โฆษกรัฐบาล ย้ำ 14 มิ.ย.นี้ คุย JBC ยันไทยไม่รับเขตอำนาจศาลโลก

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-โฆษกรัฐบาล เผย “ภูมิธรรม-มาริษ” รายงาน ครม. สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจากัมพูชากลบคูเลต พร้อมปรับกำลังกลับที่ตั้งเดิม ย้ำ 14 มิ.ย.นี้ คุย JBC ต่อ ยืนยันไทยไม่รับเขตอำนาจศาลโลก ระบุบางเรื่องไม่สามารถเปิดเผยได้ทุกขั้นตอน ย้ำยึดประโยชน์-ความปลอดภัยของประชาชนและประเทศเป็นหลัก นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ 10 มิ.ย. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ว่า การแก้ไขปัญาชายแดน ไทย-กัมพูชา นับตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางเรื่องไม่สามารถเปิดเผยได้ในทุกขั้นตอนของการเจรจา แต่รัฐบาลได้ยึดประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนและประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้ ผลการดำเนินการของกระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ ในการเจรจา ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการให้พื้นที่ช่องบก […]

Cambodia Foreign Minister met with his Thai counterpart on May 30 cr. Cambodia Foreign ministry

กัมพูชาขอไทยขึ้นศาลโลกด้วยกัน

พนมเปญ 9 มิ.ย. – นายปรัก สุคน (Prak Sokhonn) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการมาถึงนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เพื่อขอความร่วมมือกับประเทศไทย ในการยื่นข้อพิพาทเรื่องพรมแดนกับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก (International Court of Justice : ICJ) ให้ตัดสินอย่างสันติและถูกต้องตามกฎหมาย โดยเนื้อหาในหนังสืออย่างเป็นการทางระบุไว้ว่า จากความซับซ้อนทางประวัติศาสตร์และความอ่อนไหวในข้อพิพาท เห็นได้ชัดว่า การเจรจาระดับทวิภาคีเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุมและยั่งยืน รัฐบาลกัมพูชาจึงเห็นว่า การแก้ไขปัญหาพื้นที่ช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย โดยศาลโลกเป็นหนทางที่เหมาะสมและสันติมากที่สุด นายปรักยังระบุใจความในหนังสืออย่างเป็นทางการว่า คำตัดสินของศาลโลกตั้งอยู่บนหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นคำตัดสินที่ยุติธรรม ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย และสามารถให้ความชัดเจนในเรื่องข้อพิพาทดินแดนของทั้ง 2 ประเทศ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ ตลอดจนความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศ “แนวทางปฏิบัติดังกล่าว จะยืนยันถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของเราในการรักษาหลักนิติธรรม รักษาความสามัคคีในภูมิภาค และส่งเสริมความร่วมกันของประชาชนภายในชุมชนอาเซียน “จากที่กล่าวมาข้างต้น ฉันขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยพิจารณาร่วมกับรัฐบาลกัมพูชา ในการส่งข้อพิพาทเรื่องพรมแดนของเรา ไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ขอให้ใช้โอกาสนี้ยืนยันความมุ่งมั่นร่วมกันของเรา ในการพูดคุยอย่างสันติ […]

ผู้นำกัมพูชายืนยันจุดยืนไม่ได้ริเริ่มข้อขัดแย้ง แต่ป้องกันตนเอง

พนมเปญ 7 มิ.ย. – นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา กล่าววันนี้ว่า จุดยืนของกัมพูชาคือไม่เริ่มต้นความขัดแย้ง แต่ป้องกันตนเอง ฮุน มาเน็ต กล่าวว่า หลักการชี้นำของกัมพูชาคือ การเคารพกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ กลยุทธ์ที่ยึดมั่นเหล่านี้คือหัวใจสำคัญในการปกป้องอธิปไตยของชาติ พร้อมกล่าวเสริมว่ากองทัพของกัมพูชาพร้อมที่จะป้องกันการรุกราน หนังสือพิมพ์พนมเปญ โพสต์ รายงานวันนี้ว่า ฮุน มาเนต ได้กล่าวต่อสาธารณชนที่เมืองรัตนคีรีในวันนี้ว่า  กัมพูชา แสดงความตั้งใจที่จะใช้กลไกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือ ไอซีเจ ในการแก้ไขข้อพิพาทเรื่องดินแดนล่าสุด ซึ่งไม่ว่าไอซีเจ จะตัดสินอย่างไร กัมพูชาจะยอมรับ กัมพูชานำเรื่องนี้เสนอให้ไอซีเจ พิจารณาไม่ได้มีเจตนาในการยุยงให้เกิดสงคราม แต่เพื่อแก้ปัญหาและหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น ฮุน มาเนต ยังเรียกร้องให้ประชาชนทั้งสองประเทศอดกลั้น และหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์บานปลายและเลวร้ายลงกว่าเดิม.-813.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา จบที่ “ศาลโลก” ได้จริงหรือ?

6 มิ.ย. – กัมพูชามุ่งหมายนำข้อพิพาทกับไทยไปยังศาลโลก รายงาน 9 ทันโลก ของฝ่ายข่าวต่างประเทศ วันนี้ พาไปติดตามบทบาทหน้าที่ของศาลโลก และเงื่อนปมต่างๆ ที่เกี่ยวกับความขัดแย้งตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]

“ภูมิธรรม” ยันประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ เมินกัมพูชาร้องศาลโลก

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” ยันประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ เหมือนเดิม ยืนกรานไทยคุยพื้นที่เป็นปัญหา เมินกัมพูชาร้องศาลโลก ชี้ไม่มีอำนาจบังคับไทย เผยประชุม สมช. พรุ่งนี้ ถกยกระดับปกป้องอธิปไตย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีกัมพูชาออกแถลงการณ์จะนำปัญหาพื้นที่ช่องบก – ปราสาทตาเมือนธม -ปราสาทตาเมือนโต๊ด – ปราสาทตาควาย ให้ศาลโลกเป็นผู้แก้ปัญหา และจะไม่นำประเด็นเหล่านี้ไปหารือในการเจรจาทวิภาคีกับไทยในการประชุม JBC ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ว่า เวลาอ่านต้องอ่านให้ครบถ้วน ทางกัมพูชาบอกว่า จะไม่เอา 4 ปราสาทนำมาคุยใน JBC ซึ่งไม่มีประเด็นที่จะคุยในเรื่องนี้อยู่แล้ว ฉะนั้นการออกข่าว จะต้องเช็คให้ชัวร์ก่อน ยืนยันว่าไม่มีเรื่องนี้เลย และตนเองก็พูดชัดเจนแล้วว่า ไม่เอาเรื่องอื่นเข้ามา จะคุยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างเดียว ดังนั้นไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ในส่วนของเราจะคุยเฉพาะจุดที่เป็นคู่ปัญหาขัดแย้ง “ส่วนเรื่องศาลโลก ตนเองได้เรียนไปแล้วว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ถือว่าเราไม่ได้ยอมรับอำนาจศาลโลก ขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีปัญหาอะไร และเราก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้อีก […]

“พรรณิการ์” เชื่อกลไกทวิภาคีมีประสิทธิภาพที่สุด ชี้นายกฯ ไร้ภาวะผู้นำ

รัฐสภา 4 มิ.ย.-“พรรณิการ์” ชม “รมว.กลาโหม” ปมปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่เอาขึ้นศาลโลก เชื่อกลไกทวิภาคีมีประสิทธิภาพที่สุด ชี้ “นายกฯ อิ๊งค์” ไม่มีภาวะผู้นำ ไร้เดียงสาทางการเมือง ซัดรัฐบาลเอาให้ชัดจะทำอย่างไร เหตุขาดเสถียรภาพ ประชาชนไม่เชื่อมั่น มองอนาคต กัมพูชาไม่ยอมลงใน JBC แน่นอน แนะหามาตรการควบคู่ ควรยุติความสัมพันธ์ส่วนตัว เพราะเรื่องนี้เป็นผลประโยชน์รัฐต่อรัฐ นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า  กล่าวถึง การแก้ปัญหาของรัฐบาลกรณีชายแดนไทยกัมพูชา ว่า อย่างน้อยที่สุดวันนี้ ต้องชมรัฐบาลโดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่บอกว่าจะไม่มีการนำเรื่องนี้ขึ้นสู่ศาลโลก ขอเป็นเรื่องที่แขวนลอยอยู่บนอากาศ โดยการโยนมาจากฝั่งกัมพูชาหลายวันแล้ว เรื่องนี้ตนเห็นด้วยว่ายังไงกลไกทวิภาคี ระหว่าง 2 ประเทศจะเป็นกลไกที่ดีที่สุด และมีประสิทธิภาพที่สุด ในการคลี่คลายความขัดแย้งทางชายแดน โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปขึ้นศาลโลก ทั้งนี้ เรื่องที่รัฐบาลยังทำไม่พอมีเยอะ ประเด็นแรกสำคัญที่สุดนั่นก็คือภาวะผู้นำ สถานการณ์ในวันนี้ค่อนข้างวิกฤต และเป็นสถานการณ์ที่ประชาชนติดตามอย่างใกล้ชิด และ รู้สึกว่าประเทศจำเป็นจะต้องตอบโต้กับกัมพูชา ตนไม่ได้เห็นด้วยแน่ๆ กับการให้รบกันซึ่งจะนำมาสู่ความสูญเสียของทางฝั่งไทย ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพี่น้องประชาชนที่อาจจะต้องอพยพ หรือต้องสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน แต่ต้องยอมรับว่านายกรัฐมนตรี วุฒิภาวะและภาวะผู้นำ ยังถือว่าพร่องไป […]

Hun Sen presides over the inaugural joint Congress of the National Assembly and Senate

ฮุน เซน พูดเรื่องชายแดนต่อที่ประชุมร่วม 2 สภา

พนมเปญ 2 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาใช้โอกาสที่เป็นประธานเปิดการประชุมร่วมครั้งแรกระหว่างสมัชชาแห่งชาติและวุฒิสภาในวันนี้ แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุทหารกัมพูชาเสียชีวิตในเหตุยิงปะทะกับทหารไทยบริเวณชายแดนเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์รายงานว่า นายฮุน เซนประณามอย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้เร่งใช้ทุกวิถีทางปกป้องสิทธิและอธิปไตยของกัมพูชา เขากล่าวว่า หากแม้ไทยไม่เห็นด้วยที่จะนำเรื่องสามเหลี่ยมมรกต ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาเมือนควายให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกตัดสิน กัมพูชาก็จะยังคงยื่นคำร้อง ควบคู่ไปกับการตอบโต้ในบางรูปแบบ ประธานวุฒิสภาหรือพฤฒสภาของกัมพูชายังได้เรียกร้องให้ทุกหน่วยงานและฝ่ายบริหารออกถ้อยแถลงแสดงความสนับสนุนแผนการของรัฐบาลที่จะนำประเด็นชายแดนเข้าสู่การตัดสินของศาลโลกในกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ เขาย้ำว่า พื้นที่พิพาทเป็นดินแดนของกัมพูชา และตั้งคำถามว่า เหตุใดไทยจึงเรียกร้องให้ถอนกำลังพลกัมพูชาออกจากดินแดนของกัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้.-814.-สำนักข่าวไทย

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และสามเหลี่ยมมรกต เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

กมธ.สิ่งแวดล้อมวุฒิสภา ยกปมสารปนเปื้อนแม่น้ำกก ถกด่วน

รัฐสภา 27 พ.ค.-กมธ.สิ่งแวดล้อมวุฒิสภา ยกปมสารปนเปื้อนแม่น้ำกก ถกด่วน มองต้องแก้ที่ต้นเหตุเจรจาประเทศเพื่อนบ้านหากไม่ได้ต้องพึ่งศาลโลก พร้อมเสนอรัฐบาลแก้ปัญหาสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแม่น้ำสาย หลังพบหลายพื้นที่สร้างผิดกฎหมาย คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา หยิบยกแนวทางการแก้ไขปัญหาสารมลพิษปนเปื้อนและการบำบัดฟื้นฟูแม่น้ำกก และแม่น้ำสายจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ รวมไปถึงการตรวจสอบคุณภาพน้ำ โดยเชิญอธิบดีกรมควบคุมมลพิษและเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติหรือผู้แทน เข้าร่วมชี้แจง แต่กรมควบคุมมลพิษแจ้งว่าติดภารกิจในพื้นที่จึงไม่ได้ส่งตัวแทนมาร่วมประชุม นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวก่อนประชุมว่า ขณะนี้มีแม่น้ำ 2 สายที่มีปัญหาเรื่องสารปนเปื้อนคือแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ปีที่แล้วมีข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษว่ามีสารปนเปื้อนในแม่น้ำและจากภาพถ่ายทางอากาศก็พบว่ามีการทำเหมืองในประเทศเพื่อบ้าน ใกล้แหล่งน้ำจึงมองว่าต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เพราะการสร้างเขื่อนดักตะกอนเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ จะทำได้ต่อเมื่ออยู่ในขั้นตอนของการฟื้นฟู ดังนั้นจึงควรเดินหน้าเจรจา หรือสุดท้ายอาจต้องฟ้องร้องโดยใช้กฎหมายระหว่างประเทศ ถ้าจำเป็นก็ต้องทำ นอกจากนี้เรื่องสำคัญคือต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ต้องมีการแจ้งข้อมูลที่ถูกต้อง และชี้แจงเรื่องความเสี่ยงกับประชาชนว่าอันตรายระดับไหน วันนี้เท่าที่เห็นข้อมูลยังแกว่งอยู่ ส่วนกรณีแม่น้ำสาย นายชีวะภาพ กล่าวว่า กรรมาธิการฯ จะเน้นเรื่องสิ่งก่อสร้างที่รุกล้ำลำน้ำ เพราะจากการศึกษาพบว่าการก่อสร้างตึกขนาดใหญ่ไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งใน 1 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ดำเนินคดี ก็ต้องตอบให้ได้เพราะเป็นการทำผิดไม่ว่าจะขนาดใหญ่แค่ไหนก็ต้องรื้อถอน ซึ่งในส่วนของประเทศเพื่อนบ้านหากรุกล้ำก็ต้องรื้อถอนเช่นกัน แต่ต้องเริ่มที่ฝั่งไทยก่อนตามกฎหมายของไทย “เรื่องแม่น้ำกก เราจะเรียกร้องในส่วนที่รุกล้ำลำน้ำเป็นอันดับแรกเพราะในส่วนนี้รัฐบาลไทยทำได้เลย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นตึกที่ก่อสร้างไปในที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์มันผิดอยู่แล้วและอันดับ2 พ.ร.บ.ควบคุมอาคารได้บังคับใช้หรือไม่ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ต้องดำเนินการ ส่วนเรื่องสารปนเปื้อนต้องเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านแต่ถ้าเจรจาไม่ได้จริงๆ วิกฤตจริงๆ อาจจะต้องพึ่งกระบวนการกฎหมายระหว่างประเทศพึ่งศาลโลก”นายชีวะภาพ […]

คณะกรรมาธิการเสนอสอบสวนในคดีอาญา อดีตนายกฯ “มหาเธร์”

คณะกรรมาธิการไต่สวน หรือ รอยัล คอมมิชชั่น ออฟ อินไควรี (Royal Commission of Inquiry) หรือ อาร์ซีไอ เสนอให้มีการสอบสวนในคดีอาญา

1 2 3 4 5
...