความ ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้ตรวจสอบมรรยาทของนายทิวา การกระสัง จากกรณีที่นายทิวาได้แถลงข่าวเรื่องที่ดินเขากระโดงเมื่อ 7 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ​นายภาคิน กล่าวว่าการยื่นเรื่องครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของนายทิวาที่อาจเข้าข่ายขัดต่อมรรยาททนายความและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ โดยเฉพาะการใช้ถ้อยคำที่ ข่มขู่ ก้าวร้าว และหยาบคาย ต่อนายภูมิธรรม ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดมรรยาททนายความ ​ทั้งนี้ นายภาคิน มั่นใจว่าการดำเนินการครั้งนี้ไม่ใช่การปิดกั้นทางการเมือง แต่เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย เพื่อให้ทนายความทุกคนตระหนักถึงการใช้คำพูดที่รอบคอบและไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น.-314.-สำนักข่าวไทย

ทนายเขากระโดง ยันทำเพื่อป้องสิทธิประชาชน

กทม.16 ส.ค.-“ทนายเขากระโดง” สวนกลับ มรรยาททนายความ แค่ควันบังตา บางคนกลัวความจริงโผล่ในศาล ยันทำเพื่อป้องสิทธิประชาชน และไม่ผิดมารยาททนาย นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ในฐานะทนายความผู้รับผิดชอบคดีเขากระโดง ได้ออกมาตอบโต้กรณีถูกกล่าวหาอาจเข้าข่ายกระทำผิดข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ ว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าตนเคยดำรงตำแหน่งประธานอนุกฎหมายของการรถไฟแห่งประเทศไทย แล้ววันนี้มาทำหน้าที่ทนายความให้กับชาวบ้านในคดีเขากระโดง จะเป็นการผิดมรรยาทหรือไม่ จึงขอเรียนอย่างตรงไปตรงมาว่า ในขณะที่ดำรงตำแหน่ง ไม่เคยมีหน้าที่ ไม่เคยพิจารณา และไม่เคยเกี่ยวข้องกับคดีเขากระโดงเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งพ้นจากตำแหน่งมานานกว่าสองปีแล้ว “การที่ผมมาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทนายความวันนี้ ไม่ได้ขัดกับกฎหมายหรือข้อบังคับใด ๆ และไม่ใช่การผิดมรรยาทวิชาชีพตามที่มีบางคนพยายามโยง เพราะหน้าที่ของทนายความคือการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของประชาชนตามกฎหมาย ไม่ใช่การถูกตราหน้าว่าหมดสิทธิ์ว่าความไปตลอดชีวิต เพียงเพราะเคยเข้าไปนั่งเก้าอี้อนุกรรมการในองค์กรรัฐวิสาหกิจมาก่อน”นายชนินทร์ ระบุ นายชนินทร์ ระบุอีกว่า เข้าใจดีว่าการหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูด ไม่ได้เกิดจากความห่วงใยในเรื่องมรรยาททนายความ แต่เพราะมีบางฝ่ายกลัวว่าหากคดีนี้เข้าสู่ศาล ความจริงจะถูกเปิดเผยอย่างชัดเจน จึงพยายามเบี่ยงประเด็นเพื่อสร้างภาพลักษณ์เชิงลบกับตน แต่ขอยืนยันว่า จะไม่ปล่อยให้การปั่นประเด็นเหล่านี้มาบังตาประชาชนได้ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่การโจมตีตัวบุคคล แต่คือการค้นหาความจริงและความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับประชาชนผู้เดือดร้อนในคดีนี้.-319.-สำนักข่าวไทย

...