ทีมสืบต้นตอโควิดของอนามัยโลกเริ่มประชุมกับจีนแล้ว

ปักกิ่ง 29 ม.ค. – คณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกที่เดินทางไปจีนเพื่อสืบสวนที่มาของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เริ่มประชุมกับทีมนักวิทยาศาสตร์จีนแล้วในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการวางแผนตรวจเยี่ยมห้องปฏิบัติการ ตลาดขายอาหารทะเล และโรงพยาบาลในเมืองอู่ฮั่นของจีน คณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกเพิ่งเสร็จสิ้นมาตรการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน เมื่อวานนี้หลังเดินทางถึงจีนเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และย้ายไปอยู่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่นทางตอนกลางของจีนที่พบการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี 2562 นักไวรัสวิทยาจากศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยอีราสมุสรอตเทอร์ดามของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมการสืบสวนในครั้งนี้ทวีตว่า ทีมงานจะเข้าร่วมการประชุมกับทีมนักวิทยาศาสตร์ของจีนภายในห้องเดียวกันเป็นครั้งแรกเพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการตรวจเยี่ยมสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองอู่ฮั่น และจะสวมหน้ากากอนามัยระหว่างการประชุมที่เป็นไปตามมาตรการทางการแพทย์ ทั้งนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกคาดว่า จะใช้เวลาราว 2 สัปดาห์ในจีนเพื่อเดินทางไปตรวจเยี่ยมตลาดขายอาหารทะเลที่เป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 ในระยะแรก รวมถึงสถาบันไวรัสวิทยาของมณฑลอู่ฮั่นที่ถูกตั้งข้อสันนิษฐานว่าทำให้เชื้อไวรัสโคโรนาหลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการ แต่ทางการจีนได้ออกมาปฏิเสธการตั้งสมมติฐานดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง เดิมทีมผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกมีกำหนดเดินทางถึงจีนในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ทางการจีนได้ทำให้เกิดความล่าช้าออกไปจากกำหนดเดิมจนถูก ดร. ทีโดอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวตำหนิ ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐเคยกล่าวหาองค์การอนามัยโลกว่าเข้าข้างจีน. -สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกเผยเชื้อโควิดอังกฤษระบาด 60 ประเทศแล้ว

เจนีวา 20 ม.ค. – องค์การอนามัยโลกเผยว่า พบผู้ป่วยโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์แพร่เชื้อเร็วที่ระบาดในอังกฤษอย่างน้อย 60 ประเทศทั่วโลก และพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่ระบาดในแอฟริกาใต้ใน 23 ประเทศ องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ในรอบ 7 วันที่ผ่านมามียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั่วโลกสูงถึง 93,000 คน และมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น 4.7 ล้านคน และชี้ว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แพร่เชื้อเร็วที่พบการระบาดครั้งแรกในอังกฤษช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมาสามารถทำให้ติดเชื้อได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ 50 – 70 ขณะที่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่ระบาดในแอฟริกาใต้ก็ทำให้ติดเชื้อได้เร็วขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกระบุว่า เชื้อไวรัสโคโรนาที่กลายพันธุ์ดังกล่าวไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตง่ายขึ้น ขณะที่ไฟเซอร์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ และไบออนเทค บริษัทยาสัญชาติเยอรมนีเผยว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แพร่เชื้อเร็วที่พบการระบาดในอังกฤษ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ B117 ทั้งนี้ สหรัฐและหลายประเทศในทวีปยุโรปเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้างแล้ว ซึ่งทำให้เกิดความคาดหวังถึงการระบาดที่สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี ยังมีอีกหลายประเทศในยุโรปและประเทศอื่น ๆ เช่น อินเดียและรัสเซียที่ยังคงประสบปัญหาในการฉีดวัคซีนตามแผนที่วางไว้ ขณะนี้ทั่วโลกมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 96 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 2 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

องค์การอนามัยโลกเริ่มภารกิจหาที่มาโควิดในจีน

คณะนักวิทยาศาสตร์นานาชาติที่นำโดยองค์การอนามัยโลกเพื่อตรวจสอบหาที่มาของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะเริ่มภาระกิจด้วยการประชุมออนไลน์กับเจ้าหน้าที่ของจีนจากโรงแรมที่พักที่คณะผู้เชี่ยวชาญต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่พบการระบาดของโควิด-19 แห่งแรก

ผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลกจะถึงอู่ฮั่นวันพฤหัสบดี

กระทรวงต่างประเทศจีนกล่าววันนี้ว่า คณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกจะบินตรงถึงเมืองอู่ฮั่นในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อเริ่มภาระกิจที่ล่าช้ามาเป็นเวลานานในการสอบสวนหาต้นตอของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศจีน

ทีมสืบต้นตอโควิดของอนามัยโลกจะถึงจีน 14 ม.ค. นี้

ปักกิ่ง 11 ม.ค. – ทีมผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติขององค์การอนามัยโลก (WHO) จะเดินทางถึงจีนในวันที่ 14 มกราคมนี้ เพื่อสืบหาที่มาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติของจีนได้ประกาศวันที่เดินทางถึงจีนของทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก ซึ่งล่าช้าจากเดิมที่กำหนดมาถึงในต้นเดือน และไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับแผนการเดินทางของทีมดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ทางการจีนไม่อนุญาตให้ทีมผู้เชี่ยวชาญ 10 คนขององค์การอนามัยโลกเดินทางเข้าประเทศ ทำให้เกิดความล่าช้าในภารกิจสืบหาที่มาการระบาดของโรคโควิด-19 ในระยะเริ่มต้น กระทรวงสาธารณสุขของจีนระบุว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด นอกจากนี้ จีนยังถูกโจมตีอย่างหนักว่าพยายามปกปิดการรับมือเบื้องต้นที่ล่าช้า จนกระทั่งเชื้อไวรัสโคโรนาแพร่กระจายไปทั่วโลก หลังพบการระบาดครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น ทางตอนกลางของจีนในช่วงปลายปี 2562 ด้านสหรัฐเรียกร้องให้การสืบสวนที่นำโดยองค์การอนามัยโลกมีความโปร่งใส และตำหนิองค์การอนามัยโลกที่ปล่อยให้นักวิทยาศาสตร์จีนดำเนินการวิจัยเบื้องต้นไปก่อน รอยเตอร์ระบุว่า ก่อนที่ทีมผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกจะเดินทางถึงจีน รัฐบาลจีนได้พยายามเปลี่ยนเรื่องราวเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ที่เริ่มเกิดการแพร่ระบาด นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีนอ้างว่า ผลการศึกษาหลายต่อหลายชิ้นชี้ว่า เชื้อไวรัสโคโรนาเกิดขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลกก่อนจีน. -สำนักข่าวไทย

จีนระบุกำลังเตรียมต้อนรับองค์การอนามัยโลก

จีนกล่าวยืนยันในวันนี้ว่า การเตรียมการยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องสำหรับการเยือนของคณะผู้แทนจากองค์การอนามัยโลก ที่จะเดินทางไปที่เมืองอู่อั่น เพื่อสอบสวนหาที่มาของเชื้อไวรัสโครนา 2019 หลังจากที่องค์การอนามัยโลกตำหนิเรื่องความล่าช้าของจีน

ออสเตรเลียเรียกร้องจีนยอมให้ดับเบิลยูเอชโอสืบที่มาโควิด

แคนเบอร์รา 7 ม.ค. – ออสเตรเลียเรียกร้องจีนอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกเข้าไปตรวจสอบสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในทันที นางมาริส เพย์น รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของออสเตรเลียกล่าวว่า รัฐบาลออสเตรเลียต้องการให้ทางการจีนอนุญาตให้ทีมงานขององค์การอนามัยโลกเดินทางเข้าประเทศได้ในทันที ทั้งยังกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต้องให้องค์การอนามัยโลกมีส่วนร่วม และว่า รัฐบาลออสเตรเลียคาดหวังจะได้เห็นผลการศึกษาที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของนานาชาติในจีน ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นแกนนำในการออกมาเรียกร้องให้เกิดการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระเพื่อหาที่มาของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศร้าวฉาน จีน ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้าชั้นนำของออสเตรเลียได้ประกาศจำกัดการนำเข้าเนื้อวัวจากออสเตรเลีย เพิ่มอัตราภาษีศุลกากรของไวน์ออสเตรเลีย รวมถึงสั่งให้โรงงานในจีนหยุดซื้อฝ้ายจากออสเตรเลียอีกด้วย ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังอย่างมากที่จีนยังคงไม่อนุญาตให้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคโควิด-19 จากนานาประเทศเดินทางเข้าประเทศ ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเชื้อไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่นในช่วงปลายปี 2562 ก่อนที่จะแพร่กระจายไปทั่วโลก ซึ่งทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 86 ล้านคนและผู้เสียชีวิตกว่า 1.8 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

