โจฮันเนสเบิร์ก 29 ธ.ค. – แอฟริกาใต้ประกาศห้ามจำหน่ายสุราและสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังพบยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 พุ่งสูงขึ้น ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า อาจเกิดโรคระบาดที่ร้ายแรงกว่าโรคโควิด-19 ในอนาคต
ประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ของแอฟริกาใต้ประกาศห้ามจำหน่ายสุราและบังคับให้ชาวแอฟริกาใต้สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ หลังแอฟริกาใต้กลายเป็นประเทศแรกในทวีปแอฟริกาที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทะลุ 1 ล้านคน ผู้นำแอฟริกาใต้กล่าวว่า เราทุกคนปล่อยให้การ์ดตก และโชคร้ายที่ต้องชดใช้ผลที่ตามมา เขายังกล่าวโทษการจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนาอย่างรวดเร็วในวงกว้าง รวมถึงการหย่อนยานขาดความระมัดระวังในช่วงวันหยุดเทศกาลที่ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น มีข้อมูลจากโรงพยาบาลว่า การดื่มสุราหนักทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้ออาการหนักเพิ่มขึ้น ส่งผลให้โรงพยาบาลประสบปัญหาตึงตัวโดยไม่จำเป็น ขณะนี้แอฟริกาใต้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1,010,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 27,000 คน
ในขณะเดียวกัน นพ. ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลกกล่าวกับผู้สื่อข่าวภายในงานถอดบทเรียนครบรอบ 1 ปีนับตั้งแต่พบการระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งแรกในจีนว่า การระบาดในครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนว่า โรคโควิด-19 สามารถแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลกได้อย่างรวดเร็ว แต่โรคนี้คงไม่ใช่โรคที่รุนแรงที่สุด ดังนั้น ทุกคนจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับโรคที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นในอนาคต. -สำนักข่าวไทย