ผู้นำฝรั่งเศสเตือนผู้ไม่ฉีดวัคซีนโควิดจะใช้ชีวิตยาก

ปารีส 5 ม.ค. – ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เตือนว่า เขาตั้งใจที่จะทำให้ผู้ที่ยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในฝรั่งเศสใช้ชีวิตลำบากขึ้น ในขณะที่ร่างกฎหมายบังคับใช้ใบรับรองฉีดวัคซีนโควิดถูกเลื่อนออกไป เนื่องจาก ส.ส. ฝ่ายค้านร่วมกันต่อต้านร่างกฎหมายดังกล่าว


ประธานาธิบดีมาครงให้สัมภาษณ์กับสื่อของฝรั่งเศสเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า แม้เขาจะบังคับให้ชาวฝรั่งเศสเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดไม่ได้ แต่เขาหวังว่าจะกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนด้วยการจำกัดการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง  ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในสังคมให้ได้มากที่สุด เขาจะไม่ส่งผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดเข้าเรือนจำ แต่รัฐบาลจะแจ้งให้ทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคมเป็นต้นไป ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดจะเข้าร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงละคร และโรงภาพยนตร์ไม่ได้อีกต่อไป ทั้งยังระบุว่า เขาต้องการทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ใช้ชีวิตลำบากมากขึ้นจนกว่าพวกเขาจะยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด

อย่างไรก็ดี ร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะจำกัดการใช้ชีวิตในที่สาธารณะของผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิด ได้ถูกระงับการบังคับใช้ตั้งแต่หลังช่วงเที่ยงคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ทั้งที่ได้รับการคาดหมายว่าจะผ่านการอนุมัติในสัปดาห์นี้ ขณะที่ร่างกฎหมายดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่กลุ่มผู้ต่อต้านการฉีดวัคซีนโควิดอย่างมาก และทำให้ ส.ส. ฝรั่งเศสหลายคนที่สนับสนุนร่างกฎหมายนี้ถูกขู่ฆ่า


ทางการฝรั่งเศสรายงานเมื่อวันอังคารว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 271,686 คน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในประเทศ ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 10.5 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 124,000 คน ทั้งนี้ ฝรั่งเศสฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้แก่ประชาชนครบสองโดสกว่าร้อยละ 90 ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราฉีดวัคซีนสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของสหภาพยุโรป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย