น้ำมัน

วอชิงตัน 16 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเรียกร้องโรงกลั่นน้ำมันให้ชี้แจงเหตุผลที่ไม่นำน้ำมันออกสู่ตลาดให้มากขึ้น และกอบโกยกำไรจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รอยเตอร์อ้างสำเนาจดหมายที่ไบเดนส่งถึงผู้บริหารบริษัทโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งว่า ผู้นำสหรัฐระบุว่า ในยามสงครามแบบนี้ การที่โรงกลั่นน้ำมันค้ากำไรเกินควรด้วยการผลักภาระไปให้ครัวเรือนชาวอเมริกันโดยตรงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ อีกทั้งยังไม่น้ำมันออกสู่ตลาดให้มากขึ้น เท่ากับบั่นทอนความพยายามของรัฐบาลที่หาทางชดเชยผลกระทบจากสงครามยูเครน ทั้งที่รัฐบาลได้เพิ่มการปล่อยน้ำมันสำรองและเพิ่มสัดส่วนเอทานอลในน้ำมันเบนซิน ด้านโฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า โรงกลั่นน้ำมันมีหน้าที่ในฐานะผู้รักชาติที่จะเพิ่มปริมาณน้ำมันและลดต้นทุนให้ผู้บริโภค รัฐบาลขอเรียกร้องให้โรงกลั่นทำในสิ่งที่ถูกต้อง ประธานาธิบดีไบเดนเพิ่มการกดดันโรงกลั่น เนื่องจากราคาน้ำมันที่สถานีบริการทำสถิติสูงสุดเกินแกลลอนละ 5 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว แหล่งข่าวเผยว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้ขอร้องโรงกลั่นเป็นการส่วนตัวให้เดินเครื่องโรงกลั่นที่ถูกปิดอยู่และเพิ่มกำลังผลิต รวมทั้งหาทางเพิ่มปริมาณน้ำมันเบนซินเข้าสู่ตลาด ราคาน้ำมันแพงที่ทำให้เงินเฟ้อสูงมากอยู่ในขณะนี้ทำให้ชาวอเมริกันไม่พอใจ และอาจส่งผลเสียต่อการเลือกตั้งกลางสมัยในวันที่ 8 พฤศจิกายนปีนี้ ช่วงที่ราคาน้ำมันร่วงเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และโรงกลั่นที่ไม่ทำกำไรถูกปิดไปหลายแห่ง โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐมีกำลังผลิตสูงสุดในเดือนเมษายน 2563 ไม่ถึงวันละ 19 ล้านบาร์เรล ส่วนเดือนมีนาคมปีนี้กำลังผลิตอยู่ที่วันละ 17.9 ล้านบาร์เรล โรงกลั่นในสหรัฐเผยว่า กำลังผลิตในขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 94 และไม่สามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ตามที่ประธานาธิบดีต้องการ.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 13 มิ.ย.- แหล่งข่าวเผยว่า ทำเนียบขาวจะประกาศในสัปดาห์นี้เรื่องประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะเยือนซาอุดีอาระเบียในเดือนหน้า และอาจจะต้องพบมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ผู้ที่เขาเคยประณามเรื่องผู้สื่อข่าวถูกสังหารในตุรกี แหล่งข่าวเผยว่า การเยือนดังกล่าวน่าจะมีขึ้นราวกลางเดือนกรกฎาคม ขณะที่โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐยืนยันว่า กำลังมีการเตรียมการเรื่องประธานาธิบดีไบเดนเยือนซาอุดีอาระเบียและอิสราเอล ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันในรายละเอียดได้ แต่จะประกาศทันทีที่สามารถทำได้ รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า การเยือนดังกล่าวน่าจะมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียในช่วงที่ผู้นำสหรัฐกำลังหาทางทำให้น้ำมันเบนซินในประเทศมีราคาลดลง ทำเนียบขาวเคยแถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนคิดว่า เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียเป็นบุคคลน่ารังเกียจ เพราะมีส่วนร่วมในการสังหารนายจามาล คาชอกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบียที่ต่อต้านรัฐบาลและทำงานให้กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐ นายคาชอกกีถูกสังหารในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูลของตุรกีเมื่อปี 2561 โดยมีรายงานข่าวว่าเขาถูกฆ่าหั่นศพ ขณะที่สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐหรือซีไอเอ (CIA) สรุปว่า เจ้าชายซาอุดีอาระเบียเป็นผู้สั่งการสังหาร.-สำนักข่าวไทย

