รัสเซียอ้างโจมตีเป้าหมายทางทหารยูเครนเกือบ 1,000 แห่ง

มอสโก 27 ก.พ.- กระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างว่า สามารถโจมตีเป้าหมายทางทหารของยูเครนได้มากถึง 975 แห่ง และปิดล้อมเมืองทางใต้อย่างเบ็ดเสร็จได้อีก 2 แห่ง โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงวันนี้ว่า ปฏิบัติการโจมตีของรัสเซียสามารถรุกเข้าไปในพื้นที่ของยูเครนได้อีก 52 กิโลเมตร กลุ่มกองกำลังของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์เดินหน้ารุกเข้าไปยังทิศทางของเมืองปิตรอฟสเกในแคว้นลูฮันสก์ ยึดได้เมืองปาฟโลโปลและเมืองปิสเชวิก และในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมากองกำลังรัสเซียสามารถปิดล้อมเมืองเคียร์ซอนและเมืองเบียร์ดยันสก์ที่อยู่ทางใต้ของยูเครนได้อย่างเบ็ดเสร็จ ขณะที่เมืองเกนิเชสก์และท่าอากาศยานเชียร์โนไบเยฟกาที่อยู่ทางใต้ก็ถูกยึดได้แล้ว โฆษกเผยว่า เมื่อวานนี้หน่วยต่อต้านอากาศยานที่ 302 ของกองทัพยูเครนที่มีระบบขีปนาวุธบุ๊กได้ยอมวางอาวุธโดยสมัครใจในภูมิภาคคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน กำลังพลยูเครนถูกควบคุมตัวทั้งหมด 471 นาย ขณะนี้กองทัพรัสเซียสามารถจัดการเป้าหมายโครงสร้างทางทหารของยูเครนได้แล้ว 975 แห่ง มีทั้งศูนย์ควบคุมและบัญชาการ ศูนย์สื่อสาร เสาเรดาร์ ระบบขีปนาวุธบุ๊ก และระบบป้องกันภัยทางอากาศโอซา ด้านกระทรวงสาธารณสุขยูเครนแจ้งเมื่อวันเสาร์ว่า มีผู้เสียชีวิต 198 คน บาดเจ็บมากกว่า 1,000 คน แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ตัวเลขดังกล่าวรวมทั้งทหารและพลเรือนหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

เพิ่มประมาณการเงินเฟ้อเวียดนามเพราะพลังงานแพงขึ้น

เอชเอสบีซี (HSBC) ธนาคารข้ามชาติของอังกฤษ ปรับเพิ่มประมาณการอัตราเงินเฟ้อของเวียดนาม เนื่องจากราคาพลังงานปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังคงไม่เกินเป้าหมายของทางการ และไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่เมื่อเทียบกับไทยและสิงคโปร์

ญี่ปุ่นต้องมีคนทำงานต่างชาติ 4 เท่าถึงจะโตตามเป้าหมาย

โตเกียว 3 ก.พ.- หน่วยงานวิชาการในญี่ปุ่นชี้ว่า ญี่ปุ่นจะต้องมีคนทำงานชาวต่างชาติจำนวน 4 เท่าของปัจจุบันภายในปี 2573 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ หน่วยงานวิชาการหลายแห่ง รวมถึงหน่วยงานขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นหรือไจก้า ออกรายงานว่า ญี่ปุ่นต้องเพิ่มจำนวนคนทำงานชาวต่างชาติจาก 1 ล้าน 7 แสน 2 หมื่นคนในปัจจุบัน เป็น 6 ล้าน 7 แสน 4 หมื่นคนภายในปี 2573 หรือเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า เป็นการคำนวณตามสมมติฐานที่ว่า คนทำงานชาวญี่ปุ่นจะหายไปมากกว่าร้อยละ 10 ในช่วง 20 ปีข้างหน้า เนื่องจากจำนวนประชากรลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 โดยเมื่อปีที่แล้วมีเด็กเกิดใหม่เพียง 125 ล้านคน แต่คนวัยทำงานลดลงอย่างรวดเร็วเพราะอายุมากขึ้น ปัจจุบันญี่ปุ่นมีคนทำงานต่างชาติราวร้อยละ 2.5 ของแรงงานทั้งหมด ราวครึ่งหนึ่งมาจากเวียดนามและจีน รายงานคาดว่า คนทำงานจากกัมพูชาและเมียนมาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 20 ปีข้างหน้า แต่จะยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากญี่ปุ่นใช้ระบบคนเข้าเมืองที่เข้มงวดและให้วีซ่าพำนักระยะสั้น นอกจากนี้การที่ญี่ปุ่นไม่เปิดรับชาวต่างชาติเพื่อสกัดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 […]

ผู้นำฟิลิปปินส์จะลงโทษ จนท.ฉีดวัคซีนโควิดไม่ได้ตามเป้า

ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์กล่าวว่า จะลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ไม่ได้ตามเป้าหมาย ในขณะที่ฟิลิปปินส์เตรียมจะเปิดประเทศ

ออสเตรเลียพร้อมผ่อนคลายแม้ยังคงมีโควิดรายใหม่

ซิดนีย์ 26 ก.ย.- 2 รัฐใหญ่ของออสเตรเลียยังคงมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ แต่ทางการพร้อมผ่อนคลายมาตรการจำกัดทันทีที่คนฉีดวัคซีนครบตามเป้าหมาย รัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลียแจ้งวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อในชุมชนรายใหม่ 961 คน ลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และมีผู้เสียชีวิต 9 คน ทางการพร้อมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่ใช้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน หากประชากรฉีดวัคซีนร้อยละ 80 ตามเป้าหมาย คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ขณะนี้คนวัย 16 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วร้อยละ 85.2 และได้รับครบ 2 เข็มแล้วร้อยละ 59.1 ด้านรัฐวิกตอเรียที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 แจ้งวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 779 คน ลดลงจากวันเสาร์ที่ทำสถิติสูงสุดที่ 847 คน และมีผู้เสียชีวิต 2 คน นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ในประเทศระหว่างร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มควอดกับสหรัฐ ญี่ปุ่น และอินเดียที่กรุงวอชิงตันของสหรัฐว่า หวังว่าแต่ละรัฐในออสเตรเลียจะเปิดพรมแดนและผ่อนคลายมาตรการจำกัด ทันทีที่ประชากรฉีดวัคซีนร้อยละ 80 ตามเป้าหมาย ประชาชนแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบสุขภาพของตนเอง เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าได้ และเพื่อให้กลับไปดำเนินชีวิตตามปกติได้ในช่วงคริสต์มาส […]

ออสเตรเลียบรรลุเป้าหมายอีกขั้นในการฉีดวัคซีนโควิด-19

เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเปิดเผยวันนี้ว่า นับจนถึงวันนี้ประชากรวัยผู้ใหญ่ของออสเตรเลียมากกว่าครึ่งหนึ่งเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรคโคโรนา 2019 ครบทั้ง 2 เข็มแล้ว ในขณะที่ออสเตรเลียเร่งระดมฉีดวัคซีนด้วยความหวังว่า จะผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดต่าง ๆ

สธ.เชื่อบรรลุเป้าฉีดวัคซีน 100 ล้านโดส 50 ล้านคน ในสิ้นปีนี้

กระทรวงสาธารณสุข เชื่อบรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชน มั่นใจในสิ้นปีนี้จัดหาวัคซีนและฉีดได้ตามเป้าหมาย 50 ล้านคน

กองปราบฯ ค้น 12 เป้าหมาย คลี่คลายคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจค้าหอย

คดีอุ้มฆ่านักธุรกิจค้าหอยถ่วงทะเลที่ จ.สุราษฎร์ธานี เกือบ 2 เดือนแล้วที่ยังไม่พบศพ และยังจับกุมผู้ต้องหาไม่ได้ ล่าสุดกองปราบฯ ลงพื้นที่ค้น 12 เป้าหมาย เชิญตัวพยานสอบปากคำเพิ่ม

ออสเตรเลียล้มเป้าฉีดวัคซีนหลังเปลี่ยนใจเรื่องแอสตราฯ

ออสเตรเลียล้มเลิกเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้ประชากรเกือบทั้งหมด 26 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ หลังจากมีคำแนะนำใหม่ว่า ผู้มีอายุไม่ถึง 50 ปีควรรับวัคซีนของไฟเซอร์มากกว่าของแอสตราเซนเนกาที่ออสเตรเลียใช้เป็นส่วนใหญ่

โครงการฉีดวัคซีนโควิดของออสเตรเลียไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

ออสเตรเลียยังไปไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ในการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยตัวเลขล่าสุดแสดงให้เห็นว่า มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนเพียงประมาณ 670,000 ราย จากเป้าหมายในเบื้องต้นที่ต้องการจะฉีดวัคซีนให้ได้ 4 ล้านคนภายในสิ้นเดือนมีนาคม

“ไบเดน” ระบุสหรัฐจะฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดสวันนี้

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าววานนี้ว่า เป้าหมายที่เขาตั้งไว้ว่าจะฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ได้ 100 ล้านโดส ภายในระยะเวลา 100 วันแรกที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี จะสามารถบรรลุผลสำเร็จได้ในวันศุกร์

อังกฤษคาดจะผ่อนคลายล็อกดาวน์ได้ในเดือนมี.ค.

ลอนดอน 17 ม.ค.- นายโดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษเผยว่า รัฐบาลหวังว่าจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้ตามเป้าหมาย และจะสามารถผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ได้ภายในเดือนมีนาคม นายร้าบให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์สกายนิวส์วันนี้ว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือคลายมาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศให้ได้โดยเร็วที่สุดที่สามารถทำได้ หวังว่าภายในต้นฤดูใบไม้ผลิราวเดือนมีนาคม จะอยู่ในจุดที่ตัดสินใจเรื่องนี้ได้ โดยจะไม่ยกเลิกครั้งใหญ่ในคราวเดียว แต่จะเป็นการทยอยยกเลิกเป็นระยะ ๆ อังกฤษมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากที่สุดในยุโรปกว่า 88,000 คน และมีผู้ป่วยสะสมกว่า 3.35 ล้านคน ล็อกดาวน์ทั้งประเทศตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม ปิดโรงเรียนเกือบทั้งหมด ปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็น และให้คนทำงานจากบ้านหากสามารถทำได้ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ ผู้มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ และบุคลากรทางการแพทย์แนวหน้ารวมกว่า 13 ล้านคนภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ เขาเผยในเวลานั้นว่า หากทุกอย่างดำเนินไปตามเป้าหมาย จะเริ่มพิจารณาเรื่องผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4
...