น้ำมัน

ริยาด 2 มิ.ย.- หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า ซาอุดีอาระเบียเตรียมตัวเพิ่มกำลังผลิตน้ำมัน หากปริมาณน้ำมันรัสเซียที่ออกสู่ตลาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก รายงานอ้างแหล่งข่าวการทูตว่า กำลังมีการหารือเรื่องซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันทันที และอาจจะประกาศเรื่องนี้ในการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปกและประเทศผู้ส่งออกน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกที่เรียกรวมกันว่าโอเปกพลัส ซึ่งมีรัสเซียรวมอยู่ด้วยในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะเลื่อนการเพิ่มกำลังผลิตที่กำหนดไว้สำหรับงวดเดือนกันยายนให้เร็วขึ้นมาเป็นเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโอเปกเคยปฏิเสธคำขอของรัฐบาลสหรัฐเรื่องเพิ่มกำลังผลิตให้มากกว่าที่ตกลงกันภายในกลุ่มโอเปกพลัสว่าจะทยอยเพิ่ม ไฟแนนเชียลไทมส์อ้างแหล่งข่าวว่า ซาอุดีอาระเบียตกลงจะเปลี่ยนจุดยืนและเพิ่มกำลังผลิตเพื่อชะลอราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ตามนโยบายฟื้นความสัมพันธ์กับสหรัฐ นอกจากนี้ยังรับปากจะเพิ่มกำลังผลิตทันที หากเกิดภาวะที่ปริมาณน้ำมันในตลาดต่ำกว่าปริมาณความต้องการใช้.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 31 พ.ค.- รัฐสภาญี่ปุ่นประกาศใช้งบประมาณรายจ่ายพิเศษเพิ่มเติม 2.7 ล้านล้านเยน (ราว 720,000 ล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2565 เพื่อใช้รับมือกับราคาอาหารและเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้นหลังเกิดสงครามยูเครน วุฒิสภาญี่ปุ่นผ่านความเห็นชอบงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมด้วยเสียงส่วนใหญ่ในวันนี้ หลังจากสภาผู้แทนราษฎรผ่านความเห็นชอบไปเมื่อวันศุกร์ รัฐบาลจะนำงบประมาณเพิ่มเติมของปีงบประมาณ 2565 ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน มาใช้สนับสนุนมาตรการเศรษฐกิจฉุกเฉินมูลค่า 6.2 ล้านล้านเยน (ราว 1.66 ล้านล้านบาท) ที่ร่างขึ้นเมื่อปลายเดือนเมษายน โดยจะนำงบประมาณเพิ่มเติมราว 1.2 ล้านล้านเยน (ราว 320,000 ล้านบาท) ไปต่ออายุโครงการอุดหนุนราคาน้ำมันที่จะสิ้นสุดในเดือนกันยายน และนำอีกราว 1.5 ล้านล้านเยน (ราว 400,000 ล้านบาท) ไปชดเชยงบประมาณสำรองที่นำมาใช้ดำเนินมาตรการบรรเทาทุกข์ประชาชน เช่น การแจกเงินครัวเรือนรายได้น้อยที่มีบุตรต้องเลี้ยงดู งบประมาณเพิ่มเติมทั้งหมดจะได้มาจากการออกพันธบัตรรัฐบาล เดิมรัฐบาลญี่ปุ่นตั้งงบประมาณปี 2565 ไว้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 107.60 ล้านล้านเยน (ราว 28.78 ล้านล้านบาท) ในจำนวนนี้เป็นงบประมาณสำรอง 5.5 ล้านล้านเยน (ราว […]

อาบูจา 29 พ.ค.- เกิดเหตุมีคนเบียดกันเสียชีวิตมากกว่า 30 คนในงานแจกอาหารของโบสถ์แห่งหนึ่งทางตอนใต้ของไนจีเรียเมื่อวันเสาร์ ตำรวจเผยว่า เหตุเกิดในขณะที่คิงส์แอสเซมบลี ซึ่งเป็นโบสถ์ท้องถิ่นจัดงานแจกอาหารและข้าวของให้แก่ผู้ยากไร้ที่สโมสรโปโลคลับพอร์ตฮาร์คอร์ต รัฐริเวอส์ ฝูงชนจำนวนมหาศาลเบียดเสียดยื้อแย่งกันจนผู้จัดงานไม่สามารถควบคุมได้ เป็นเหตุให้มีคนถูกเบียดเสียชีวิต 31 คน รองเท้าและรองเท้าแตะกระจัดกระจายในที่เกิดเหตุ ภาพที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เห็นหลายครอบครัวร่ำไห้และดูแลคนบาดเจ็บหน้าโรงพยาบาลทหาร ในจำนวนมีเด็กรวมอยู่ด้วย ด้านผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า มีการผลักกันไปมาในช่วงที่ฝูงชนซึ่งพยายามเข้าประตูสถานที่จัดงานถูกบอกให้ถอยหลังไป แต่ถูกกลุ่มคนด้านหลังดันกลับมา จนเกิดการเบียดและเหยียบกัน เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินแห่งชาติชี้ว่า สมาชิกโบสถ์นั่งอยู่ในสโมสร และปล่อยให้ฝูงชนด้านนอกเบียดกันเข้ามาผ่านประตูแคบ ๆ จึงเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น ตำรวจได้เปิดการสอบสวนเป็นคดีอาญาแล้ว ขณะที่ตัวแทนโบสถ์ยังไม่ชี้แจงใด ๆ ไนจีเรียเกิดเหตุเบียดกันตายในงานแจกอาหารหลายครั้งในช่วงหลายปีมานี้ ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกาแห่งนี้เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของทวีป แต่ข้อมูลของธนาคารโลกระบุว่า ประชากร 4 ใน 10 คนมีความเป็นอยู่ต่ำกว่าระดับความยากจนแห่งชาติ หน่วยงานบรรเทาทุกข์หลายแห่งเตือนว่า สถานการณ์ความไม่มั่นคงด้านอาหารในทวีปแอฟริกาจะยิ่งเลวร้ายลงอีก เพราะสงครามยูเครนทำให้ราคาอาหารและเชื้อเพลิงแพงยิ่งขึ้นไปอีก.-สำนักข่าวไทย

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเรียกร้องชาติตะวันตกให้หยุดเล่นกับรัสเซียและหันมาใช้มาตรการลงโทษที่เช้มข้นกว่าเดิม

โซล 20 พ.ค.-เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเมืองอุลซาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้แจ้งว่า เหตุไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันใหญ่ ของประเทศเมื่อคืนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน บาดเจ็บ 9 คน สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้รับเหมาที่กำลังทำงานซ่อมแซมท่อในโรงกลั่นกับผู้รับเหมารายอื่นอีก 10 คน ส่วนผู้รับเหมาที่บาดเจ็บ 9 คนมีทั้งอาการสาหัสและอาการเล็กน้อย ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ไฟไหม้และระเบิดขึ้นเมื่อเวลา 20.52 น.วันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นที่โรงกลั่นออนซานของเอส-ออยล์ ซึ่งเป็นบริษัทโรงกลั่นใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเกาหลีใต้ ขณะเกิดเหตุมีคนทำงานอยู่ทั้งหมด 26 คน ในจำนวนนี้ 14 คนเป็นพนักงานของบริษัทเอส-ออยล์ที่มีซาอุดีอารามโกของซาอุดีอาระเบียเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โรงกลั่นแห่งนี้มีกำลังผลิต 669,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 380 กิโลเมตร.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 9 พ.ค. – นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น เผยวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย หลังมีมติเห็นพ้องในการใช้มาตรการแบนน้ำมันรัสเซียร่วมกับกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ประเทศ หรือกลุ่มจี 7 เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กลุ่มจี 7 ได้ให้คำมั่นว่าจะยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียในการประชุมผ่านระบบออนไลน์เมื่อวันอาทิตย์เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แม้มีบางประเทศสมาชิกของกลุ่มจี 7 เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีทรัพยากรน้ำมันในประเทศน้อยและต้องพึ่งการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียก็ตาม อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีคิชิดะระบุว่า แม้ญี่ปุ่นจำเป็นต้องพึ่งการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียอย่างมากและเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากในการใช้มาตรการแบนน้ำมันรัสเซีย แต่เขามองว่าการร่วมมือของกลุ่มจี 7 มีความสำคัญเหนืออื่นใดในช่วงเวลาเช่นนี้ ทั้งยังระบุว่า ญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อลดหรือยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียไปพร้อม ๆ กับการประเมินสถานการณ์จริงจนกว่าจะยุติการนำเข้าน้ำมันได้ถาวร แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางดังกล่าว ข้อมูลจากรีฟินิทีฟ (Refinitiv) บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลด้านตลาดการเงินและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ระบุว่า ญี่ปุ่นนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียราว 1.9 ล้านบาร์เรลในเดือนเมษายน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนมากถึงร้อยละ 33 และไม่มีเรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติรัสเซียเข้าเทียบท่าเรือของญี่ปุ่นมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นเคยระบุว่า เป็นเรื่องยากที่ญี่ปุ่นจะตัดสินใจยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียในทันที เนื่องจากญี่ปุ่นต้องนำเข้าน้ำมันรัสเซียราว 33 ล้านบาร์เรลจากปริมาณน้ำมันนำเข้าทั้งหมด หรือคิดเป็นร้อยละ 4 […]

วอชิงตัน 5 พ.ค.-นายโคอิจิ ฮากิอูดะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เผยว่า ญี่ปุ่นจะประสบปัญหายากลำบากหากประกาศห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียในทันที เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านทรัพยากร นายฮากิอูดะแถลงในระหว่างเยือนกรุงวอชิงตันของสหรัฐว่า ญี่ปุ่นจะประสบปัญหายากลำบากหากเข้าร่วมในการประกาศแบนน้ำมันรัสเซียในทันทีดังเช่นประเทศอื่น ๆ หลังจากที่คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของสหภาพยุโรป หรืออียู ได้เสนอให้อียูใช้มาตรการคว่ำบาตรรุนแรงต่อรัสเซีย เช่น การห้ามนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย นายฮากิอูดะได้หารือกับนางจีนา เรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องต้องกันในหลักการเบื้องต้นเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเซมิคอนดักเตอร์เพื่อตั้งเป้ากระจายขีดความสามารถในการผลิตชิป เพิ่มความโปร่งใส และรับมือกับปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนในปัจจุบัน นายฮากิอูดะยังได้หารือกับนางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐ และขอให้สหรัฐช่วยเพิ่มการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ให้ญี่ปุ่นเพื่อลดการพึ่งพาด้านพลังงานจากรัสเซีย โดยที่ญี่ปุ่นจะจัดหาเงินทุนสนับสนุนบริษัทญี่ปุ่นให้เดินหน้าลงทุนโครงการก๊าซธรรมชาติเหลวในสหรัฐอีกด้วย นอกจากนี้ ญี่ปุ่นกับสหรัฐยังระบุในแถลงการณ์ร่วมกันว่า ทั้งสองประเทศตกลงที่จะตั้งโครงการริเริ่มที่มีเป้าหมายเพื่อหารือเกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานสะอาดและความมั่นคงด้านพลังงานที่เป็นผลมาจากวิกฤตในยูเครน ทั้งนี้ ญี่ปุ่นนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียร้อยละ 4 ของปริมาณน้ำมันนำเข้าทั้งหมดในปีที่ผ่านมานับถึงเดือนมีนาคม และยังนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียร้อยละ 9 รวมถึงถ่านหินร้อยละ 11.-สำนักข่าวไทย

สหภาพยุโรป หรือ อียู เสนอให้ใช้มาตรการห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียและให้ขับธนาคารใหญ่ที่สุดของรัสเซียออกจากเครือข่ายการโอนชำระเงินระหว่างประเทศ หรือ สวิฟท์ พร้อมแบนบริษัทแพร่ภาพกระจายเสียงรายใหญ่ของรัสเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการลงโทษรัสเซียรอบที่ 6 เพื่อกดดันรัสเซียที่ใช้กำลังรุกรานยูเครน

เบอร์ลิน 27 เม.ย.- สมาคมยานยนต์ทรงอิทธิพลของเยอรมนีเชิญชวนสมาชิก 21 ล้านคนช่วยประเทศลดการพึ่งพาน้ำมันนำเข้าจากรัสเซีย ด้วยการขับรถให้น้อยลงและใช้การเดินแทนหากสามารถทำได้ สมาคมเอดีเอซี (ADAC) โพสต์จดหมายเปิดผนึกในเว็บไซต์วันนี้ว่า การขับขี่ด้วยความเร็วที่ลดลงและการชะลอความเร็วล่วงหน้าโดยไม่หยุดรถกะทันหันจะช่วยประหยัดน้ำมันลงได้สูงสุดถึงร้อยละ 20 ขณะเดียวกันขอให้สมาชิกผู้ขับขี่ยานยนต์ใคร่ครวญเรื่องความจำเป็นในการใช้รถอย่างจริงจัง และเลือกไปใช้บริการขนส่งสาธารณะ หรือใช้การเดินแทน สมาคมเรียกร้องเรื่องนี้ หลังจากรัฐบาลเยอรมนีเผยว่า ต้องการยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียให้ได้ภายในสิ้นปีนี้.-สำนักข่าวไทย

เบอร์ลิน 25 เม.ย.- สมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ยังไม่สามารถหาจุดยืนร่วมกันเรื่องใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างเบ็ดเสร็จหรือเก็บภาษีลงโทษน้ำมันและก๊าซนำเข้าจากรัสเซีย นายโจเซฟ บอเรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของอียูให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ดีเวลต์ของเยอรมนีในวันนี้ว่า ณ เวลานี้สมาชิกอียูยังไม่สามารถหาจุดยืนร่วมกัน และจะมีการหารือประเด็นนี้ในการประชุมสุดยอดอียูครั้งต่อไปในสิ้นเดือนพฤษภาคม จึงยังไม่สามารถคาดหมายการตัดสินใจใด ๆ ได้ก่อนเวลานั้น อย่างไรก็ดี ขณะนี้สมาชิกอียูกำลังลดการพึ่งพาน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย เขาเชื่อว่าอียูจะสามารถลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียได้ในที่สุด และเมื่อถึงเวลานั้นรัสเซียจะเจ็บปวดต่อการสูญเสียรายได้ดังกล่าว ดีเวลต์รายงานเพิ่มเติมโดยไม่ได้อ้างแหล่งข่าวว่า คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของอียูอาจจะนำเสนอมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดที่ 6 ต่อชาติสมาชิกในสัปดาห์นี้ ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปหรือยูโรสแตทระบุว่า ยุโรปนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียมากที่สุดราว 1 ใน 4 ของการนำเข้าทั้งหมดในปี 2563 สมาชิกอียูหลายประเทศเรียกร้องให้ยุติการจ่ายค่าน้ำมันที่รัสเซียนำไปใช้สนับสนุนการทำสงครามกับยูเครนที่รัสเซียเรียกว่าเป็นปฏิบัติการทางทหารพิเศษ.-สำนักข่าวไทย