ชัวร์ก่อนแชร์: คนงานไทยในไต้หวันติดเชื้อโควิด 19 เพราะกินน้ำแข็ง จริงหรือ?

4 กรกฎาคม 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Taiwan FactCheck Center (ไต้หวัน)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: หน่วยงาน CECC ของไต้หวันยืนยันว่าไม่พบแรงงานชาวไทยติดเชื้อโควิด 19 จากการกินน้ำแข็งในไต้หวัน ประธานสมาคมโรคติดเชื้อไต้หวันย้ำว่าการกินน้ำแข็งไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด 19 ข้อมูลที่ถูกแชร์: มีข้อมูลเท็จเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ในไต้หวันเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2021 โดยผู้โพสต์อ้างว่าตนติดโควิด 19 จากคนงานไทย 3 คน โดยคนงานทั้ง 3 มีนิสัยชอบดื่มน้ำเย็นและกินน้ำแข็งเพื่อคลายร้อนทุกๆ วัน จนตอนนี้ทั้ง 3 คนยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล สาเหตุเป็นเพราะน้ำแข็งทำให้หลอดลมมีปัญหาและเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด 19 โดยผู้โพสต์เตือนให้ผู้คนระวังการกินน้ำแข็ง และหันมากินน้ำร้อนเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: Taiwan FactCheck Center ได้สอบถามไปยัง ศูนย์บัญชาการกลางโรคระบาดของไต้หวัน (CECC) เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม […]

ชัวร์ก่อนแชร์: สหรัฐฯ ห้ามคนฉีดวัคซีนโควิด 19 ใช้สถานที่สาธารณะ จริงหรือ?

2 กรกฎาคม 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Myth Detector (จอร์เจีย)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: เป็นการนำแนวคิดต่อต้านวัคซีนของโรงเรียน Centner Academy ในรัฐฟลอริด้ามาบิดเบือน หลายหน่วยงานในสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนการฉีดวัคซีนและมอบสิทธิประโยชน์แก่ผู้ฉีดวัคซีนโควิด 19 มากมาย ข้อมูลที่ถูกแชร์: มีผู้ใช้ Facebook ในประเทศจอร์เจียที่ชื่อว่า Mari Margieva เผยแพร่ข้อมูลเท็จโดยอ้างว่าสำนักงาน, โรงยิม, ร้านค้า, สถานที่บริการทางธุรกิจ และโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา ปฎิเสธการให้บริการแก่ผู้ที่รับวัคซีนโควิด 19 พร้อมกับแนบคลิปรายงานข่าวโทรทัศน์จากสหรัฐฯ เพื่อเป็นการย้ำข้อกล่าวอ้างของตน FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: การตรวจสอบของ Myth Detector พบว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวไม่เป็นความจริง ไม่มีการกีดกันผู้ฉีดวัคซีนโควิด 19 จากการใช้บริการสถานที่สาธารณะในสหรัฐฯ ที่มาคำกล่าวอ้างมาจากการบิดเบือนรายงานข่าวที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐฟลอริด้า ประกาศไม่ให้เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนที่ฉีดวัคซีนแล้ว ไปมีปฎิสัมพันธ์กับเด็กนักเรียน เพราะเชื่อว่าผลเสียจากวัคซีนโควิด 19 จะส่งผลกระทบไปยังเด็กๆ ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน โดยเนื้อหาในท้ายข่าวที่ผู้โพสต์นำมาอ้าง ยังมีบทสัมภาษณ์ของ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: EMA ฟ้อง Astrazeneca จากปัญหาอาการข้างเคียงของวัคซีน จริงหรือ?

1 กรกฎาคม 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Vox Check (ยูเครน)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: EMA ตั้งใจฟ้องร้องบริษัท Astrazeneca จากปัญหาการส่งมอบวัคซีนโควิด 19 ล่าช้า ความขัดแย้งไม่เกี่ยวกับปัญหาประสิทธิผลและความปลอดภัยของวัคซีน Astrazeneca แต่อย่างใด ข้อมูลที่ถูกแชร์: มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ข้อมูลเท็จในประเทศยูเครนอ้างว่า องค์การยาของสหภาพยุโรป (EMA) เตรียมฟ้องร้องบริษัท Astrazeneca จากปัญหาอาการข้างเคียงของวัคซีนโควิด 19 FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: การตรวจสอบข้อมูลโดย Vox Check พบว่าข้ออ้างดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ เพราะเหตุผลที่ EMA ฟ้องร้องบริษัท Astrazeneca ไม่ใช่เพราะปัญหาอาการข้างเคียงของวัคซีนโควิด 19 แต่มาจากความล่าช้าของการส่งมอบวัคซีนให้กับประเทศในสหภาพยุโรป ซึ่งไม่เป็นไปตามสัญญาที่ทำไว้กับทาง EMA ตามข้อมูลขององค์การยาของสหภาพยุโรประบุว่า บริษัท Astrazeneca มีสัญญาส่งมอบวัคซีนโควิด 19 ให้กับชาติสมาชิกของสหภาพยุโรปจำนวน 300 ล้านโดสภายในปี 2021 […]

ชัวร์ก่อนแชร์: WHO แนะนำให้คนฉีดวัคซีน Sinovac ฉีดโดสที่ 3 เพิ่ม จริงหรือ?

1 กรกฎาคม 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Estadao Verifica (บราซิล)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: WHO ไม่เคยแนะนำให้ผู้ที่รับวัคซีน Sinovac ต้องฉีดวัคซีนโดสที่ 3 การวิจัยที่พบว่าวัคซีน Sinovac มีประสิทธิผลลดลงในกลุ่มผู้สูงอายุก็ยังไม่ได้ถูกประเมินทางวิชาการ (Peer Review) จึงไม่สามารถอ้างอิงได้ ข้อมูลที่ถูกแชร์: มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ผ่านทาง Twitter ในประเทศบราซิล โดยอ้างว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 ของบริษัท Sinovac ครบ 2 โดสแล้ว เข้ารับการฉีดวัคซีนโดสที่ 3 เพิ่มเติม เนื่องจากวัคซีนมีประสิทธิผลไม่เพียงพอ จนมีผู้เข้ามากดไลค์ข้อความกว่า 3,100 ครั้ง FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: Estadao Verifica ผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของบราซิล ได้อีเมล์ไปถามความเห็นกับทางองค์การอนามัยโลก ซึ่ง WHO ยืนยันว่าไม่มีการให้คำแนะนำดังกล่าวแต่อย่างใด […]

ชัวร์ก่อนแชร์: การฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 2 อาจทำให้ป่วยหนักหรือเสียชีวิต จริงหรือ?

30 มิถุนายน 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Verafiles (ฟิลิปปินส์)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: เป็นการนำการคาดการณ์ยอดผู้ป่วยและเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในประเทศอังกฤษมาสร้างข่าวปลอม การป่วยหรือเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนด้วยโรคประจำตัว ไม่นับว่าเป็นสาเหตุจากวัคซีน ข้อมูลที่ถูกแชร์: คลิปวิดีโอและข้อมูลเท็จที่เผยแพร่ของเพจ Facebook ที่ชื่อ Lynn Channel จากประเทศฟิลิปปินส์ ที่เตือนไม่ให้ชาวฟิลิปปินส์ไปฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มที่ 2 โดยอ้างการศึกษาของประเทศอังกฤษที่พบว่าสถิติการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตของผู้ที่รับวัคซีนโควิด 19 เข็มที่ 2 คิดเป็น 60% และ 70% ตามลำดับ โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวทำยอดผู้ชมได้ถึง 127,000 ครั้งและมียอดแชร์กว่า 9,200 ครั้ง ก่อนจะถูกลบไปจาก Facebook FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: คำกล่าวอ้างของ Lynn Channel นำมาจากรายงานของ Scientific Pandemic Influenza Group […]

ชัวร์ก่อนแชร์: วัคซีน AstraZeneca ป้องกันโควิด 19 ในผู้สูงอายุไม่ได้ จริงหรือ?

30 มิถุนายน 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Myth Detector (จอร์เจีย)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: ผลการทดลองเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2021 ระบุว่า วัคซีน AstraZeneca มีประสิทธิผลในการป้องกันโควิด 19 ในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 65 ปีหรือมากกว่าที่เป็น 80% ข้อมูลที่ถูกแชร์: มีการนำวิดีโอรายการโทรทัศน์ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิด 19 มาแชร์ทาง Facebook ในประเทศจอร์เจีย โดยอ้างว่าวัคซีนโควิด 19 ของบริษัท AstraZeneca มีประสิทธิผลในการป้องกันโควิด 19 เพียง 8-10% ในกลุ่มผู้มีอายุ 60 ถึง 70 ปี ส่วนผู้รับวัคซีนอายุ 70 ปีขึ้นไป ประสิทธิผลในการป้องกันโควิด 19 เป็น 0% FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ไวรัสกลายพันธุ์ทุก 23 วัน การฉีดวัคซีนจึงไม่มีประโยชน์ จริงหรือ?

29 มิถุนายน 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Vox Check (ยูเครน)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จบางส่วน บทสรุป: โควิด 19 เป็นไวรัสชนิด RNA ซึ่งมีอัตราการกลายพันธุ์บ่อย แต่ไม่มากเท่าไวรัสไข้หวัดใหญ่ แม้ประสิทธิผลต่อไวรัสกลายพันธุ์จะลดลง แต่วัคซีนยังป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ ข้อมูลที่ถูกแชร์: มีข้อความเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ในประเทศยูเครนว่า ไวรัสทุกชนิดจะกลายพันธุ์ทุกๆ 23 วัน ดังนั้นการป้องกันการติดเชื้อด้วยการฉีดวัคซีนจึงไม่ได้ผล อย่างไรก็ดี ข้ออ้างดังกล่าวไม่สามารถพิสูจน์ได้ FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: ไวรัสทุกชนิดมีคุณสมบัติในการผ่าเหล่า เหตุผลเพื่อเพิ่มโอกาสการแพร่เชื้อได้มากขึ้น สารพันธุกรรมของไวรัสแต่ละชนิดจะมีการเข้ารหัสใน DNA หรือ RNA ในทุกๆ ครั้งที่ไวรัสทำการแบ่งตัว จะเกิดความผิดพลาดที่นำไปสู่การผ่าเหล่า การผ่าเหล่าเช่นนี้ช่วยให้ไวรัสมีโอกาสรอดชีวิดมากขึ้น ไวรัสที่เกิดจากการผ่าเหล่า มีความสามารถในการหลีกเลี่ยงสารภูมิต้านทานในร่างกายมนุษย์และยาต้านไวรัส การผ่าเหล่าทำให้ไวรัสสามารถติดเชื้อในเซลล์ของอวัยวะอื่นๆ หรือแม้แต่ข้ามสายพันธุ์ไปติดเชื้อต่างสปีชีส์ได้ และเป็นเหตุผลว่าทำไมเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 หรือโควิด 19 ซึ่งพบในค้างคาวจึงสามารถก่อโรคในมนุษย์ได้ แต่กระนั้น ก็ไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันได้ว่าไวรัสทุกชนิดจะเกิดการกลายพันธุ์ทุก 23 วัน […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ถ้าทุกคนเป็นมังสวิรัติ โรคระบาดจากสัตว์จะหมดไปจากโลก จริงหรือ?

29 มิถุนายน 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Science Feedback (สหรัฐอเมริกา)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ทำให้เข้าใจผิด บทสรุป: เชื้อโรคจากสัตว์สู่คนก่อให้เกิดโรคระบาดถึง 60.3% แต่มีโรคระบาดอีกหลายชนิดที่ไม่มีสัตว์เป็นพาหะ การติดเชื้อจากสัตว์สู่คนไม่ได้มาจากการบริโภคเนื้อสัตว์เท่านั้น การสัมผัสสัตว์ป่วยหรือถูกแมลงกัดก็ทำให้ติดเชื้อได้เช่นกัน ข้อมูลที่ถูกแชร์: เป็นความเข้าใจผิดที่เผยแพร่ทาง Facebook ของ Moby ศิลปินแนวอิเล็กทรอนิก มิวสิคและนักเรียกร้องสิทธิสัตว์ชาวอเมริกัน โดยอ้างว่า ถ้าคนทั่วโลกหันมาเป็นมังสวิรัติ โรคระบาดจะหมดไปจากโลก เพราะโรคระบาดทั้งหมดมาจากการติดเชื้อจากสัตว์สู่คน FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: แม้ว่าสาเหตุของโรคระบาดส่วนใหญ่จะมาจากเชื้อโรคจากสัตว์สู่คน (60.3%) เช่นเดียวกับการอุบัติของโควิด 19 แต่ยังมีโรคระบาดอีกหลายชนิดที่ไม่ได้มีสัตว์เป็นพาหะ อหิวาตกโรค ซึ่งเกิดจากการดื่มน้ำปนเปื้อนแบคทีเรีย และนำไปสู่การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ถึง 7 ครั้งระหว่างปี 1817 ถึงปัจจุบัน โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันว่าเชื้ออหิวาตกโรคไม่ได้มาจากสัตว์ การกินเนื้อสัตว์ไม่ใช่ช่องทางเดียวที่นำไปสู่การติดเชื้อโรคจากสัตว์สู่คน (zoonotic disease) โอกาสติดเชื้อยังรวมถึงการใกล้ชิดกับสัตว์ป่วยหรือการถูกแมลงกัดต่อย ไวรัสเฮนดรา ซึ่งก่อให้เกิดอาการทางระบบหายใจและสมองอักเสบ มีต้นเหตุการระบาดจากไวรัสที่อยู่ในตัวค้างคาวกินผลไม้ ที่มีสถานะเป็นสัตว์รังโรค […]

ชัวร์ก่อนแชร์: การทดลองวัคซีนโควิด 19 ในสัตว์ล้มเหลวและเสียชีวิตทุกตัว จริงหรือ?

28 มิถุนายน 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Tempo (อินโดนีเซีย)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: เป็นรายงานการทดลองวัคซีนโรคซาร์สในสัตว์เมื่อปี 2012 ไม่ใช่วัคซีนโควิด 19 การทดลองวัคซีนโควิด 19 ในสัตว์ทดลองและมนุษย์ประสบความสำเร็จด้วยดี ข้อมูลที่ถูกแชร์: มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทาง Facebook ในประเทศอินโดนีเซียว่า การทดลองวัคซีนโควิด 19 ในสัตว์ประสบความล้มเหลว และสัตว์ทดลองเสียชีวิตกันหมด โดยมีผู้นำข้อความไปแชร์อีกเกือบ 3 ร้อยครั้ง โดยข้อความระบุว่า สัตว์ทดลองวัคซีนทุกตัวเสียชีวิต แต่ไม่ใช่การตายโดยฉับพลัน หลายตัวเสียชีวิตในอีกหลายเดือนต่อมาด้วยอาการภูมิคุ้มกันบกพร่อง, การติดเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย และภาวะหัวใจล้มเหลว การทดลองวัคซีนไวรัสโคโรนาในสัตว์ทดลองประสบความล้มเหลว นอกจากนี้วัคซีนยังทำให้สัตว์ทดลองเกิดอาการตับอักเสบอีกด้วย FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: ผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของ Tempo พบว่าข้อความดังกล่าว นำมาจากผลวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2012 เกี่ยวกับผลการทดลองวัคซีนโรคซาร์สในสัตว์ ไม่เกี่ยวข้องกับการทดลองวัคซีนโควิด 19 แต่อย่างใด ดรูว์ ไวส์แมน ศาสตราจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย University […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ใกล้ชิดคนฉีดวัคซีนโควิด ประจำเดือนจะไม่ปกติและเป็นหมัน จริงหรือ?

