“มาครง” ชี้ฝรั่งเศสกับจีนต้องร่วมมือกันเรื่องสงครามยูเครน

บาหลี 15 พ.ย. – ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ระบุในการประชุมนอกเวทีกลุ่มจี 20 ร่วมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนว่า ฝรั่งเศสกับจีนต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเอาชนะผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสงครามในยูเครน ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุในแถลงการณ์หลังประธานาธิบดีมาครงเสร็จสิ้นการพบปะกับประธานาธิบดีสีในงานประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซียในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีมาครงได้แสดงความวิตกกังวลอย่างยิ่งจากกรณีที่รัสเซียตัดสินใจเดินหน้าทำสงครามในยูเครนจนยืดเยื้อยาวนาน เหตุขัดแย้งในครั้งนี้ส่งผลกระทบไปยังอีกหลายประเทศนอกทวีปยุโรป ฝรั่งเศสกับจีนจึงควรร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเอาชนะผลกระทบที่เกิดจากสงครามในยูเครน แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า ประธานาธิบดีมาครงกับประธานาธิบดีสีได้เห็นพ้องร่วมกันว่าจะต้องหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในยูเครนโดยด่วน และเน้นย้ำถึงจุดยืนในการป้องกันการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของทางการจีนระบุว่า จีนให้ความสำคัญกับการเคารพผลประโยชน์หลักซึ่งกันและกัน รวมถึงเรียกร้องให้ฝรั่งเศสเปิดโอกาสการทำธุรกิจที่ยุติธรรมและไม่เลือกปฏิบัติมากขึ้นให้แก่บริษัทของจีนในฝรั่งเศส ทั้งยังระบุถึงสถานการณ์ยูเครนไว้ในย่อหน้าสุดท้ายว่า ประธานาธิบดีสีได้แสดงจุดยืนของจีนต่อสถานการณ์ในยูเครนไว้อย่างชัดเจนและแน่วแน่มาโดยตลอด นั่นคือ จีนขอเรียกร้องให้มีการใช้คำสั่งหยุดยิง เร่งหาทางยุติความขัดแย้ง และหันไปใช้แนวทางเจรจาเพื่อสันติภาพ.-สำนักข่าวไทย

ฝรั่งเศส-อินเดีย เรียกร้องยุติการสู้รบในยูเครนทันที

ปารีส 5 พ.ค. – อินเดียกับฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้ยุติการสู้รบในยูเครนทันที ขณะที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ซึ่งเดินทางเยือนฝรั่งเศสเมื่อวันพุธ ยังคงไม่ประณามรัสเซียที่นำกองทัพบุกโจมตียูเครน นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ระบุในแถลงการณ์ร่วมกันหลังพบปะหารือในกรุงปารีสเมื่อวันพุธว่า ฝรั่งเศสกับอินเดียรู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อวิกฤตด้านมนุษยธรรมและสถานการณ์ขัดแย้งที่ยืดเยื้อในยูเครน ทั้งสองประเทศขอประณามการสังหารพลเรือนจำนวนมากในยูเครนและเรียกร้องให้ยุติการสู้รบในทันทีเพื่อเดินหน้าใช้การเจรจาและวิถีการทูตเพื่อยับยั้งความทุกข์ยากของประชาชน อย่างไรก็ดี มีเพียงฝรั่งเศสที่แถลงประณามการนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนอย่างผิดกฎหมายของกองทัพรัสเซีย ส่วนอินเดียยังคงไม่ประณามรัสเซียในเรื่องนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า ฝรั่งเศสกับอินเดียจะทำงานร่วมกันในระดับพหุภาคีเพื่อรับมือกับความเสี่ยงด้านวิกฤตอาหารโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากปัญหาความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก ก่อนหน้านี้ ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสเผยว่า ประธานาธิบดีมาครงจะเน้นย้ำกับนายกรัฐมนตรีโมดีถึงผลของสงครามยูเครนที่กระทบต่อพื้นที่นอกสหภาพยุโรป หรืออียู ซึ่งรวมถึงทวีปเอเชียด้วย ฝรั่งเศสต้องการช่วยอินเดียเรื่องการกระจายความเสี่ยงของการพึ่งการนำเข้าอาวุธและพลังงานจากรัสเซียเพียงแห่งเดียวเพื่อให้อินเดียพบทางออกและแนวทางแก้ไขปัญหานี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีโมดี ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจเดินทางเยือนทวีปยุโรป เผยหลังการหารือกับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนีที่กรุงเบอร์ลินเมื่อวันจันทร์ว่า สงครามครั้งนี้จะไม่มีผู้ชนะ และทุกฝ่ายจะพ่ายแพ้.-สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” ยินดี “มาครง” คว้าชัยเลือกตั้งอีกสมัย