WHO อนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์

WHO ขึ้นบัญชีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์ เพื่อใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน นับเป็นครั้งแรกที่วัคซีนป้องกันโควิด-19 ถูกเพิ่มในบัญชีดังกล่าวของ WHO

แอฟริกาใต้ห้ามขายเหล้าสกัดโควิด

โจฮันเนสเบิร์ก 29 ธ.ค. – แอฟริกาใต้ประกาศห้ามจำหน่ายสุราและสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังพบยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 พุ่งสูงขึ้น ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า อาจเกิดโรคระบาดที่ร้ายแรงกว่าโรคโควิด-19 ในอนาคต ประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ของแอฟริกาใต้ประกาศห้ามจำหน่ายสุราและบังคับให้ชาวแอฟริกาใต้สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ หลังแอฟริกาใต้กลายเป็นประเทศแรกในทวีปแอฟริกาที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทะลุ 1 ล้านคน ผู้นำแอฟริกาใต้กล่าวว่า เราทุกคนปล่อยให้การ์ดตก และโชคร้ายที่ต้องชดใช้ผลที่ตามมา เขายังกล่าวโทษการจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนาอย่างรวดเร็วในวงกว้าง รวมถึงการหย่อนยานขาดความระมัดระวังในช่วงวันหยุดเทศกาลที่ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น มีข้อมูลจากโรงพยาบาลว่า การดื่มสุราหนักทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้ออาการหนักเพิ่มขึ้น ส่งผลให้โรงพยาบาลประสบปัญหาตึงตัวโดยไม่จำเป็น ขณะนี้แอฟริกาใต้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1,010,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 27,000 คน ในขณะเดียวกัน นพ. ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลกกล่าวกับผู้สื่อข่าวภายในงานถอดบทเรียนครบรอบ 1 ปีนับตั้งแต่พบการระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งแรกในจีนว่า การระบาดในครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนว่า โรคโควิด-19 สามารถแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลกได้อย่างรวดเร็ว แต่โรคนี้คงไม่ใช่โรคที่รุนแรงที่สุด ดังนั้น ทุกคนจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับโรคที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นในอนาคต. -สำนักข่าวไทย

องค์การอนามัยโลกเตือนให้จำบทเรียนโควิด

ผอ.องค์การอนามัยโลก วอนชาวโลกร่วมกันจดจำบทเรียนจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ชี้โลกไม่ได้เตรียมรับมืออย่างดีเท่าที่ควร ทั้งที่มีสัญญาณเตือนมาหลายปีแล้ว

อนามัยโลกเตรียมหารือเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่

เจนีวา 22 ธ.ค. – องค์การอนามัยโลก (WHO) เตรียมจัดประชุมระหว่างประเทศสมาชิกเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางรับมือการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นในอังกฤษ แต่ยังไม่กำหนดวันที่ชัดเจน นพ. ฮันส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำทวีปยุโรปเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า องค์การอนามัยโลกจะจัดประชุมร่วมกันถึงแนวทางรับมือการระบาดดังกล่าว การใช้มาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมการระบาดถือเป็นการระแวดระวังที่ดีจนกว่าจะได้รับข้อมูลที่ชัดเจน แต่ควรเปิดโอกาสให้ห่วงโซ่อุปทานสำหรับสินค้าจำเป็นและการเดินทางที่จำเป็นข้ามผ่านพรมแดนได้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้แต่ละประเทศยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดยิ่งขึ้น นพ. คลูเกอยังเตือนให้ทุกคนระวังเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยระบุว่า การกลายพันธุ์เป็นเรื่องปกติของวิวัฒนาการระบาด และชื่นชมรัฐบาลอังกฤษที่ตรวจพบการระบาดดังกล่าว ในขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกเน้นย้ำในแถลงการณ์วันนี้ว่า ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 พร้อมทั้งระบุว่า องค์การอนามัยโลกกำลังศึกษาค้นคว้าในเรื่องดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย

จีนพร้อมต้อนรับคณะสอบสวนโควิดที่นำโดยองค์การอนามัยโลก

องค์การอนามัยโลก กล่าววันนี้ว่า จีนพร้อมต้อนรับคณะสอบสวนระหว่างประเทศที่จะเดินทางไปตรวจสอบต้นตอการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศจีนในช่วงต้นเดือนมกราคมปีหน้า

1 11 12 13 14 15 29
...