โคลัมโบ 12 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรามาสิงหะของศรีลังกาเผยว่า ศรีลังกาอาจจำเป็นต้องซื้อน้ำมันจากรัสเซียเพิ่มเติม เพราะกำลังต้องการน้ำมันอย่างมากในขณะที่กำลังประสบวิกฤตเศรษฐกิจร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน นายกรัฐมนตรีวิกรามาสิงหะ วัย 73 ปี ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าวเอพีเมื่อวันเสาร์ หนึ่งวันก่อนรับตำแหน่งครบ 1 เดือนในวันนี้ว่า เขาจะพิจารณาแหล่งน้ำมันอื่น ๆ ก่อนเป็นอันดับแรก แต่ก็พร้อมนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียเพิ่มเติม เขาไม่แสดงความเห็นโดยตรงต่อกรณีที่รัฐมนตรีพลังงานศรีลังกาเผยกับสื่อเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนว่า ศรีลังกาได้สั่งซื้อน้ำมันดิบรัสเซีย 90,000 เมตริกตันเพื่อเดินเครื่องโรงกลั่นที่มีอยู่เพียงแห่งเดียว และไม่ทราบว่ามีการสั่งซื้อเพิ่มเติมหรือไม่ แต่บอกว่าศรีลังกากำลังต้องการเชื้อเพลิงอย่างมาก และกำลังหาทางนำเข้าน้ำมันและถ่านหินจากประเทศผู้จัดส่งดั้งเดิมในตะวันออกกลาง แต่หากไม่ได้ก็อาจต้องนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียอีกครั้ง ทางการกำลังเจรจากับผู้จัดส่งเอกชน แต่บางครั้งอาจไม่สามารถทราบได้ว่าน้ำมันที่ซื้อมาจากที่ใด เพราะผู้จัดส่งอาจสั่งซื้อจากรัสเซียและอิหร่านอย่างไม่เป็นทางการก็ได้ ศรีลังกามีหนี้ต่างประเทศสะสมทั้งหมด 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.77 ล้านล้านบาท) และขอพักชำระคืนหนี้เกือบ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 242,990 ล้านบาท) ที่ครบกำหนดในปีนี้ ปัญหาหนี้ทำให้ศรีลังกาไม่มีเงินนำเข้าสินค้าจำเป็น ทางการต้องหมุนเวียนดับไฟ ประชาชนต้องเข้าแถวยาวเหยียดเพื่อรอซื้อเชื้อเพลิง นายวิกรามาสิงหะซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 6 เผยว่า จะพิจารณาโครงการของรัฐบาลที่ผ่านมาว่า โครงการใดจำเป็นต้องเดินหน้าต่อเพื่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และจะขอสินเชื่อจากประเทศใด ขณะเดียวกันรัฐบาลกำลังเจรจาขอปรับโครงสร้างกับจีน […]

คนขับรถบรรทุกในเกาหลีใต้ผละงานประท้วงเป็นวันที่ 6 แล้วในวันนี้ หลังจากการเจรจากับรัฐบาลไม่มีความคืบหน้าเรื่องข้อเรียกร้องขอเพิ่มค่าจ้างขนส่ง ส่งผลให้การขนส่งสินค้าตามศูนย์อุตสาหกรรมและท่าเรือใหญ่หยุดชะงักไปหมด

โซล 10 มิ.ย.- คนขับรถบรรทุกเกาหลีใต้จะหยุดขนส่งวัตถุดิบสำหรับผลิตชิป เช่นเดียวกับคนขับรถบรรทุกที่จะผละงานประท้วงหน้าโรงงานใหญ่ที่สุดของฮุนได มอเตอร์ เป็นส่วนหนึ่งของการประท้วงน้ำมันแพงที่ดำเนินมาตั้งแต่วันอังคาร ด้านผู้นำเกาหลีใต้ขอให้ใช้กฎหมายแก้ไขความขัดแย้ง สหภาพแรงงานคนขับรถบรรทุกขนส่งสินค้าของเกาหลีใต้เผยว่า คนขับรถบรรทุกจะหยุดการขนส่งวัตถุดิบสำหรับผลิตชิปที่ผลิตในเมืองอุลซาน ทางตอนใต้ของประเทศ สหภาพจะขอให้คนขับที่ไม่ใช่สมาชิกสหภาพหยุดขนส่งสินค้าที่โรงผลิตปิโตรเคมีในเมืองเดียวกันด้วย ขณะเดียวกันคนขับรถบรรทุก 1,000 คนจะเริ่มผละงานประท้วงหน้าโรงงานใหญ่ที่สุดของฮุนได มอเตอร์ ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของประเทศ หลังจากโรงงานแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองอุลซานเช่นเดียวกันมีกำลังผลิตลดลงเหลือร้อยละ 50-60 เมื่อวันพฤหัสบดี เพราะขาดแคลนชิ้นส่วนเนื่องจากคนขับรถบรรทุกประท้วงหยุดขนส่งสินค้า สมาชิกของสหภาพแรงงานคนขับรถบรรทุกขนส่งสินค้าของเกาหลีใต้ราว 8,100 คน คิดเป็นร้อยละ 36 ของสมาชิกทั้งหมด เริ่มผละงานตั้งแต่วันอังคารประท้วงราคาน้ำมันแพง ทำให้กระทบต่อการผลิต การขนส่งสินค้า และเสี่ยงทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกตึงตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากการที่จีนใช้มาตรการจำกัดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และสงครามยูเครน เนื่องจากเกาหลีใต้เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ด้านเซมิคอนดักเตอร์หรือชิป ยานยนต์ แบตเตอรี และเครื่องใช้ไฟฟ้า คนขับรถบรรทุกซึ่งรับจ้างขนส่งสินค้า ไม่ใช่พนักงานบริษัท เรียกร้องขอเพิ่มค่าจ้างขนส่ง และขอให้ขยายมาตรการฉุกเฉินรับประกันค่าระวางสินค้าที่จะหมดอายุในเดือนธันวาคมนี้ รวมทั้งขยายให้ครอบคลุมถึงรถบรรทุกหลากหลายประเภท ไม่ใช่เฉพาะรถบรรทุกตู้สินค้าและรถบรรทุกซีเมนต์เท่านั้น ด้านประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ที่รับตำแหน่งมาได้เพียง 1 เดือนกล่าวในวันนี้ว่า ควรใช้กฎหมายและระเบียบแก้ไขความขัดแย้งด้านแรงงาน รัฐบาลจะวางตัวเป็นกลางในเรื่องนี้ เพราะไม่สมควรที่จะเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

โคลัมโบ 7 มิ.ย.- ศรีลังกาเผยว่า ต้องใช้เงิน 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 172,395 ล้านบาท) ในช่วง 6 เดือนข้างหน้าเพื่อดูแลประชาชนให้มีมาตรฐานชีวิตขั้นพื้นฐาน นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรามาสิงหะของศรีลังกาแถลงต่อรัฐสภาในวันนี้ว่า เพื่อให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์ความวุ่นวายในขณะนี้ ศรีลังกาต้องการเงิน 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 113,780 ล้านบาท) สำหรับนำเข้าน้ำมัน  เงิน 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31,031 ล้านบาท) สำหรับซื้ออาหาร เงิน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8,620 ล้านบาท) สำหรับซื้อแก๊สหุงต้ม และอีก 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20,687 ล้านบาท) สำหรับซื้อปุ๋ย ขณะเดียวกันรัฐบาลได้อนุมัติการขอวงเงินสินเชื่อ 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,896 ล้านบาท) จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของอินเดีย เพื่อใช้สนับสนุนการนำเข้าปุ๋ยยูเรีย 150,000 ตัน สำหรับเกษตรกรใช้ในการเพาะปลูกในฤดูกาลหน้า […]

สมาชิกรัฐสภาเวียดนามเรียกร้องให้ลดภาษีน้ำมันเบนซินลงอีก เพื่อตรึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น เพราะจะทำให้ราคาสินค้าอื่น ๆ ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

วอชิงตัน 2 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐมีแนวโน้มจะไปเยือนซาอุดีอาระเบียในเร็ว ๆ นี้ และน่าจะได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรกกับเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัลซาอุด มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ผู้ที่เขาเคยตราหน้าว่าเป็นฆาตกร แหล่งข่าวเผยว่า ทำเนียบขาวกำลังพิจารณาเรื่องการเยือนซาอุดีอาระเบียของประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งจะรวมถึงการประชุมกับผู้นำกลุ่มความร่วมมืออ่าวอาหรับหรือจีซีซี (GCC) 6 ประเทศประกอบด้วยบาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และผู้นำอียิปต์ อิรัก และจอร์แดน เรื่องนี้มีขึ้นในช่วงที่ผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์เรื่องน้ำมันและความมั่นคงบีบให้รัฐบาลสหรัฐต้องทบทวนนโยบายรักษาระยะห่างกับซาอุดีอาระเบียที่ไบเดนได้หาเสียงไว้ระหว่างลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่อาจทำให้ไบเดนวัย 79 ปี ดูต่ำต้อยในสายตาสาธารณะ เพราะน่าจะต้องพบกับมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียพระชนมายุ 36 พรรษา ผู้ปกครองประเทศโดยพฤตินัย ที่ไบเดนเคยประณามจากกรณีผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบียถูกฆ่าหั่นศพในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูลของตุรกีเมื่อปี 2561 โฆษกทำเนียบขาวไม่ให้ความเห็นว่า ผู้นำสหรัฐจะไปเยือนซาอุดีอาระเบียหรือไม่ แต่เขามีกำหนดเยือนยุโรปในปลายเดือนมิถุนายนนี้.-สำนักข่าวไทย