26 มิถุนายน 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Politifact (สหรัฐอเมริกา)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: วัคซีนชนิด mRNA หรือชนิดไวรัสเวคเตอร์ไม่มีผลต่อการเกิดประจำเดือนไม่ปกติหรือความเสี่ยงต่อการเป็นหมันในสตรี อาการข้างเคียงของผู้ฉีดวัคซีนไม่สามารถส่งผ่านไปยังคนที่อยู่ใกล้ชิดได้เช่นกัน ข้อมูลที่ถูกแชร์: เป็นข้อมูลเท็จที่แชร์ผ่านทาง Facebook และ Instagram เมื่อวันที่ 15 เมษายนก่อนจะถูก Facebook ตั้งสถานะให้เป็นข่าวปลอม โดยเนื้อหาอ้างว่าหญิงสาวที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์หลายคนที่รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 หรืออยู่ใกล้ชิดกับคนฉีดวัคซีน ต่างประสบปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ, ประจำเดือนมาช้า, ปัญหาระดูยาว, เกิดอาการตกเลือด, เกิดลิ่มเลือดในประจำเดือน, เกิดภาวะเลือดออกหลังวัยหมดระดู, แท้งบุตร, ตั้งครรภ์นอกมดลูก, และอาการปวดประจำเดือนรุนแรง FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวไม่เป็นความจริง ไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนมีผลต่อประจำเดือนหรือความเป็นหมันในสตรี ยิ่งไปกว่านั้น อาการข้างเคียงของผู้ฉีดวัคซีนไม่สามารถส่งผ่านไปยังคนที่อยู่ใกล้ชิดได้เช่นกัน ดร.เจนนิเฟอร์ กันเทอร์ นรีแพทย์เจ้าของบทความเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างวัคซีนและอนามัยเจริญพันธุ์ในสตรี กล่าวว่าวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA หรือชนิดไวรัสเวคเตอร์ที่ใช้ในสหรัฐฯ ก็ไม่ส่งผลต่อการเกิดประจำเดือน, การเป็นหมัน […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ห้ามมีเพศสัมพันธ์กับผู้ฉีดวัคซีนโควิด 19 จริงหรือ?

25 มิถุนายน 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Myth Detector (จอร์เจีย)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: CDC ไม่มีข้อเสนอแนะหรือข้อห้ามเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ของผู้ได้รับวัคซีนโควิด 19 การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อโควิด 19 มากไปกว่ากิจกรรมอื่นๆ ข้อมูลที่ถูกแชร์: มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จในประเทศจอร์เจียว่า ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ผ่านการฉีดวัคซีนโควิด 19 เพราะจะเป็นอันตรายต่อคนใกล้ชิดที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา (CDC) มีการระบุข้อแนะนำเกี่ยวกับกิจกรรมที่ควรทำและไม่ควรทำสำหรับผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 แต่ไม่มีข้อไหนที่กล่าวถึงการมีเพศสัมพันธ์ แอน หลิว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ โรงพยาบาล Stanford Health Care เคยให้ทัศนะกับเว็บไซต์ Vice ว่า การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่ผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้วทั้งคู่ โอกาสจะเกิดการติดเชื้อโควิด 19 เป็นไปได้น้อย แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วไปมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนและเป็นคนที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในชายคาเดียวกัน โอกาสการติดเชื้อโควิด 19 ยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ดี แอน หลิว ย้ำว่าการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อโควิด 19 […]

ชัวร์ก่อนแชร์: อาการข้างเคียงของวัคซีน Pfizer คือ การเสียชีวิต จริงหรือ?

25 มิถุนายน 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Teyit (ตุรกี)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: เป็นการใช้ความหมายผลกระทบจากวัคซีนที่ไม่ถูกต้อง ถึงแม้การเสียชีวิตจะเป็น “เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์” ที่อาจเกิดจากวัคซีน Pfizer แต่การเสียชีวิตไม่ใช่ “อาการข้างเคียง” ของวัคซีน วัคซีนจะไม่ได้รับการอนุมัติ หากพบว่าโรคเรื้อรัง, ความพิการ หรือการเสียชีวิต เป็นอาการข้างเคียงของวัคซีน ข้อมูลที่ถูกแชร์: เป็นข้อมูลเท็จที่เผยแพร่ผ่านทาง Twitter ของดร.อาคิฟ บาซาราน แพทย์ชาวตุรกี เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2021 ซึ่งมีการนำข้อมูลวัคซีนโควิด 19 ของบริษัท Pfizer-BioNTech ที่รวบรวมโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) มาเผยแพร่ โดยเน้นที่รายการเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (adverse event) ของวัคซีน Pfizer-BioNTech ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “การเสียชีวิต” อย่างไรก็ดี การที่ดร.อาคิฟ บาซาราน เหมารวมว่า “การเสียชีวิต” เป็นหนึ่งในอาการข้างเคียงจากวัคซีน […]

1 20 21 22 23 24 25
...