นายกฯ ลั่นไทยมีศักดิ์ศรี ไม่ยอมให้ใครข่มขู่ ซัดกัมพูชาเล่นนอกกรอบข้อตกลง

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.-“แพทองธาร” นายกฯ ลั่นไทยมีศักดิ์ศรี-เข้มแข็ง ไม่ยอมให้ใครข่มขู่ กลั่นแกล้ง ซัดกัมพูชาเล่นสงครามข่าวสารนอกกรอบข้อตกลง ลั่นใครไม่เคารพกติกาจะไม่ถูกยอมรับจากทั่วโลก พร้อมตั้ง “บิ๊กเล็ก” หัวหน้าทีมเฉพาะกิจ ย้ำไม่รับเขตอำนาจศาลโลก ยอมรับสื่อสารออกสู่สาธารณะน้อย เพราะเคารพกรอบทวิภาคี เผยส่งข้อความถึง “ฮุน มาเนต” ดึงประชุม RBG จารึกเป็นลายลักษณ์อักษร

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเรียกหน่วยงานความมั่นคงเข้าประชุมที่บ้านพิษณุโลก เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา


โดยระบุว่าที่ประชุมวันนี้ได้มีการพูดถึงการประชุม JBC เมื่อวันที่ 14-15 มิถุนายนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นผลสำเร็จที่ได้มีการพูดคุยกันและได้ยอมรับกรอบ ส่วนรายละเอียดเป็นไปตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้แถลงการณ์ไปแล้ว

นอกจากนี้ที่ประชุมวันนี้ยังมีการพูดคุยกันในทุกระดับ ตั้งแต่หน้างาน มาจนถึงนายกรัฐมนตรี เป็นการพูดคุยติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง และวันนี้ยังได้มีการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อติดตามสถานการณ์ซึ่งเป็นทีมไทยแลนด์ หลังจากนี้จะให้พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้นำทีม ติดตามข้อมูลข่าวสารและดำเนินการทั้งหมด


ส่วนเรื่อง ICJ หรือศาลโลก ประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ตอนนี้เราได้มีการตั้งทีมทำงานเช่นกัน เพื่อดูว่าเราจะปกป้องและตั้งรับอย่างไร และหาข้อมูลว่าเราจะสามารถปกป้องประเทศได้อย่างไร หรือตอบโต้อย่างไรได้บ้าง ซึ่งจะต้องมีกรอบในการทำงานนี้ โดยขณะนี้เรากำลังศึกษาในเรื่องข้อกฎหมาย รวมถึงประวัติศาสตร์ ยืนยันมีข้อมูลไว้ครบหมดแล้ว นี่เป็นความคืบหน้าของการประชุมในวันนี้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สมเด็จฯ ฮุน เซน ออกมาประกาศเตรียมปิดทุกด่านพนมแดน หากไทยยังไม่ยกเลิกมาตรการกำหนดเวลาเปิด-ปิดด่าน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้ปิดด่าน เพียงแต่เรากำหนดเวลาเปิด-ปิด ซึ่งเปลี่ยนไปจากเดิมเมื่อมีการปะทะเกิดขึ้น ทางไทยได้ทราบจากเพจกลาโหมกัมพูชา ซึ่งได้มีการตกลงกันแล้ว และหลังมีการตกลงกันว่าจะปรับกำลังที่ประชุม สมช.ในวันนั้นก็ได้มอบอำนาจให้กองทัพประเมินสถานการณ์ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เข้ากับสถานการณ์ แต่หลังคุยกัน เพจกลาโหมกัมพูชาได้ออกมาบอกว่าจะไม่มีการถอยกำลัง เราจึงกำหนดเวลาเปิด-ปิดด่าน ซึ่งทางกัมพูชาก็มีการกำหนดเวลาเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างกำหนดเวลา และตนอยากบอกว่าได้มีการพูดคุยกันมาตั้งแต่ 28 พฤษภาคม กับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีการตกลงเป็นความเห็นร่วมกันว่าเราต้องการสันติภาพ ให้เกิดขึ้นระหว่างสอง ประเทศ ไม่ต้องการความขัดแย้ง แต่ต้องการรักษาชีวิตประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ไม่ต้องการเสียเลือดเนื้อของทหารด้วย นี่คือสิ่งที่เห็นตรงกัน ซึ่งคุยกันมาเรื่อยๆและตนก็พยายามคุยในกรอบ ของทวิภาคี นั่นคือกรอบการคุยระหว่างประเทศ ที่ทุกประเทศเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกัน เราต้องมีกรอบความเข้าใจที่ตรงกัน เพื่อให้เป็นไปตามกลไกระหว่างประเทศ แต่การคุยกันหลังไมค์ก็มีแน่นอน แต่สิ่งที่สื่อสารออกมาผ่านโซเชียลมีเดียที่นอกกรอบอยู่เรื่อยๆ เป็นการสื่อสารที่ไม่เป็นมืออาชีพ ทำให้เกิดความวุ่นวาย ทั้ลสิ่งที่คุยหลังไมค์และคุยอย่างเป็นทางการ ตนคิดว่าการสื่อสารแบบนี้ทำให้เกิดผลลบกับทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งข้อความที่ทางกัมพูชาได้โพสต์ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน ทั้งไทยและกัมพูชา การที่จะประกาศถึงการปิดด่านหรือเรื่องใดๆ ทำให้เกิดผลกระทบต่อประะชาชนทั้ง 2 ประเทศ เรามีความห่วงใยทั้งเรื่องการค้าขาย การส่งผักผลไม้ หากมีการปิดด่านจะกระทบทั้งหมดอยู่แล้ว เราจึงไม่ได้ปิดด่าน แค่ปรับเวลา และตนได้แจ้งทางกัมพูชาแล้วว่าตนจะมีประชุมในวันนี้ก่อนเพื่อรายงานผลว่าเราจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

และวันนี้ตนได้ส่งข้อความถึงนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเพื่อเสนอในจัดประชุม RBC เป็นการประชุมระดับกองทัพทั้ง 2 ประเทศ เพื่อพูดคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่งตนได้เห็นข้อความที่ทางกัมพูชาโพสต์ในเฟซบุ๊คแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในกรอบ


เมื่อถามว่าจากปฏิกริยาหลังการประชุม JBC ที่ผ่านมา เหมือนกำลังใช้ทวิภาคีในการแก้ปัญหา ขณะที่กัมพูชากลับแสดงท่าทีไม่จริงใจที่จะคุยแบบทวิภาคี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุม JBC เราประชุมด้วยกันทั้งคู่ ถือว่ายอมรับกรอบของ JBC เราคุยร่วมกัน ต้องการสันติภาพร่วมกัน จะทำอย่างไรได้บ้างสันติภาพจึงจะเกิดขึ้น ตนมองว่า JBC ไม่มีปัญหาอะไร เป็นไปตามแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศ ในเนื้อความได้มีการชี้แจงทุกอย่างแล้ว ไม่ได้ติดขัดว่าจะพลิกล็อค

เมื่อถามว่าดูเหมือนทางกัมพูชากำลังเล่นสงครามด้านข่าวสาร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการสื่อสารแบบนี้ ไม่ได้เกิดผลดีกับทั้ง 2 ประเทศ การปล่อยข่าว หรือข่าวที่ออกมาในหลายๆครั้ง ก็เคยมีการตกลงกันแล้ว ว่าอย่าเพิ่งปล่อยข่าวออกมา เพราะเราต้องคุยกันก่อนว่าจะเอาอย่างไร เพราะคนที่อยู่หน้างานกับคนที่รับฟังข่าวสารเป็นคนละคนกัน เพราะฉะนั้นแล้ว เราทำอะไร ตัดสินใจอะไร หรือให้สัมภาษณ์อะไรออกไป ต้องเห็นใจคนหน้างานด้วยว่าตรงนั้นเป็นอย่างไร และเกิดอะไรขึ้นบ้าง และการที่เรากำหนดเวลาเปิด-ปิดด่านในตอนแรก เพราะพบว่ามีการติดตั้งอาวุธระยะไกล มีอาวุธหนักที่เริ่มออกมาเยอะขึ้น เพราะมีประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นจำนวนมากทั้ง 2 ประเทศ การที่เอาอาวุธขนาดใหญ่ออกมาแบบนั้น หากเราไม่กำหนดเวลาแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา อาจเกิดความเสียหายได้

ส่วนจะทำอย่างไรให้โลกรู้ว่าไทยพยายามใช้กลไกทวิภาคีในการเจรจา นายกรัฐมนตรี ทุกอย่างมีการจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งการประชุม JBC หรือสิ่งที่ตนเสนอไปในตอนนี้ จะเป็นระดับ GBC หรือ RBC ก็ได้ ขอให้มาคุยกันแบบมีการบันทึก ไม่ใช่แค่คุยกันแล้วแยกย้าย แต่การพูดคุยทั้งหมดถูกจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร โลกสามารถรับรู้ได้ว่าเราพูดคุยอะไรกันบ้าง และในช่วงบ่ายวันนี้กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญทูตทั้งหมดในประเทศไทย เข้ามารับฟังการชี้แจง และก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการเชิญทูตกัมพูชา 2คน เข้ามาพูดคุยว่าเราต้องการทำอย่างไร รัฐบาลเคลื่อนไหวมาตลอด

“แต่สิ่งที่เราอาจจะทำน้อยกว่าเขา คือการสื่อสารออกสู่สาธารณะ เพราะเราเคารพในการเจรจาระหว่างประเทศ เราเคารพกรอบของทวิภาคี เราเคารพ เราให้เกียรติทั้ง 2 ประเทศ ว่าสิ่งที่คุย ควรเป็นสิ่งที่เป็นทางการ และอยู่ในกรอบของทวิภาคี นั่นคือสิ่งที่เมื่อทุกประเทศมีการติดต่อสื่อสารกัน ต้องยึดกรอบของทวิภาคีเป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้ามีการสื่อสารที่ไม่เป็นทางการเกิดขึ้นตลอดเวลาอย่างมากมาย เราก็ต้องบอกว่าจุดยืนของเราไม่เคยยั่วยุ หรือพูดเพื่อให้เกิดการปะทะใดๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ“ นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีถ้าอยู่ตรงนี้ และเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงบริเวณชายแดน นั่นแปลว่าตนต้องรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หากตนต้องตกลงในการปะทะก็แปลว่าต้องมีการคุยกับทหาร ว่าพร้อมหรือไม่ เราอยู่ในสถานะไหน เขาอยู่ในสถานะไหน ไม่ใช่พอมีเรื่องแล้วจะจุดให้ไฟติดได้เลย นี่คือกรอบที่เราต้องยึด แต่แน่นอนว่าการปล่อยข่าวหรือข้อมูลที่ไม่เป็นทางการออกมา และส่งผลกระทบ ย่อมไม่ส่งผลดีต่อทั้ง 2 ประเทศ

ส่วนจะทำอย่างไรในเมื่อกัมพูชายังใช้สงครามข้อมูลข่าวสารในลักษณะนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องชี้แจง คนไทย ประเทศไทย นายกรัฐมนตรีและกองทัพ ที่ประชุมในทุกวันนี้เห็นตรงกันในทุกส่วน กองทัพก็คิดเหมือนรัฐบาลว่าต้องปกป้องอธิปไตยของเราไว้ แต่ทำอย่างไร ให้ยืดระยะเวลาการปะทะ การเสียเลือดเนื้อออกไป แต่ยังคงรักษาอธิปไตยไว้ได้ นี่คือเสียงที่ตรงกันของรัฐบาลและกองทัพ

“ใครจะปล่อยว่าข่าวว่า โห ตีกัน ยืนยันว่าไม่เคยตีกัน ตอนนี้ทั้งกองทัพ และรัฐบาล เห็นตรงกันว่าจะทำอย่างไร ดิฉันก็ให้เกียรติกองทัพเสมอ เพราะเป็นคนหน้างานและรู้เรื่องอาวุธทุกอย่าง ดิฉันคุยหลังไมค์อย่างไรก็เช็คกับกองทัพทุกครั้ง ว่าจะเดินอย่างไรแล้วจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ นี่คือสิ่งที่ทำเสมอกองทัพก็เช่นกัน ได้ปรึกษากับรัฐบาลตลอดว่าอะไรทำได้ หรือไม่ได้ ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่ารัฐบาลกับกองทัพ ไม่เคยมีปัญหาและขอให้ทุกคนช่วยกันซัพพอร์ตกองทัพและรัฐบาลให้เป็นหนึ่งเดียสกัน เพราะวันนี้เราไม่ได้ต่อสู้กันเอง เรารักษาอธิปไตยของเราไว้ เราพูดในข้อความที่ตรงกัน และสามารถพูดได้ว่าประเทศไทยเป็นปึกแผ่น”

ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีพูดด้วยน้ำเสียงขึงขัง ว่า “เราจะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย หรือขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน เราก็เป็นประเทศที่แข็งแรงเช่นกัน จุดนี้จะทำให้ทุกคนรู้ว่าถ้าไม่เคารพกฎกติกา ก็จะไม่ถูกยอมรับโดยทั่วโลก”.-316.-สำนักขาวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งเร่งออกโฉนดให้ชาวบ้านหนองจาน

สรแก้ว 25 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งที่ดินจังหวัดเร่งดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านหนองจานโดยเร็ว พร้อมส่งทีมสำรวจ เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดนให้แล้วเสร็จ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ส.ป.ก. ชี้แจงกรณีปัญหาของที่ดินบ้านหนองจาน พร้อมให้ประชาชนแสดงการยื่นเอกสารสิทธิการถือครองที่ดิน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนดให้กับชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านกุดผือ ที่มีที่ดินอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขตแดนที่ 46-47 เพื่อดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้โดยเร็ว โดยมีชาวบ้านนำเอกสารสิทธิ น.ส.2 สค.1 น.ส.3 มายื่นให้เจ้าหน้าที่เข้าสู่ระบบการคัดกรองเพื่อออกโฉนดที่ดินตามนโยบายเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดจะแบ่งทีมสำรวจลงพื้นที่เป็น 3 ชุด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดน ตั้งแต่พื้นที่อำเภออรัญประเทศ อำเภอโคกสูง และอำเภอตาพระยา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอันมาก.- สำนักข่าวไทย