ปารีส 25 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และผู้นำจากหลายประเทศทั่วโลก กล่าวแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่คว้าชัยชนะจากการเลือกตั้งผู้นำฝรั่งเศสอีกสมัย ประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุผ่านทวิตเตอร์เป็นภาษายูเครนและฝรั่งเศสว่า ประธานาธิบดีมาครงเป็นมิตรแท้ของยูเครน และกล่าวขอบคุณฝรั่งเศสที่ให้การสนับสนุนยูเครนท่ามกลางสถานการณ์ที่ถูกรัสเซียบุกโจมตี เขาขอให้ประธานาธิบดีมาครงประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวฝรั่งเศส เขาเชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะเดินหน้าไปพร้อมกันเพื่อมุ่งสู่ชัยชนะร่วมกันครั้งใหม่ ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีมาครงได้มีบทบาทสำคัญในการพยายามยุติสงครามในยูเครนด้วยการเดินทางไปพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่กรุงมอสโกก่อนที่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และต่อสายคุยกับผู้นำรัสเซียหลายครั้ง ในขณะเดียวกัน ยังมีผู้นำจากหลายประเทศที่ร่วมแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีมาครงเช่นเดียวกัน นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ระบุว่า เขาขอแสดงความยินดีต่อชัยชนะของประธานาธิบดีมาครงและพร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้นำฝรั่งเศสต่อไป โดยที่ฝรั่งเศสถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่แน่นแฟ้นที่สุดและสำคัญที่สุดของอังกฤษ ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เผยผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาขอแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีมาครงที่คว้าชัยชนะจากการเลือกตั้งอีกสมัย ฝรั่งเศสเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐและมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับความท้าทายระดับโลก เขาหวังที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้นำฝรั่งเศสในด้านต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนยูเครน การปกป้องประชาธิปไตย และการรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ ยังมีผู้นำประเทศอื่น ๆ ที่ออกมาแสดงความยินดีต่อชัยชนะของประธานาธิบดีมาครง เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา อิตาลี สวีเดน โรมาเนีย […]

“มาครง-เลอ เปน” คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน. ฝรั่งเศสรอบแรก

ปารีส 11 เม.ย. – ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และนางมารีน เลอ เปน คู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนสำคัญ คว้าชัยจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ทั้งคู่เป็นผู้สมัครสองคนสุดท้ายที่ผ่านเข้าสู่การเลือกตั้งรอบสองในวันที่ 24 เมษายน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งรอบแรก ซึ่งนับไปได้ร้อยละ 96 ระบุว่า ประธานาธิบดีมาครง จากฝ่ายเสรีนิยมที่มีแนวทางสนับสนุนยุโรป มีคะแนนนำอยู่ที่ร้อยละ 27 ตามมาด้วยนางเลอเปน ซึ่งสนับสนุนแนวทางชาตินิยมขวาจัด ในอันดับสองด้วยคะแนนร้อยละ 24 ประธานาธิบดีมาครงกล่าวคำปราศรัยต่อกลุ่มผู้สนับสนุนหลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งรอบแรกว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอน การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีก 15 วันข้างหน้าจะเป็นตัวชี้ชะตาของฝรั่งเศสและยุโรป พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนสนับสนุนเขาในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อหยุดยั้งฝ่ายชาตินิยมขวาจัดในการปกครองฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของสหภาพยุโรป หรืออียู ในขณะเดียวกัน นางเลอ เปน ซึ่งเคยพ่ายแพ้ต่อประธานาธิบดีมาครงในการเลือกตั้งครั้งก่อน กล่าวต่อกลุ่มผู้สนับสนุนว่า เธอคือผู้ที่จะปกป้องประชาชนผู้อ่อนแอและรวมชาติที่เบื่อหน่ายชนชั้นสูง การเลือกตั้งในวันที่ 24 เมษายนจะเป็นวันแห่งการเดิมพันทางเลือกของสังคมและอารยธรรม ทั้งนี้ ผลสำรวจความเห็นส่วนใหญ่ของฝรั่งเศสชี้ว่า ประธานาธิบดีมาครงมีคะแนนนำนางเลอ เปนแบบสูสี เช่น ผลสำรวจความเห็นของสถาบันความคิดเห็นสาธารณะของฝรั่งเศส (Ifop) ที่ระบุว่า ประธานาธิบดีมาครงมีคะแนนนำนางเลอ […]

“มาครง” ชี้ต้องคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มหลังเหตุสังหารเมืองบูจา

ปารีส 4 เม.ย. – ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ระบุว่า จำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย และมีข้อบ่งชี้ชัดเจนแล้วว่ากองทัพรัสเซียเป็นผู้สังหารพลเรือนหลายร้อยคนที่เมืองบูจา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ ประธานาธิบดีมาครงเผยกับสถานีวิทยุของฝรั่งเศสในวันนี้ว่า ตอนนี้มีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนมากเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน โดยมีกองทัพรัสเซียเป็นผู้สังหารชีวิตพลเรือนหลายร้อยคนที่เมืองบูจา เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดข้อเรียกร้องในการใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่และมาตรการที่ชัดเจนยิ่งขึ้นต่อรัสเซีย เช่น มาตรการที่เจาะจงการส่งออกน้ำมันและถ่านหินของรัสเซีย ก่อนหน้านี้ ทางการรัสเซียได้ปฏิเสธว่ากองทัพรัสเซียไม่ได้เป็นผู้สังหารพลเรือนยูเครนในเมืองบูจา และระบุว่ายูเครนได้จัดฉากภาพถ่ายและคลิปวิดีโอเพื่อส่งให้สื่อของชาติตะวันตกนำไปเผยแพร่ ขณะนี้ เศรษฐกิจของรัสเซียกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 2534 หลังถูกสหรัฐและชาติพันธมิตรใช้มาตรการคว่ำบาตรรุนแรงนับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย สั่งเปิดฉากบุกโจมตียูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์. -สำนักข่าวไทย

“มาครง” คุย “ปูติน” อีกครั้งใน 48-72 ชั่วโมง

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เผยจะเจรจากับผู้นำรัสเซียอีกครั้งภายใน 48-72 ชั่วโมง เพื่อหารือเรื่องการอพยพประชาชนออกจากเมืองมาริอูโปลของยูเครน ที่กำลังถูกปิดล้อมและโจมตีอย่างหนัก

ยูเครนสอยเครื่องบินศัตรูตกใส่อพาร์ทเมนต์ในเมืองหลวง

เคียฟ 25 ก.พ. – ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของยูเครน ระบุว่า กองทัพยูเครนได้ยิงสกัดเครื่องบินจู่โจมของศัตรูตกใส่อาคารอพาร์ทเมนต์สูง 9 ชั้นในเขตดาร์นิสกีของกรุงเคียฟจนเกิดเพลิงไหม้ลุกลามเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของยูเครนเผยผ่านเทเลแกรม (Telegram) แอปพลิเคชั่นสนทนาออนไลน์แบบเข้ารหัสว่า กองทัพยูเครนได้ยิงสกัดเครื่องบินจู่โจมของศัตรูตกใส่อาคารอพาร์ทเมนต์ในเขตดาร์นิสกีของกรุงเคียฟ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเครื่องบินลำนี้มีคนขับหรือไม่ กรุงเคียฟยังคงมีเสียงระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้งเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยเขาระบุว่าเป็นเสียงกระสุนของกองทัพยูเครนที่ยิงใส่เครื่องบินของศัตรูเพื่อการป้องกันทางอากาศ ขณะที่นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 คนจากเหตุเครื่องบินตกดังกล่าว ในจำนวนนี้ มี 1 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมทั้งเตือนว่าอพาร์ทเมนต์ดังกล่าวเกิดเพลิงไหม้รุนแรงและอาจพังถล่มได้ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เผยว่า เขาเพิ่งได้ต่อสายคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ตามคำขอจากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เนื่องจากผู้นำยูเครนไม่สามารถติดต่อผู้นำรัสเซียได้ ประธานาธิบดีมาครงระบุว่า เขาได้โทรศัพท์หาประธานาธิบดีปูตินเพื่อขอให้ผู้นำรัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครน โดยที่การพูดคุยในครั้งนี้เป็นไปอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา และรวดเร็ว นอกจากนี้ เขายังขอให้ประธานาธิบดีปูตินหารือกับประธานาธิบดีเซเลนสกี เพราะผู้นำยูเครนไม่สามารถติดต่อผู้นำรัสเซียได้.-สำนักข่าวไทย

ฝรั่งเศสเผย “ไบเดน-ปูติน” ตกลงในหลักการซัมมิตยูเครน

ปารีส 21 ก.พ.- ทำเนียบประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียตกลงในหลักการเรื่องจัดการประชุมสุดยอดหรือซัมมิตเรื่องยูเครน ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ในเช้าวันนี้ว่า ประธานาธิบดีมาครงเป็นผู้เสนอแนวคิดเรื่องจัดซัมมิตว่าด้วยความมั่นคงและเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ในยุโรป และผู้นำทั้งสองประเทศตอบรับในหลักการ อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ระบุว่า ซัมมิตจะไม่สามารถเกิดขึ้น หากรัสเซียรุกรานยูเครนตามที่ชาติตะวันตกหวั่นเกรง ด้านกระทรวงกลาโหมเบลารุสแถลงว่า รัสเซียได้ขยายการซ้อมรบในเบลารุสออกไปจากเดิมที่จะสิ้นสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่แม็กซาร์ บริษัทเทคโนโลยีอวกาศในสหรัฐเผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียม เห็นรัสเซียเคลื่อนกำลังพลและยานยนต์หุ้มเกราะชุดใหม่มาประจำการในป่าเขา พื้นที่การเกษตร และพื้นที่อุตสาหกรรม ห่างจากพรมแดนยูเครนเพียง 15 กิโลเมตร แตกต่างจากที่ผ่านมาที่มักเป็นการประจำการตามค่ายทหารหรือฐานฝึก.-สำนักข่าวไทย

เผย “มาครง” ไม่ให้รัสเซียตรวจโควิดเพราะหวั่นขโมย DNA

ปารีส 11 ก.พ. – แหล่งข่าวที่อยู่ในคณะผู้ติดตามประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เผยว่า ผู้นำฝรั่งเศสไม่ยอมเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดตามคำขอของทางการรัสเซียในขณะที่เดินทางเข้าพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเมื่อวันจันทร์ เพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียได้ข้อมูลดีเอ็นเอของประธานาธิบดีมาครง แหล่งข่าวใกล้ชิดด้านข้อกำหนดทางสุขภาพของประธานาธิบดีมาครงเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ผู้นำฝรั่งเศสมี 2 ทางเลือก คือ ยอมเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดแบบซีพีอาร์ของทางการรัสเซียเพื่อให้ได้รับอนุญาตเข้าใกล้ประธานาธิบดีปูติน หรือปฏิเสธการตรวจหาเชื้อโควิดและต้องเว้นระยะห่างทางสังคมกับผู้นำรัสเซีย ทั้งยังระบุว่า ฝรั่งเศสทราบดีว่าการเดินทางเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีมาครงในครั้งนี้จะไม่มีภาพการจับมือระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศและต้องมีการใช้โต๊ะยาว เพราะฝรั่งเศสไม่ยอมให้รัสเซียได้ข้อมูลดีเอ็นเอของประธานาธิบดีมาครงอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกัน แหล่งข่าวที่อยู่ในคณะผู้ติดตามประธานาธิบดีมาครงยืนยันว่า ผู้นำฝรั่งเศสได้ปฏิเสธเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์โดยแพทย์ชาวรัสเซียจริง โดยเลือกตรวจหาเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์ที่ฝรั่งเศสก่อนออกเดินทางไปรัสเซียและให้แพทย์ประจำตัวที่เป็นชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ตรวจหาเชื้อโควิดอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงรัสเซีย สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคำบอกเล่าของแหล่งข่าวใกล้ชิดเป็นเหตุให้ประธานาธิบดีมาครงต้องรักษาระยะห่างทางสังคมกับประธานาธิบดีปูตินในระหว่างการเดินทางเยือนรัสเซียเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาวิกฤตการณ์ในยูเครน ขณะที่นักวิเคราะห์และนักการทูตหลายรายตั้งข้อสังเกตว่า ภาพถ่ายที่มีประธานาธิบดีปูตินนั่งหารือกับประธานาธิบดีมาครงบนโต๊ะยาว 4 เมตรเมื่อวันจันทร์อาจสะท้อนให้เห็นว่า ผู้นำรัสเซียต้องการส่งสารแสดงท่าทีทางการทูตบางอย่าง.-สำนักข่าวไทย

“มาครง” เยือนรัสเซียหารือ “ปูติน” แก้วิกฤตยูเครน

มอสโก 8 ก.พ. – ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ระบุว่า เขาหวังว่าจะเริ่มต้นกระบวนการเพื่อลดความตึงเครียดในยูเครนได้ ในขณะที่ผู้นำฝรั่งเศสเดินทางเยือนกรุงมอสโกเพื่อหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีมาครงและประธานาธิบดีปูตินได้นั่งหารือร่วมกันบนโต๊ะยาวโดยที่ทั้งสองผู้นำนั่งอยู่กันคนละฟาก ประธานาธิบดีมาครง กล่าวว่า การหารือในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในทิศทางที่ฝรั่งเศสต้องการ ซึ่งก็คือการลดความตึงเครียดในยูเครน ผู้นำฝรั่งเศสยังเรียกร้องถึงคำตอบที่เป็นประโยชน์ต่อรัสเซียและประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรปอีกด้วย ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีปูตินได้กล่าวต้อนรับประธานาธิบดีมาครงด้วยท่าทีเป็นมิตร โดยระบุว่า รัสเซียกับฝรั่งเศสมีข้อวิตกกังวลที่ตรงกันเกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคงในยุโรป และกล่าวชื่นชมความเป็นผู้นำของฝรั่งเศสในการพยายามแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ ประธานาธิบดีมาครงถือเป็นผู้นำจากชาติตะวันตกคนแรกที่เดินทางเข้าพบประธานาธิบดีปูตินนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน โดยที่รัสเซียได้สั่งกองทหารหลายหมื่นนายไปประจำการอยู่บริเวณพรมแดนติดยูเครน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีมาครง ซึ่งมีกำหนดเดินทางเยือนกรุงเคียฟของยูเครนในวันนี้ต่อจากรัสเซียเพื่อหารือกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยกับผู้สื่อข่าวก่อนเดินทางออกจากฝรั่งเศสว่า เขาคาดว่าการเจรจากับผู้นำของรัสเซียและยูเครนจะเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ไม่ได้หวังว่าการแก้ปัญหานี้จะจบลงภายในเวลาอันสั้น.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำฝรั่งเศสเดินสายรัสเซีย-ยูเครนหวังคลี่คลายสถานการณ์

ปารีส 7 ก.พ.- ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเดินทางไปกรุงมอสโกของรัสเซียในวันนี้ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังยูเครนในวันรุ่งขึ้น หวังใช้วิถีทางการทูตแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศที่ชาติตะวันตกกังวลว่ารัสเซียเตรียมบุกยูเครน ประธานาธิบดีมาครงใช้เวลาตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาต่อสายสนทนากับผู้นำพันธมิตรตะวันตก รัสเซีย และยูเครน แหล่งข่าวใกล้ชิดประธานาธิบดีเผยว่า จุดประสงค์หนึ่งของการไปรัสเซียคือเพื่อซื้อเวลาและยื้อสถานการณ์ไว้หลายเดือน อย่างน้อยจนถึงเดือนเมษายนที่ยุโรปจะมีการเลือกตั้งในหลายประเทศทั้งในฮังการี สโลวีเนีย และฝรั่งเศส ที่ปรึกษาทางการเมืองของเขามองว่า เป็นโอกาสที่มาครงจะได้แสดงความเป็นผู้นำในยุโรป แม้ว่าเขายังไม่ประกาศตัวว่าจะลงเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ก็ตาม เว็บไซต์ฟรองซ์แวงต์กัตร์ (France24) ของฝรั่งเศสระบุว่า ประธานาธิบดีมาครง วัย 44 ปี ดำเนินความพยายามทางการทูตกับรัสเซียมาโดยตลอด เขาเชิญประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียมาเยือน หลังจากตนเองรับตำแหน่งในปี 2560 ได้ไม่นาน และเชิญมาพบที่บ้านพักประธานาธิบดีในอีก 2 ปีถัดมา ประเทศยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นรัฐบริวารอดีตสหภาพโซเวียตวิจารณ์จุดยืนของมาครง ทำให้เขาต้องหารือกับผู้นำตะวันตกหลายครั้งก่อนไปเยือนรัสเซียในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำฝรั่งเศสเตือนผู้ไม่ฉีดวัคซีนโควิดจะใช้ชีวิตยาก

ปารีส 5 ม.ค. – ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เตือนว่า เขาตั้งใจที่จะทำให้ผู้ที่ยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในฝรั่งเศสใช้ชีวิตลำบากขึ้น ในขณะที่ร่างกฎหมายบังคับใช้ใบรับรองฉีดวัคซีนโควิดถูกเลื่อนออกไป เนื่องจาก ส.ส. ฝ่ายค้านร่วมกันต่อต้านร่างกฎหมายดังกล่าว ประธานาธิบดีมาครงให้สัมภาษณ์กับสื่อของฝรั่งเศสเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า แม้เขาจะบังคับให้ชาวฝรั่งเศสเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดไม่ได้ แต่เขาหวังว่าจะกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนด้วยการจำกัดการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง  ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในสังคมให้ได้มากที่สุด เขาจะไม่ส่งผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดเข้าเรือนจำ แต่รัฐบาลจะแจ้งให้ทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคมเป็นต้นไป ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดจะเข้าร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงละคร และโรงภาพยนตร์ไม่ได้อีกต่อไป ทั้งยังระบุว่า เขาต้องการทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ใช้ชีวิตลำบากมากขึ้นจนกว่าพวกเขาจะยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด อย่างไรก็ดี ร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะจำกัดการใช้ชีวิตในที่สาธารณะของผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิด ได้ถูกระงับการบังคับใช้ตั้งแต่หลังช่วงเที่ยงคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ทั้งที่ได้รับการคาดหมายว่าจะผ่านการอนุมัติในสัปดาห์นี้ ขณะที่ร่างกฎหมายดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่กลุ่มผู้ต่อต้านการฉีดวัคซีนโควิดอย่างมาก และทำให้ ส.ส. ฝรั่งเศสหลายคนที่สนับสนุนร่างกฎหมายนี้ถูกขู่ฆ่า ทางการฝรั่งเศสรายงานเมื่อวันอังคารว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 271,686 คน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในประเทศ ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 10.5 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 124,000 คน ทั้งนี้ ฝรั่งเศสฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้แก่ประชาชนครบสองโดสกว่าร้อยละ 90 ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราฉีดวัคซีนสูงเป็นอันดับต้น ๆ […]

1 2 3
...