ชัวร์ก่อนแชร์: WHO แนะนำให้คนฉีดวัคซีน Sinovac ฉีดโดสที่ 3 เพิ่ม จริงหรือ?

1 กรกฎาคม 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Estadao Verifica (บราซิล)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ

บทสรุป:


  1. WHO ไม่เคยแนะนำให้ผู้ที่รับวัคซีน Sinovac ต้องฉีดวัคซีนโดสที่ 3
  2. การวิจัยที่พบว่าวัคซีน Sinovac มีประสิทธิผลลดลงในกลุ่มผู้สูงอายุก็ยังไม่ได้ถูกประเมินทางวิชาการ (Peer Review) จึงไม่สามารถอ้างอิงได้

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ผ่านทาง Twitter ในประเทศบราซิล โดยอ้างว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 ของบริษัท Sinovac ครบ 2 โดสแล้ว เข้ารับการฉีดวัคซีนโดสที่ 3 เพิ่มเติม เนื่องจากวัคซีนมีประสิทธิผลไม่เพียงพอ จนมีผู้เข้ามากดไลค์ข้อความกว่า 3,100 ครั้ง

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


Estadao Verifica ผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของบราซิล ได้อีเมล์ไปถามความเห็นกับทางองค์การอนามัยโลก ซึ่ง WHO ยืนยันว่าไม่มีการให้คำแนะนำดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะในช่วงที่มีการกล่าวอ้าง วัคซีนโควิด 19 ของบริษัท Sinovac กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาขึ้นบัญชีเป็นวัคซีนสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งการพิจารณาเป็นความลับ และ WHO จะไม่ออกความเห็นใดๆ ต่อวัคซีนที่ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา

ที่มาขอข่าวปลอมดังกล่าว มาจากผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ 19 คนที่เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ MedRxiv เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2021 ซึ่งเป็นการสำรวจอาสาสมัครอายุมากว่า 70 ปีจำนวน 15,900 คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเซา เปาโล สถานที่พบการระบาดของไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์ P.1 เป็นอย่างมาก เพื่อประเมินประสิทธิผลในการป้องกันโรคของวัคซีน Sinovac หลังจากฉีดโดสที่ 2 ไปแล้วเป็นเวลา 14 วัน

ผลการสำรวจพบว่า การฉีดวัคซีน Sinovac ครบ 2 โดสในกลุ่มผู้มีอายุเกิน 70 ปีมีประสิทธิผลป้องกันโรคที่ 42% และจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% หลังจากฉีดวัคซีนโดสที่ 2 ไปแล้ว 28 วัน โดยในกลุ่มผู้มีอายุระหว่าง 70 ถึง 74 ปีจะมีประสิทธิผลสูงสุดที่ 61.8%

แต่พบว่าประสิทธิผลจะลดลงตามวัยที่เพิ่มขึ้น โดยจะเหลือ 48.9% ในกลุ่มผู้มีอายุ 75 ถึง 79 ปี และจะเหลือเพียง 28% ในกลุ่มผู้มีอายุ 80 ปีขึ้นไป

อย่างไรก็ดี งานวิจัยซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากองค์การอนามัยทวีปอเมริกา (PAHO) ยังไม่ได้รับการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญในแวดวงวิทยาศาสตร์ (Peer Review) ผลวิจัยจึงยังไม่สามารถนำไปอ้างอิงได้

ดิมาส โควาส ประธานสถาบัน Butantan Institute ผู้ผลิตวัคซีน Sinovac ในประเทศบราซิล ออกมายืนยันประสิทธิผลของวัคซีน Sinovac ผ่านทางคลิปวิดีโอเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมว่า ผลการวิจัยของ Butantan Institute ในเมืองเซา เปาโลและในหลายๆ เมืองในบราซิล รวมถึงการศึกษาในประเทศชิลี ยืนยันถึงประสิทธิผลที่ดีของวัคซีน Sinovac ในการป้องกันการป่วย, การนอนโรงพยาบาล และการเสียชีวิตจากโควิด 19 ในกลุ่มคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เช่นเดียวกับผู้สูงอายุ พร้อมย้ำว่าไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ตามที่กล่าวอ้าง

โดยเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ดิมาส โควาส ได้ให้การต่อคณะกรรมาธิการไต่สวนแห่งรัฐสภาเกี่ยวกับการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด 19 ในบราซิล (Covid-19 CPI) โดยประธานสถาบัน Butantan Institute ยอมรับถึงความเป็นไปได้ที่จะต้องฉีดวัคซีนโควิด 19 ทุกๆ ปีเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ไม่ต่างจากการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แม้แต่บริษัท Pfizer ก็กำลังวิจัยการใช้วัคซีนบูสเตอร์ ซึ่งสถาบัน Butantan Institute วางแผนที่จะศึกษาการใช้วัคซีนบูสเตอร์ด้วยเช่นกัน

โอตาวิโอ แรนซานี นักระบาดวิทยา ผู้เป็นหนึ่งในทีมวิจัยชี้แจงว่า ผลวิจัยพบว่าวัคซีน Sinovac โดสแรกให้ประสิทธิผลป้องกันโรคไม่ดีนักเมื่อเทียบกับวัคซีนยี่ห้ออื่น ผู้รับวัคซีนต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มที่ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้รับวัคซีนต้องรักษาสุขอนามัยพื้นฐานจนกว่าจะผ่านช่วง 14 วันหลังจากรับวัคซีนโดสที่ 2 ไปแล้ว งานวิจัยมุ่งหวังให้ประเทศที่ใช้วัคซีนของบริษัท Sinovac หรือวัคซีนเชื้อตายอื่นๆ ซึ่งเป็นประเทศรายได้น้อยหรือปานกลางให้ความสำคัญกับการวางแผนด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะในประเทศบราซิล ซึ่งในจำนวนผู้รับวัคซีน Sinovac จำนวน 9,972,111คน มีถึง 1,298,194 คนหรือ 13% ที่ไม่ได้รับวัคซีนโดสที่ 2

ข้อมูลอ้างอิง:

https://politica.estadao.com.br/blogs/estadao-verifica/e-falso-que-oms-tenha-recomendado-terceira-dose-de-coronavac/

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]