fbpx

“ไบเดน” จะฉีดวัคซีนโควิดเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่วันนี้

วอชิงตัน 25 ต.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ในวันนี้ ขณะที่สหรัฐกำลังเร่งผลักดันให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย ก่อนถึงวันขอบคุณพระเจ้าในเดือนพฤศจิกายนและเข้าสู่ฤดูหนาวในเดือนธันวาคมนี้ คารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐ เผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ในวันนี้ เพื่อให้ชาวอเมริกันมั่นใจว่าวัคซีนโควิดเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่นั้นปลอดภัย มีประสิทธิภาพ เข้าถึงประชาชนทุกคน และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทั้งยังระบุว่า ผู้นำสหรัฐได้เรียกร้องให้โรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จัดตั้งคลินิกบริการฉีดวัคซีนโควิดเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่อย่างน้อย 1 แห่งก่อนถึงวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งตรงกับวันที่ 24 พฤศจิกายน รวมถึงขอความร่วมมือให้บริษัทเอกชนอนุญาตให้พนักงานลาหยุดงานไปฉีดวัคซีนโควิด และจัดตั้งจุดบริการฉีดวัคซีนในที่ทำงาน โดยที่สหรัฐจะเร่งดำเนินการให้ประชาชนทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่โดยเร็วที่สุด ทำเนียบขาวสหรัฐเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ขณะนี้ มีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่เพียง 20 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรผู้สูงวัยทั้งหมด ขณะที่ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ระบุว่า เชื้อโควิดยังคงแพร่ระบาดทั่วสหรัฐและทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยสหรัฐพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่สัปดาห์ละกว่า 260,800 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,500 คน ขณะนี้ สหรัฐมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 99.1 […]

สหรัฐพบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์ BA.4-BA.5 เพิ่มเป็น 70%

วอชิงตัน 6 ก.ค. – ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี คาดการณ์ว่า สหรัฐจะพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 70 ในรอบสัปดาห์ของวันที่ 2 กรกฎาคม ซีดีซีเผยเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐจะพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 70 ในรอบสัปดาห์ของวันที่ 2 กรกฎาคม หลังจากที่ก่อนหน้านี้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ร้อยละ 52 ในรอบสัปดาห์ของวันที่ 25 มิถุนายน ขณะนี้ ข้อมูลล่าสุดระบุว่า สหรัฐพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ BA.4 ร้อยละ 16.5 และสายพันธุ์ BA.5 ร้อยละ 53.6 ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกได้ประกาศเพิ่มเชื้อโควิดสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ไว้ในรายชื่อสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวังเมื่อเดือนมีนาคม ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป ประกาศให้เชื้อโควิดทั้งสองสายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ย่อยที่ต้องเฝ้าระวังเช่นกัน […]

เอฟดีเอสหรัฐแนะฉีดวัคซีนโควิดให้เด็กต่ำกว่า 5 ปี

วอชิงตัน 16 มิ.ย. – คณะที่ปรึกษาของสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ ลงมติเป็นเอกฉันท์แนะนำให้เอฟดีเออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโมเดอร์นาและไฟเซอร์/ไบออนเทคในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า การลงมติแนะนำให้อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิดของคณะที่ปรึกษาเอฟดีเอถือเป็นย่างก้าวสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิดให้แก่เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน – 5 ปีที่ในตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้รับการฉีดวัคซีน ขณะที่นายปีเตอร์ มาร์กส์ เจ้าหน้าที่ของเอฟดีเอ กล่าวต่อคณะที่ปรึกษาของเอฟดีเอในที่ประชุมเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า แม้การระบาดของโรคโควิดในเด็กเล็กมีความรุนแรงน้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่สหรัฐพบเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเสียชีวิตจากโรคโควิดมากถึง 442 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าเด็กที่เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในช่วงปี 2552-2553 ที่มีเพียง 78 คน เอฟดีเอไม่ควรนิ่งนอนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ใหญ่ สำนักข่าวรอยเตอร์สคาดว่า เอฟดีเอมีแนวโน้มที่จะอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิดของโมเดอร์นาและไฟเซอร์ในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่รับมือการระบาดของโรคโควิดของทำเนียบขาวสหรัฐ เผยว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังวางแผนเริ่มฉีดวัคซีนโควิดให้เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีในวันที่ 21 มิถุนายน แต่ยังคงต้องรอให้เอฟดีเอประกาศอนุมัติอย่างเป็นทางการก่อน หากเอฟดีเออนุมัติใช้วัคซีนโควิดในกลุ่มเด็กเล็ก สหรัฐจะฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ให้เด็กอายุ 6 เดือน – 4 ปี […]

สหรัฐอนุมัติฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในเด็ก 5-11 ปี

วอชิงตัน 18 พ.ค.-สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ หรือเอฟดีเอ ประกาศอนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปีแล้ว นพ. โรเบิร์ต คาลิฟฟ์ ผู้บริหารของเอฟดีเอ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า เอฟดีเอได้อนุมัติการฉีดวัคซีนโควิดเข็มสามในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคโควิดอย่างต่อเนื่อง เด็กกลุ่มนี้ต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มสองแล้วอย่างน้อย 5 เดือน โดยจะใช้วัคซีนเข็มกระตุ้นขนาด 10 ไมโครกรัมเช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนเข็มแรกและเข็มสองที่เป็นสูตรสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี  นพ. คาลิฟฟ์ ยังระบุว่า แม้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่เป็นเด็กมีแนวโน้มจะมีอาการป่วยรุนแรงน้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนก็ทำให้มีเด็กมีอาการป่วยและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมากขึ้น รวมถึงอาจทำให้เด็กได้รับผลกระทบระยะยาวจากการป่วย แม้ว่าจะมีอาการป่วยตอนแรกไม่รุนแรงก็ตาม ทั้งนี้ ประกาศของเอฟดีเอมีขึ้นในขณะที่สหรัฐพบยอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 90,000 คน และมีตัวเลขผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ระบุว่า สหรัฐมีประชากรเด็กอายุ 5-11 ปี ราว 28 ล้านคน โดยพบเด็กกลุ่มนี้ติดเชื้อโควิด 4.8 ล้านคน และเสียชีวิต 360 คน แม้สหรัฐได้อนุมัติการฉีดวัคซีนโควิดสองเข็มแรกในเด็กอายุ 5-11 ปีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน […]

สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิดทะลุ 1 ล้านคนแล้ว

นิวยอร์ก 12 พ.ค. – สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทะลุ 1 ล้านคนแล้ว นับตั้งแต่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายแรกเมื่อสองปีก่อน ข้อมูลที่สำนักข่าวรอยเตอร์สบันทึกไว้พบว่า สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดทะลุ 1 ล้านคนแล้ว นับตั้งแต่องค์การอนามัยโลกประกาศให้โรคโควิดเป็นโรคระบาดทั่วโลกเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดเพียง 36 คน แต่ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น การระบาดของโรคโควิดในสหรัฐก็ลุกลามอย่างรวดเร็วราวกับไฟป่า เนื่องจากพบการระบาดรุนแรงในหลายเมืองที่มีประชากรหนาแน่น เช่น นครนิวยอร์ก ก่อนที่จะแพร่กระจายไปทั่วประเทศ ก่อนหน้านี้ สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดแซงหน้าตัวเลขทหารสหรัฐที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 และสูงกว่าตัวเลขทหารสหรัฐที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิดกว่า 405,000 คนในเดือนมกราคม 2564 ขณะนี้ ทั่วโลกมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิดกว่า 6.7 ล้านคน แต่องค์การอนามัยโลกระบุว่า ตัวเลขที่แท้จริงของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดทั้งทางตรงและทางอ้อมอาจมีสูงถึง 15 ล้านคนทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย

“ฟาวซี” เตือนสหรัฐไม่มีวันกำจัดโควิด-19 ได้

ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐ เตือนแม้ไม่มีการระบาดเฉียบพลันรุนแรง แต่การระบาดโควิด-19 ยังไม่สิ้นสุด และสหรัฐไม่มีทางกำจัดโควิดให้หมดสิ้นได้

ประธานสภาสหรัฐติดเชื้อโควิด-19

วอชิงตัน 8 เม.ย. – นางแนนซี เปโลซี ประธานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ ติดเชื้อโควิด-19 แต่ยังไม่แสดงอาการป่วย หลังจากที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางของสหรัฐหลายคนมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โฆษกส่วนตัวของนางเปโลซีระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า นางเปโลซี วัย 82 ปี มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกหลังจากที่ในช่วงต้นสัปดาห์มีผลตรวจไม่พบเชื้อโควิด นางเปโลซีได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบสองโดส รวมถึงวัคซีนเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งส่งผลให้เธอยังคงมีสุขภาพแข็งแรงดีแม้ติดเชื้อโควิด ทั้งนี้ นางเปโลซีจะเริ่มกักตัวในบ้านตามข้อกำหนดด้านสาธารณสุขตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โฆษกยังระบุว่า การติดเชื้อโควิดของนางเปโลซีทำให้จำเป็นต้องเลื่อนภารกิจเดินทางเยือนทวีปเอเชียออกไปก่อน โดยที่รัฐบาลจีนได้ออกมาเตือนว่าจะใช้มาตรการตอบโต้ขั้นรุนแรง หากนางเปโลซีเดินทางเยือนไต้หวันในช่วงสุดสัปดาห์นี้หลังเสร็จภารกิจเยือนญี่ปุ่นตามรายงานของสื่อไต้หวันและญี่ปุ่น ในขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน วัย 79 ปี มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบเมื่อช่วงค่ำวันพุธ และไม่เข้าข่ายเป็นผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดนางเปโลซีตามข้อกำหนดของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี โดยที่ประธานาธิบดีไบเดนได้พบกับนางเปโลซีที่งานของทำเนียบขาวและทักทายกันเล็กน้อยเมื่อสองวันก่อน ส่วนนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะที่ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของนางแฮร์ริสติดเชื้อโควิดเมื่อวันพุธ.-สำนักข่าวไทย

“โอบามา” ติดเชื้อโควิด-19

วอชิงตัน 14 มี.ค. – นายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่า เขาติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยมีอาการเจ็บคอมาเป็นเวลา 2-3 วันแล้ว อดีตประธานาธิบดีโอบามา วัย 60 ปี เผยผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาติดเชื้อโควิดและมีอาการเจ็บคอมาเป็นเวลา 2-3 วันแล้ว แต่อาการโดยรวมยังคงปกติ ส่วนนางมิเชล โอบามา อดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ นอกจากนี้ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐยังระบุผ่านโพสต์ในเฟซบุ๊กว่า เขาและภรรยารู้สึกดีใจที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด รวมถึงวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า แม้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ในสหรัฐจะลดลง แต่ทุกคนก็ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด รวมถึงวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อป้องกันอาการป่วยหนักและการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดไปสู่ผู้อื่น เว็บไซต์ข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างบุคคลใกล้ชิดอดีตประธานาธิบดีโอบามาว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐเพิ่งเดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตันเมื่อไม่นานมานี้ หลังเดินทางไปใช้ชีวิตในช่วงฤดูหนาวที่รัฐฮาวายของสหรัฐ การติดเชื้อโควิดของอดีตประธานาธิบดีโอบามาทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่สองที่ติดเชื้อโควิดต่อจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกเมื่อเดือนตุลาคม 2563 ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำสหรัฐ ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่สหรัฐจะมีวัคซีนโควิดใช้อย่างครอบคลุมทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ซีดีซีสหรัฐแนะนำให้ถอดหน้ากากอนามัยได้

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ แนะนำให้ประชาชนในพื้นที่พบการแพร่ระบาดโควิด-19 น้อย สามารถถอดหน้ากากอนามัยได้

เผยรัฐนิวยอร์กของสหรัฐเตรียมเลิกสั่งสวมหน้ากากในอาคาร

นิวยอร์ก 9 ก.พ. – สื่อของสหรัฐรายงานว่า นางเคธี โฮชูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กของสหรัฐ เตรียมยกเลิกคำสั่งบังคับสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่อาคารสาธารณะส่วนใหญ่ในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่หลายรัฐของสหรัฐออกมาประกาศยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียนและอาคารสาธารณะอื่น ๆ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ลดลง หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ รายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดที่ไม่เผยนามว่า นางโฮชูล ซึ่งเป็นผู้ว่าการรัฐจากพรรคเดโมแครต ตั้งใจที่จะยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในอาคารสาธารณะตามกำหนดเดิมมากกว่าที่จะขยายระยะเวลาคำสั่งดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้มีกระแสคัดค้านการบังคับสวมหน้ากากอนามัยและมีการยื่นเรื่องให้ศาลพิจารณา สื่อดังกล่าวยังระบุว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทางการรัฐนิวยอร์กจะขยายระยะเวลาหรือยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียนของรัฐด้วยหรือไม่ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าว ซึ่งเป็นคนละคำสั่งกับการสวมหน้ากากอนามัยในอาคาร จะสิ้นสุดลงในอีก 2 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ นางโฮชูลระบุว่า คำสั่งสวมหน้ากากอนามัยที่เธอประกาศใช้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมปีก่อนนั้นเป็นคำสั่งชั่วคราว เนื่องจากรัฐนิวยอร์กต้องเผชิญกับการระบาดรุนแรงของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุข ทั้งนี้ การยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในอาคารสาธารณะของรัฐนิวยอร์กมีขึ้นหลังจากหลายรัฐในสหรัฐที่มีผู้ว่าการรัฐจากพรรคเดโมแครต เช่น รัฐนิวเจอร์ซีย์ แคลิฟอร์เนีย คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ และออริกอน ได้ประกาศยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียนและอาคารสาธารณะอื่น ๆ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า.-สำนักข่าวไทย

หลายรัฐของสหรัฐจะยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากในอาคาร

วอชิงตัน 8 ก.พ. – รัฐนิวเจอร์ซีย์ คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ แคลิฟอร์เนียร์ และออริกอนของสหรัฐ ประกาศว่า จะยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในอาคาร เช่น โรงเรียนและสถานที่สาธารณะอื่น ๆ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อกลับไปใช้แนวทางใช้ชีวิตปกติร่วมกับเชื้อโควิดอีกครั้ง หลังพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนลดลง นายฟิล เมอร์ฟีย์ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า รัฐนิวเจอร์ซีย์  ซึ่งพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ลดลงในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา จะยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียนของรัฐตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมนี้ ขณะที่นายเนด ลามอนต์ ผู้ว่าการรัฐคอนเนตทิคัตระบุว่า รัฐคอนเนตทิคัตจะยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ส่วนนายจอห์น คาร์นีย์ ผู้ว่าการรัฐเดลาแวร์ประกาศว่า รัฐเดลาแวร์จะยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียนของรัฐตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิดในตอนนี้มีแนวโน้มดีขึ้นกว่าเมื่อสองสัปดาห์ก่อน แต่เชื้อโควิดยังคงทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออาการป่วยหนัก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐออริกอน เผยว่า รัฐออริกอนจะยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในอาคารสาธารณะ เช่น โรงเรียน ในวันที่ 31 มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่คาดว่าจะมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลลดลง ในขณะเดียวกัน นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของสหรัฐ […]

ศาลสูงสุดสหรัฐระงับคำสั่งฉีดวัคซีนโควิด พนง. บริษัทใหญ่

วอชิงตัน 14 ม.ค. – ศาลสูงสุดของสหรัฐสั่งระงับข้อกำหนดบังคับให้กลุ่มพนักงานบริษัทเอกชนรายใหญ่ในสหรัฐเข้ารับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สวมหน้ากากอนามัย หรือเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดทุกสัปดาห์ ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ออกโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ศาลสูงสุดของสหรัฐระบุว่า ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน แต่รัฐบาลสหรัฐสามารถใช้ข้อกำหนดนี้ได้ในกลุ่มพนักงานที่ทำงานในสถานพยาบาล ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลสหรัฐอ้างว่าข้อกำหนดฉีดวัคซีนโควิดจะช่วยให้สหรัฐรับมือกับการระบาดของโรคโควิดได้ ส่วนประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งมีคะแนนนิยมลดลงอย่างมาก กล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของศาลสูงสุดสหรัฐที่สั่งระงับข้อกำหนดฉีดวัคซีนโควิดให้พนักงานบริษัทเอกชนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องชีวิตของพวกเขา เขาขอเรียกร้องให้ผู้นำธุรกิจรายอื่น ๆ เข้าร่วมกับกลุ่มธุรกิจที่เห็นด้วยกับการฉีดวัคซีนโควิดในทันที และประกาศใช้ข้อกำหนดฉีดวัคซีนในบริษัทเพื่อปกป้องพนักงาน ลูกค้า และชุมชน ก่อนหน้านี้ รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนได้ออกข้อกำหนดพนักงานบริษัทเอกชนต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด สวมหน้ากากอนามัย และเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดทุกสัปดาห์โดยที่บริษัทเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งจะครอบคลุมกลุ่มบริษัทที่มีพนักงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป และส่งผลกระทบต่อพนักงานบริษัทราว 84 ล้านคน อย่างไรก็ดี ผู้คัดค้านข้อกำหนดดังกล่าว เช่น ส.ส. พรรครีพับลิกัน และกลุ่มบริษัทหลายแห่ง มองว่า รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนออกข้อกำหนดที่เกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลจนทำให้เกิดการคัดค้านทางกฎหมายในทันที.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 9
...