ออสเตรเลียเปิดประเทศรับต่างชาติฉีดวัคซีนครบ 1 ธ.ค.
ออสเตรเลียจะให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบโดสเข้าประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาตยกเว้นการเดินทางตามมาตรการจำกัดการระบาด
ออสเตรเลียจะให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบโดสเข้าประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาตยกเว้นการเดินทางตามมาตรการจำกัดการระบาด
มะนิลา 19 พ.ย. – ฟิลิปปินส์อนุมัติแผนงานที่จะอนุญาตให้ผู้เดินทางต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบโดสเดินทางเข้าประเทศได้ในเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายการเดินทางในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์เผยวันนี้ว่า คณะทำงานเฉพาะกิจด้านการรับมือโรคโควิด-19 ของฟิลิปปินส์ได้อนุมัติในหลักการที่จะอนุญาตให้ผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนโควิดครบโดสจากประเทศที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อในระดับต่ำเดินทางเข้าฟิลิปปินส์ได้ แต่ต้องผ่านการทบทวนเกี่ยวกับแนวทางต่าง ๆ ในขั้นสุดท้ายอีกครั้ง ขณะที่นางเบอร์นาเดตต์ โรมูโล-ปูยัต รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ ระบุในแถลงการณ์ว่า การอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากประเทศหรือดินแดนที่อยู่ในบัญชีสีเขียว ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบโดสและมีอัตราผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ในระดับต่ำ จะช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ ประเทศที่ฟิลิปปินส์จัดให้อยู่ในบัญชีสีเขียว เช่น ญี่ปุ่น จีน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอินเดีย ในขณะเดียวกัน หลายประเทศเพื่อนบ้านของฟิลิปปินส์ เช่น ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ต่างประกาศผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางในระดับที่แตกต่างกันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีอัตราฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้แก่ประชาชนในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ก่อนหน้านี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 1.4 ล้านคนในปี 2563 ลดลงเกือบร้อยละ 83 จากที่มี 8.2 ล้านคนในปี 2562 ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวหลักของฟิลิปปินส์ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ […]
จีนตั้งเป้าฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้พลเมืองอายุ 3 ปีขึ้นไปได้ครบทั่วประเทศ ภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้
พนมเปญ 15 พ.ย. – กัมพูชาประกาศอนุญาตให้ผู้เดินทางต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊กของเขาเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ว่า กัมพูชาจะอนุญาตให้ผู้เดินทางและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิดครบโดสเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายนเป็นต้นไป แต่ผู้เดินทางต่างชาติจะต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบสองใบ โดยที่ใบแรกเป็นผลตรวจหาเชื้อโควิดก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทางภายใน 3 วัน และใบที่สองเป็นผลตรวจหาเชื้อโควิดหลังเดินทางถึงกัมพูชา นอกจากนี้ เขายังสั่งให้กระทรวงสาธารณสุขกระทรวงท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนผู้เดินทางที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดจะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน กัมพูชาเป็นประเทศหนึ่งที่ควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี โดยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 120,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,800 คน อีกทั้งยังได้รับเสียงชื่นชมจากโครงการฉีดวัคซีนโควิดที่รวดเร็ว และมีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสร้อยละ 88 จากประชากรทั้งหมด 16 ล้านคน ทั้งนี้ การใช้ข้อจำกัดการเดินทางเพื่อรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของกัมพูชาชะงักงัน โดยที่กัมพูชามีรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2563 เหลือเพียง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (32,800 ล้านบาท) ลดจากเดิมที่มีเกือบ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (163,000 ล้านบาท) ในปี […]
สธ.12 พ.ย.-สธ.เผยฉีดวัคซีนโควิดแล้วกว่า 84 ล้านโดส คาดเหลืออีกประมาณ 10 ล้านคนที่ยังไม่ฉีด ตั้งเป้าเพิ่มอัตราการฉีดให้ครบ 100 ล้านโดสภายใน พ.ย.นี้ เร็วกว่าแผนเดิม 1 เดือน เพื่อสร้างความปลอดภัยช่วงเดือน ธ.ค.ที่จะมีเทศกาลเฉลิมฉลองรับปีใหม่และเดินทางจำนวนมาก ขอความร่วมมือฝ่ายปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของกิจการ ช่วยกันนำผู้ยังไม่ได้รับวัคซีนมาฉีด โดยเฉพาะกลุ่ม 608 และผู้อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยว นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทย มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ต่ำกว่าวันละ 1 หมื่นรายต่อเนื่องมา 2-3 สัปดาห์ ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก มีบางทวีปเริ่มกลับมาพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามอัตราป่วยและเสียชีวิตเริ่มลดลงภายหลังมีการฉีดวัคซีนจำนวนมากกว่า 7,300 ล้านโดสทั่วโลก ส่วนประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนแล้วประมาณ 84 ล้านโดส มีผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็มจำนวน 45 ล้านคน หรือร้อยละ 62 ของประชากร ซึ่งมีทั้งคนไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่อยู่ในประเทศไทย และคาดว่ายังเหลือผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอีกประมาณ […]
นายแพทย์ สสจ.เพชรบูรณ์ แจงกรณีหญิงสาวเป็นลมหลังฉีดวัคซีนโควิด ชี้เพราะกลัวเข็มและมีโรคประจำตัวคือโลหิตจางอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ทางโรงพยาบาลให้เลือดแล้ว
สหรัฐกลับมาเปิดพรมแดนระหว่างประเทศให้แก่ผู้เดินทางต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังใช้มาตรการดังกล่าวมาเป็นเวลา 20 เดือน ซึ่งทำให้หลายครอบครัวต้องแยกจากกัน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวหยุดชะงัก และเกิดความสัมพันธ์ทางการทูตที่ตึงเครียด
ซิดนีย์ 9 พ.ย. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ว่า ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มีโอกาสป่วยหนักหรือเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนถึง 16 เท่า ข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก ระบุว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่ฉีดวัคซีนครบโดสเพียงร้อยละ 11 จากทั้งหมด 412 คนที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ตั้งแต่ในช่วงกลางดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนตุลาคม และผู้เสียชีวิตมีอายุเฉลี่ย 82 ปี นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่ฉีดวัคซีนครบโดสเพียงร้อยละ 3 ที่มีอาการป่วยหนัก และพบผู้ป่วยติดเชื้อที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดสูงกว่าร้อยละ 63 จากผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด 61,800 คนตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน-7 ตุลาคม นางเคอร์รี แชนต์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุในแถลงการณ์ว่า ประชาชนอายุน้อยที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบโดสมีอัตราติดเชื้อโควิดในระดับต่ำและแทบไม่มีอาการป่วยรุนแรง ขณะที่ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนในกลุ่มดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงมากที่จะติดเชื้อโควิดและต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ที่ระบุในเดือนกันยายนว่า ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสถึง 11 เท่า ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 183,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 1,800 คน.-สำนักข่าวไทย
กรุงเทพฯ 8พ.ย.-นพ.ยง ชี้ไทยใกล้บรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด 100 ล้านโดส ภายในกลางเดือน ธ.ค. ขณะนี้อยู่ที่กว่า 80 ล้านโดสแล้ว ขณะที่การเปิดประเทศจำเป็น เพื่อพยุงเศรษฐกิจ สังคมให้ทุกคนอยู่ได้ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan วันนี้ (8พ.ย.)เรื่อง โควิด-19 วัคซีน ทุกอย่างต้องอยู่ในสมดุล ว่าเราฉีดวัคซีนได้สัปดาห์ละ 5 ล้านเข็ม ขณะนี้ได้ฉีดไปแล้วกว่า 80 ล้านโดส เป็นไปตามเป้าหมายกว่า 100 ล้านโดส ภายในกลางเดือนธันวาคม อย่างแน่นอน การให้วัคซีนจำนวนมาก เพื่อลดการป่วยตาย ลดการล้มละลายของระบบสาธารณสุข ภูมิคุ้มกันยังจะลดลงตามกาลเวลา เราจะต้องมีการกระตุ้นเข็มที่ 3 หลังจากนี้เพื่อให้ภูมิ และความต้านทานคงอยู่นานอีกด้านหนึ่งเป็นการถูกต้องที่เราจะต้องก้าวเดินออกไปข้างหน้า ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา ให้ทุกคนอยู่ได้ตามวิถีชีวิตใหม่ต่อไป (next normal) เมื่อโรคไม่สามารถให้หมดลงไปได้ เราจะต้องอยู่ด้วยกัน โดยที่โควิด-19 […]
วอชิงตัน 8 พ.ย. – สหรัฐจะกลับมาเปิดพรมแดนระหว่างประเทศอีกครั้งตั้งแต่วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ให้แก่นักเดินทางต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หลังจากปิดพรมแดนมาเป็นเวลา 20 เดือน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานวันนี้ว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ออกคำสั่งปิดพรมแดนประเทศเนื่องจากปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 มาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้เดินทางจากต่างชาติกว่า 30 ประเทศ เช่น อังกฤษ สหภาพยุโรป หรืออียู ที่ไม่สามารถเดินทางไปพบปะครอบครัวและทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวชะงักงัน ขณะที่สายการบินหลายแห่งคาดการณ์ว่า คำสั่งเปิดพรมแดนอีกครั้งของสหรัฐจะทำให้มีผู้เดินทางจำนวนมาก เนื่องจากสหรัฐได้ประกาศยกเลิกข้อจำกัดต่าง ๆ ให้แก่นักเดินทางที่ฉีดวัคซีนโควิดครบโดส แต่ยังคงมีการตรวจหาเชื้อโควิดและติดตามผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยติดเชื้อ บีบีซียังรายงานว่า ข้อกำหนดล่าสุดของสหรัฐระบุว่า ผู้เดินทางชาวต่างชาติจะต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิดก่อนออกเดินทางด้วยเที่ยวบิน รวมถึงใบรับรองผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบภายใน 3 วัน และข้อมูลการติดต่ออื่น ๆ ซึ่งจะทำให้พวกเขาไม่ต้องกักตัวเมื่อเดินทางถึงสหรัฐ. -สำนักข่าวไทย
คำสั่งห้ามชาวออสเตรเลียที่ยังไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข้าสถานที่สาธารณะ ส่งผลให้มีเว็บไซต์และแอปพลิเคชันเสนอขายใบรับรองปลอมผุดขึ้นมากมาย
วอชิงตัน 4 พ.ย.-สหรัฐเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดของไฟเซอร์ให้เด็กอายุ 5-11 ปีในวันพุธตามเวลาท้องถิ่นเป็นวันแรก หลังจากที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี แนะนำให้ฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กเล็กเป็นวงกว้างเมื่อวันอังคาร กาเอล โคเรียส วัย 7 ปี เป็นหนึ่งในเด็กเล็กกลุ่มแรกที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดที่คลินิกสุขภาพแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตันของสหรัฐ แม่ของโคเรียสกล่าวว่า เธอและลูกชายรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากกับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ และเฝ้ารอคอยช่วงเวลานี้มานานแล้ว ขณะที่ทางการสหรัฐระบุว่า มีวัคซีนจำนวนจำกัดจากวัคซีนทั้งหมดในเบื้องต้น 15 ล้านโดสที่จะได้รับการกระจายไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในวันพุธ แต่คาดว่าวัคซีนทั้งหมดจะได้รับการแจกจ่ายไปยังคลินิกกุมารแพทย์ โรงพยาบาลเด็ก และร้านขายยามากขึ้นในสัปดาห์หน้า ก่อนหน้านี้ ซีดีซีได้ประกาศแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดของไฟเซอร์ในเด็กอายุ 5-11 ปีเป็นวงกว้างเมื่อวันอังคาร หลังจากที่สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ ได้อนุมัติใช้วัคซีนดังกล่าวในกลุ่มเด็กเล็กเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะนี้ สหรัฐฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบโดสให้ประชาชนร้อยละ 58 จากประชากรทั้งหมด 329 ล้านคน และมีเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีราว 28 ล้านคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ทั้งนี้ สหรัฐจะฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในปริมาณเข็มละ 10 ไมโครกรัมในกลุ่มช่วงอายุดังกล่าวเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่อาจทำให้เด็กจำนวนมากติดเชื้อและต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล.-สำนักข่าวไทย