“ภูมิธรรม” ยันประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ เมินกัมพูชาร้องศาลโลก

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” ยันประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ เหมือนเดิม ยืนกรานไทยคุยพื้นที่เป็นปัญหา เมินกัมพูชาร้องศาลโลก ชี้ไม่มีอำนาจบังคับไทย เผยประชุม สมช. พรุ่งนี้ ถกยกระดับปกป้องอธิปไตย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีกัมพูชาออกแถลงการณ์จะนำปัญหาพื้นที่ช่องบก – ปราสาทตาเมือนธม -ปราสาทตาเมือนโต๊ด – ปราสาทตาควาย ให้ศาลโลกเป็นผู้แก้ปัญหา และจะไม่นำประเด็นเหล่านี้ไปหารือในการเจรจาทวิภาคีกับไทยในการประชุม JBC ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ว่า เวลาอ่านต้องอ่านให้ครบถ้วน ทางกัมพูชาบอกว่า จะไม่เอา 4 ปราสาทนำมาคุยใน JBC ซึ่งไม่มีประเด็นที่จะคุยในเรื่องนี้อยู่แล้ว ฉะนั้นการออกข่าว จะต้องเช็คให้ชัวร์ก่อน ยืนยันว่าไม่มีเรื่องนี้เลย และตนเองก็พูดชัดเจนแล้วว่า ไม่เอาเรื่องอื่นเข้ามา จะคุยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างเดียว ดังนั้นไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ในส่วนของเราจะคุยเฉพาะจุดที่เป็นคู่ปัญหาขัดแย้ง


“ส่วนเรื่องศาลโลก ตนเองได้เรียนไปแล้วว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ถือว่าเราไม่ได้ยอมรับอำนาจศาลโลก ขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีปัญหาอะไร และเราก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้อีก ส่วนทางกัมพูชาจะเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปขึ้นศาลโลก ก็เป็นเรื่องของกัมพูชา เราไม่สามารถไปห้ามอะไรเขาได้อยากจะทำอะไรก็ทำ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย การประชุมเจบีซีในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ยังเหมือนเดิม จุดที่คุยคือจุดที่ขัดแย้งบริเวณ ต้นสัตบรรณ กับพื้นที่ที่เกิดปัญหายิงกัน ยืนยันเหมือนเดิมไม่มีปัญหาอะไรและเรายังยึดมั่นในกรอบของเรา ศาลโลกก็ไม่มีอำนาจในการบังคับเรา” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่า จากแถลงการณ์กัมพูชาจะไม่เอาช่องบกมาคุยในเวที JBC นายภูมิธรรม กล่าวว่าไม่จริง ช่วงที่เราจะพูดเป็นจุดที่ปะทะกันและเป็นปัญหาจะต้องดูว่าตรงไหนเราบอกแล้วว่าจะไม่ขยายพื้นที่ไปสู่พื้นที่อื่นๆ ด้วย สิ่งนี้ยืนยันมาตั้งแต่ต้น จากกว้างก็เอามาเป็นวงแคบที่เป็นประเด็น


ส่วนท่าทีของกัมพูชากำลังเป็นที่ตอกย้ำ 4 ปราสาท จะนำไปเข้าศาลโลก ซึ่งจากการลงพื้นที่ไปด้วยตนเองจะทำให้สถานการณ์ผ่อนเบาและคลายความตึงเครียดของทหารในพื้นที่ได้อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า จากสถานการณ์ในพื้นที่ที่ตนเองไปดูไม่ได้มีอะไรนักหนา แต่ละคนก็ตรึงกำลัง ทำหน้าที่ของตนและรอสถานการณ์จะจบอย่างไร ตนคิดว่าการที่สถานการณ์จะไม่จบอย่างดีหรือตึงเครียด อันนั้นแหละจะทำให้ตึงเครียด ซึ่งจะต้องมีมาตรการต่อไปและเราได้เตรียมมาตรการไว้แล้วขอให้มั่นใจ ขณะเดียวกันในเจบีซีก็มีอะไรคุยกันตลอดเวลา

“หากคุยและประเมินแล้วเห็นว่าต้องเพิ่มมาตรการ ก็คงต้องเพิ่มมาตรการ และตนเองก็ได้พูดคุยกับ พลเอก เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยังยืนยันในจุดยืนของเราและอยากขอร้องให้ทางฝ่ายทหารทบทวน ซึ่งมีกระบวนการอยู่” นายภูมิธรรม กล่าว

สำหรับการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ในพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.) จะมีมาตรการตอบโต้อะไรบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะต้องมีการประเมินร่วมกัน โดยยึดทุกอย่างมาพิจารณา และคิดว่ามาตรการที่ทำอยู่พอเพียงหรือไม่ หรือต้องเพิ่มอย่างไรขนาดไหน ส่วนจะมากกว่าการปิดด่านชายแดนหรือไม่นั้น ก็ขอให้รอวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.)


เมื่อถามว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีมาตรการเชิงรุกมากกว่าการตั้งรับแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้ตั้งรับ ยังยืนยันมาตรการเดิม ซึ่งไม่ใช่มาตรการตั้งรับ เป็นการแสวงหาข้อยุติอย่างสันติและสถานการณ์ทั้งหมดและสถานการณ์ทั้งหมดฝ่ายแนวหน้าและฝ่ายกองบัญชาการข้างหลังได้คุยกัน ว่าจะใช้มาตรการเพิ่มขึ้นอย่างไรและจะได้ประโยชน์หรือไม่

“บนฐานเนิน 500 ทหารอยู่ในหน้าที่ มีวินัยไม่มีปัญหา และพร้อมปกป้องอธิปไตย ความหึกเหิม ความพร้อมไม่ต้องห่วง ซึ่งจากการคุยกันในพื้นที่ก็บอกว่ารอส่วนกลาง หากเราตัดสินใจยกระดับ ก็คุยกัน หากในพื้นที่เห็นว่าต้องยกระดับ จะเป็นระดับไหนก็ต้องคุยกัน แต่ที่ผ่านมาในพื้นที่เขาบอกว่าไม่จำเป็นต้องยกระดับ ดังนั้นตอนนี้ยังไม่มีอะไรน่ากังวล” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่า กองทัพภาคที่ 2 เตรียมประชุม RBC แก้ปัญหาชายแดนไทย กัมพูชา 27-28 มิ.ย.นี้ ที่ จ.อุบลราชธานี ได้รับรายงานแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ให้สรุปรายงานมา ซึ่งตอนนี้ทุกคนทำหน้าที่ตามกลไกที่มีอยู่ ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศ ก็ประชุมถึงแถลงการณ์กัมพูชาที่ออกมา เราควรจะกำหนดท่าทีอย่างไร ทั้งนี้ หากสถานการณ์ต้องยกระดับ คนที่จะมีอำนาจตัดสินใจ จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือเม่ทัพภาคนั้น นายภูมิธรรม เห็นว่า เรื่องยังไม่เกิด แต่การจะยกระดับขั้นไหน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อย่าไปสมมติ เพราะจะมีเรื่องราวเยอะไปหมด

ส่วนกรณีที่กองทัพเรือกัมพูชาทำการฝึกใกล้กับเกาะกูดนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ของเราก็เพิ่งฝึกซ้อม ฝึกใกล้ๆ เกาะกูดเพิ่งเสร็จเมื่อเร็วๆ นี้.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย