วอนยูเอ็นเข้ามาสอบเรื่องเจ้าของสื่อฮ่องกงถูกจับ

ฮ่องกง 11 เม.ย.- ทนายความของนายจิมมี ไล เจ้าของสื่อและนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ขอให้สหประชาชาติหรือยูเอ็นเข้ามาสอบสวนเรื่องที่เขาถูกคุมขังและตั้งข้อหาอาญาหลายข้อหา เพราะมองว่าเป็นการคุกคามทางกฎหมายเพื่อลงโทษเขาที่แสดงความคิดเห็น ทีมทนายความของนายไลในอังกฤษแถลงวันนี้ว่า ลูกความวัย 74 ปี อาจต้องใช้ชีวิตที่เหลือในเรือนจำ เพียงเพราะพูดแสดงความคิดเห็นและปกป้องเสรีภาพสื่อมวลชน ประชาธิปไตย และหลักนิติรัฐในฮ่องกง ทีมทนายความได้ส่งคำร้องไปยังผู้รายงานพิเศษยูเอ็นเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและแสดงออก การต่อต้านการก่อการร้ายและสิทธิมนุษยชน สิทธิที่จะมีเสรีภาพในการชุมนุมและรวมตัวอย่างสันติ และกลุ่มผู้ปกป้องสิทธิมนุษยชน ขณะนี้กำลังรอคำตอบอยู่ ขณะที่นายเซบาสเตียน ไล บุตรชายของเขาขอให้ผู้รายงานพิเศษยูเอ็นเข้ามาสอบสวนการกระทำของทางการจีนและฮ่องกงที่มีต่อชาวฮ่องกง เอพีอธิบายเพิ่มเติมว่า ผู้รายงานพิเศษยูเอ็นมีอำนาจในการหาข้อมูลจากหน่วยงานรัฐบาลเท่านั้น โดยอาจขอให้ทางการดำเนินมาตรการเพื่อยุติการละเมิดได้ นายไล เจ้าของหนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลีที่ปิดตัวไปแล้วถูกทางการฮ่องกงตั้งข้อหาโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่จีนใช้ในฮ่องกงตั้งแต่กลางปี 2563 ขณะนี้กำลังรับโทษจำคุก 20 ปี นอกจากนี้ยังถูกอายัดทรัพย์สินและถูกตั้งข้อหาอีกหลายข้อหาจากการเข้าร่วมการประท้วงหลายครั้ง.-สำนักข่าวไทย

อดีตผู้นำเบอร์ 2 ฮ่องกงประกาศเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่

นายจอห์น ลี อดีตผู้บริหารอันดับ 2 ของฮ่องกง ซึ่งประกาศตัวว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำสูงสุดฮ่องกงในการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม กล่าววันนี้ว่า เขาวางแผนที่จะเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของฮ่องกง

อดีตผู้บริหารอันดับ 2 ฮ่องกงจะเปิดแถลงข่าวหลังลาออก

นายจอห์น ลี อดีตผู้บริหารสูงสุดอันดับ 2 ของฮ่องกง กล่าวว่า เขาจะเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันเสาร์ หลังรัฐบาลจีนให้ความเห็นชอบการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าเลขาธิการของฮ่องกงของเขา

ผู้บริหารเบอร์ 2 ฮ่องกงลาออก-คาดชิงเป็นผู้บริหารสูงสุด

นายจอห์น ลี หัวหน้าเลขาธิการ ซึ่งเป็นผู้บริหารที่อาวุโสสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของฮ่องกง ลาออกจากตำแหน่งในวันนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า เขาจะสมัครชิงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงในการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม

“แคร์รี หล่ำ” ประกาศไม่ลงชิงตำแหน่งผู้นำฮ่องกงอีกสมัย

ฮ่องกง 4 เม.ย. – นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง เผยวันนี้ว่า เธอจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของฮ่องกงเป็นสมัยที่สอง เพราะต้องการกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว การแถลงข่าวของนางหล่ำมีขึ้นในขณะที่สื่อของฮ่องกงรายงานว่า นายจอห์น หลี่ หัวหน้าสำนักเลขาธิการรัฐบาลฮ่องกง เตรียมลาออกจากตำแหน่งเพื่อลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของฮ่องกงที่มีกำหนดจัดเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยคาดว่านายหลี่จะกลายเป็นตัวเต็งผู้นำฮ่องกงคนใหม่ นางหล่ำเผยในงานแถลงข่าวว่า เธอจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของฮ่องกงเป็นสมัยที่สอง เนื่องจากเหตุผลด้านครอบครัว เธอเคยบอกกับทุกคนมาก่อนว่า ตอนนี้ครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต และถึงเวลาที่เธอจะต้องกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวแล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นายหลี่ วัย 64 ปี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงในช่วงที่เกิดเหตุประท้วงรุนแรงเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยของฮ่องกงในปี 2562 ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดลำดับที่สองของฮ่องกงในปีก่อน โดยที่นักวิเคราะห์หลายรายให้ความเห็นว่าเป็นสัญญาณชี้ว่าจีนให้ความสำคัญด้านความมั่นคงของฮ่องกงมากกว่าด้านการเงินหรือเศรษฐกิจ ด้านนายหลี่ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าวในทันที ก่อนหน้านี้ ฮ่องกงได้ประกาศเลื่อนการเลือกตั้งผู้นำสูงสุดของฮ่องกงออกไปเป็นวันที่ 8 พฤษภาคม จากกำหนดเดิม 27 มีนาคม เพื่อให้รัฐบาลฮ่องกงมีเวลารับมือกับสถานการณ์ระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 ที่ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.17 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 8,100 คน. -สำนักข่าวไทย

เผยการเลือกตั้งผู้บริหารฮ่องกงจะเดินหน้าตามที่กำหนดไว้

นางแครี่ หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงกล่าววันนี้ว่า การเลือกตั้งผู้บริหารฮ่องกงจะเดินหน้าจัดขึ้นในวันที่ 8 พฤษภาคมตามแผนที่กำหนดไว้ โดยปฎิเสธกระแสการคาดเดาของสื่อต่าง ๆ ที่ว่า การเลือกตั้งจะต้องเลื่อนออกไปเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากการระบาดรุนแรงของเชื้อไวรัสโควิด-19

ฮ่องกงจะลดกฎการระงับเที่ยวบินลงครึ่งหนึ่งเหลือ 7 วัน

ฮ่องกงกล่าวว่า จะลดระยะเวลาห้ามเที่ยวบินของสายการบินที่พบผู้โดยสารที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปเมื่อเดินทางมาถึงฮ่องกง ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงลดลงต่อเนื่องหลังจากพุ่งถึงจุดสูงสุดแล้ว

ชี้เปิดพรมแดนแทบไม่มีผลกับโควิดระบาดในฮ่องกง

ฮ่องกง 22 มี.ค.- ผลการศึกษาของนักวิชาการชี้ว่า การเปิดพรมแดนให้นักเดินทางจากต่างประเทศเข้าฮ่องกงจะมีผลน้อยมากต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 คณะผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง องค์การอนามัยโลก และห้องทดลองปฏิบัติการเรื่องการค้นพบข้อมูลเพื่อสุขภาพคาดการณ์ในการศึกษาเรื่อง “การวางแผนไปข้างหน้า หลังจากฮ่องกงเผชิญการระบาดระลอกที่ 5 ของโอไมครอนสายพันธุ์ BA.2” ว่า การระบาดระลอกที่ 6 น่าจะเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน และกินเวลานาน 2 เดือน โดยอ้างอิงตามสมมติฐานที่ว่า ฮ่องกงจะยกเลิกมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมทั้งหมดภายในวันที่ 1 มิถุนายน หลังจากประกาศแล้วว่า จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เช่น การยกเลิกคำสั่งห้ามเที่ยวบินจาก 9 ประเทศ ผลการศึกษาระบุว่า ตราบใดที่ผู้เดินทางเข้าฮ่องกงฉีดวัคซีนครบโดสและมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบก่อนขึ้นเครื่องบิน พวกเขาจะมีผลน้อยมากต่อการแพร่ระบาดในฮ่องกง พร้อมกับแนะนำว่า ยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดสำหรับรัฐบาลในการเดินหน้าคือ การปรับเปลี่ยนอย่างควบคุมไปสู่การมีชีวิตร่วมกับเชื้อไวรัสโดยเร็ว เพื่อปล่อยให้ผู้ที่ยังไม่เคยติดเชื้อได้ติดเชื้อในลักษณะที่มีการควบคุมราวร้อยละ 40 เพราะจะนำมาซึ่งการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ผ่านการติดเชื้อตามธรรมชาติและการฉีดวัคซีน โดยย้ำว่า ต้องเพิ่มอัตราคนวัย 70 ปีขึ้นไปที่ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 2 โดสจากร้อยละ 70 ในปัจจุบันเป็นร้อยละ 90 ผลการศึกษาคำนวณว่า ภายในวันที่ 30 […]

ฮ่องกงจะเริ่มคลายกฎเหล็กโควิดตั้งแต่ เม.ย.

ฮ่องกง 21 มี.ค.- ฮ่องกงเตรียมผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่เดือนเมษายน ด้วยการยกเลิกคำสั่งห้ามเที่ยวบินจาก 9 ประเทศ ลดระยะเวลากักตัว และเปิดโรงเรียน นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกงประกาศในวันนี้ว่า จะยกเลิกคำสั่งห้ามเที่ยวบินมาจากออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส อินเดีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ อังกฤษ และสหรัฐตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน จากเดิมที่กำหนดจะเริ่มหลังวันที่ 20 เมษายน ผู้โดยสารจะต้องฉีดวัคซีนครบโดส มีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบในช่วง 48 ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่องบิน และมีโรงแรมสำหรับกักตัว โดยจะลดระยะเวลากักตัวจาก 14 วันลงเหลือ 7 วันหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ ด้านโรงเรียนจะเปิดการเรียนการสอนในชั้นเรียนตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน สถานที่สาธารณะจะเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน ส่วนแผนการบังคับตรวจหาเชื้อไวรัสกับประชาชนคราวละมาก ๆ จะระงับไปก่อน ตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ฮ่องกงปิดพรมแดนมาตั้งแต่ปี 2563 ด้วยการอนุญาตให้เที่ยวบินเข้าออกน้อยมาก และแทบไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารแวะพักเครื่องระหว่างทาง สร้างความลำบากอย่างยิ่งให้แก่ผู้ที่ต้องการเดินทางกลับฮ่องกง […]

ผู้นำฮ่องกงจะทบทวนมาตรการโควิดในวันจันทร์

นางแครี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง กล่าววันนี้ว่า เธอมีแผนการที่จะทบทวนข้อจำกัดเข้มงวดในการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในวันจันทร์ เพียงไม่กี่วันหลังจากที่ยอมรับว่า บรรดาสถาบันการเงินจำนวนมากกำลังหมดความอดทนกับนโยบายเรื่องโควิด-19 ในฮ่องกง

ฮ่องกงจะปิดชายหาดหลังจีนโวยคนไม่ใส่หน้ากาก

ฮ่องกง 16 มี.ค.- ฮ่องกงจะปิดชายหาดเกือบทั้งหมด หลังจากมีภาพถ่ายแสดงให้เห็นว่า คนที่ไปเที่ยวชายหาดไม่สวมหน้ากากอนามัยทำให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ไม่พอใจอย่างรุนแรง นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกงแถลงต่อสื่อในวันนี้ว่า เนื่องจากมีคนไปเที่ยวชายหาดเพิ่มขึ้น จึงต้องมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องระบบสาธารณสุข และลดการเดินทางของประชาชนเพื่อความปลอดภัย ทางการจะเริ่มปิดชายหาดเกือบทั้งหมดตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้ ฮ่องกงมีมาตรการควบคุมเชื้อไวรัสโคโรนาอยู่แล้ว เช่น ห้ามการรวมกลุ่มเกิน 2 คน บังคับสวมหน้ากากอนามัยขณะไต่เขา การประกาศปิดชายหาดมีขึ้นหลังจากมีการเผยแพร่ภาพถ่ายคนไม่สวมหน้ากากอนามัยขณะนอนอาบแดดและโต้คลื่น จุดกระแสไม่พอใจจากผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในจีนแผ่นดินใหญ่ที่โทษฮ่องกงว่ารับมือกับการระบาดล่าช้า เป็นเหตุให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกงซึ่งมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 750,000 คนในเวลาไม่ถึง 3 เดือน ไม่เคยใช้มาตรการล็อกดาวน์เลย ขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่ล็อกดาวน์คนหลายสิบล้านคนในสัปดาห์นี้ หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่าวันละ 3,000 คน.-สำนักข่าวไทย

ฮ่องกงไม่คุมเข้มโควิดมากไปกว่านี้แล้ว

ฮ่องกง 14 มี.ค.- ฮ่องกงจะไม่ใช้มาตรการที่เข้มงวดมากไปกว่าปัจจุบัน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น เพราะไม่สามารถเข้มงวดได้มากกว่านี้แล้ว นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกงยอมรับระหว่างการแถลงข่าวประจำวันในวันนี้ว่า ไม่สามารถเข้มงวดมากไปกว่านี้ เพราะได้ใช้มาตรการเข้มงวดที่สุดมาตั้งแต่พบการระบาด ด้วยการห้ามการรวมกลุ่มเกิน 2 คน ปิดสถานที่ส่วนใหญ่รวมถึงสถานศึกษา บังคับสวมหน้ากากอนามัยทุกแห่ง แม้แต่สถานออกกำลังกายกลางแจ้ง รัฐบาลต้องรอบคอบอย่างยิ่งก่อนใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวดยิ่งไปกว่านี้ โดยต้องคำนึงถึงสุขภาพจิตของประชาชนด้วย ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วผู้บริหารฮ่องกงกล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาเรื่องบังคับตรวจหาเชื้อกับชาวฮ่องกงทั้ง 7 ล้าน 4 แสนคน ฮ่องกงแจ้งวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26,908 คน เสียชีวิต 249 คน ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 700,000 คน เสียชีวิตรวมราว 4,200 คน ทั้งที่ใช้มาตรการควบคุมโควิดให้เป็นศูนย์ตามจีนแผ่นดินใหญ่ และปิดพรมแดนมาตั้งแต่ 2 ปีก่อน ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนบางคนกล่าวโทษฮ่องกงว่า ควบคุมการระบาดไม่ได้ เป็นเหตุให้เชื้อแพร่ระบาดไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเฉพาะเมืองเซินเจิ้นที่อยู่ตรงข้ามกับฮ่องกง.-สำนักข่าวไทย

1 15 16 17 18 19 116
...