เจนีวา 20 ม.ค. – องค์การอนามัยโลกเผยว่า พบผู้ป่วยโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์แพร่เชื้อเร็วที่ระบาดในอังกฤษอย่างน้อย 60 ประเทศทั่วโลก และพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่ระบาดในแอฟริกาใต้ใน 23 ประเทศ
องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ในรอบ 7 วันที่ผ่านมามียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั่วโลกสูงถึง 93,000 คน และมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น 4.7 ล้านคน และชี้ว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แพร่เชื้อเร็วที่พบการระบาดครั้งแรกในอังกฤษช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมาสามารถทำให้ติดเชื้อได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ 50 – 70 ขณะที่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่ระบาดในแอฟริกาใต้ก็ทำให้ติดเชื้อได้เร็วขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกระบุว่า เชื้อไวรัสโคโรนาที่กลายพันธุ์ดังกล่าวไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตง่ายขึ้น ขณะที่ไฟเซอร์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ และไบออนเทค บริษัทยาสัญชาติเยอรมนีเผยว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แพร่เชื้อเร็วที่พบการระบาดในอังกฤษ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ B117 ทั้งนี้ สหรัฐและหลายประเทศในทวีปยุโรปเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้างแล้ว ซึ่งทำให้เกิดความคาดหวังถึงการระบาดที่สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี ยังมีอีกหลายประเทศในยุโรปและประเทศอื่น ๆ เช่น อินเดียและรัสเซียที่ยังคงประสบปัญหาในการฉีดวัคซีนตามแผนที่วางไว้ ขณะนี้ทั่วโลกมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 96 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 2 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย