แอฟริกาใต้เพิ่มเตียง หลังโอไมครอนทำระบาดระลอก 4

โจฮันเนสเบิร์ก 6 ธ.ค.- ประธานาธิบดีซีริล รามาโฟซาของแอฟริกาใต้เผยว่า กำลังเพิ่มเตียงตามโรงพยาบาลเพื่อรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เนื่องจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนทำให้โควิดในแอฟริกาใต้ระบาดเป็นระลอกที่ 4 แล้ว แอฟริกาใต้พบเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเป็นแห่งแรกของโลกเมื่อเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ยอดติดเชื้อรายวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นพรวดพราด จาก 2,300 คนในวันจันทร์ เป็นมากกว่า 16,000 คนในวันศุกร์ ประธานาธิบดีรามาโฟซาระบุในหนังสือข่าวประจำสัปดาห์ว่า ดูเหมือนว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนจะเป็นสายพันธุ์หลักของผู้ติดเชื้อรายใหม่ใน 9 จังหวัด ขอให้ประชาชนเร่งรับการฉีดวัคซีนที่รัฐบาลมีอย่างเพียงพอ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ยิ่งมีคนฉีดวัคซีนมากขึ้น ก็จะยิ่งมีเศรษฐกิจที่เปิดได้มากขึ้น รัฐบาลจะประชุมสภาบัญชาการโคโรนาไวรัสแห่งชาติในเร็ว ๆ นี้ เพื่อทบทวนสถานการณ์การระบาด และตัดสินใจว่าจะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย ผู้นำแอฟริกาใต้ระบุด้วยว่า กำลังเฝ้าจับตาอัตราการติดเชื้อและการเข้าโรงพยาบาลจากการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ในระหว่างที่นักวิทยาศาสตร์ในประเทศและทั่วโลกกำลังเร่งหาข้อสรุปว่า เชื้อสายพันธุ์นี้แพร่ง่ายขึ้น ทำให้ป่วยหนักขึ้น และต้านทานต่อวัคซีนที่อยู่ในปัจจุบันหรือไม่ แอฟริกามียอดติดเชื้อโควิดะสมมากกว่า 3 ล้านคน และเสียชีวิตเกือบ 90,000 คน.-สำนักข่าวไทย

ประท้วงเกาหลีใต้ใช้บัตรผ่านโควิดกับวัยรุ่น

โซล 6 ธ.ค.-นักเรียนนักศึกษาและผู้ปกครองในเกาหลีใต้ประท้วงไม่พอใจที่รัฐบาลจะบังคับใช้บัตรผ่านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กับเยาวชน เพราะมองว่าเป็นการบังคับให้เยาวชนฉีดวัคซีนและจำกัดสิทธิการเรียนรู้ของผู้ไม่ฉีดวัคซีน เว็บไซต์ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้หรือชองวาแดมีผู้ยื่นหนังสือร้องเรียนออนไลน์เมื่อวันศุกร์ หลังจากรัฐบาลประกาศได้ไม่นานว่า จะขยายการใช้บัตรผ่านโควิดกับกลุ่มคนอายุ 12-18 ปี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 เนื่องจากคนกลุ่มนี้มียอดติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องแสดงใบรับรองฉีดวัคซีน หรือผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ ในการใช้บริการสถานที่สาธารณะ เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงเรียนกวดวิชา อินเทอร์เน็ตคาเฟ และห้องอ่านหนังสือ หนังสือร้องเรียนนี้มีผู้ลงชื่อสนับสนุนแล้วราว 74,000 คน ในช่วง 3 วันแรก ผู้ร้องเรียนซึ่งอ้างว่าเป็นคุณแม่ลูก 4 ตั้งคำถามว่า โรงเรียนกวดวิชาเป็นสถานที่ที่คนไม่ถอดหน้ากากอนามัยอยู่แล้ว เหตุใดจึงบังคับใช้มาตรการดังกล่าว ขณะที่กระดานสนทนาของกลุ่มผู้ปกครองเต็มไปด้วยเสียงร้องเรียนมาตรการของรัฐบาลว่า จะเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ของลูกหลาน ยูทูบเบอร์วัย 18 ปีคนหนึ่งเผยว่า เตรียมยื่นคำร้องเรียนร่วมต่อศาลรัฐธรรมนูญในสัปดาห์นี้ว่า รัฐบาลบังคับฉีดวัคซีน และละเมิดเสรีภาพบุคคลโดยขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างกว้างขวางและร้ายแรง เยาวชนเกาหลีใต้วัย 12-17 ปี ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเพียงร้อยละ 29.8 นับจนถึงวันเสาร์ เทียบกับอัตราฉีดรวมทั้งประเทศที่สูงกว่าร้อยละ 80 หลายฝ่ายชี้ว่า อัตราการฉีดจะไม่เพิ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้ […]

ญี่ปุ่นจะร่นช่วงห่างเข็มกระตุ้นภูมิรับมือโอไมครอน

โตเกียว 6 ธ.ค.- ญี่ปุ่นจะร่นระยะห่างระหว่างการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันกับเข็มที่ 2 หากสามารถทำได้ เพื่อรับมือกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่กำลังแพร่ในหลายประเทศ เซจิ คิฮาระ รองหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยกับสถานีโทรทัศน์ฟูจิเมื่อวันอาทิตย์ว่า รัฐบาลกลางกำลังร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่น หาทางร่นระยะห่างจาก 8 เดือนในปัจจุบัน เหลือ 6 เดือนเป็นอย่างน้อย ขึ้นกับศักยภาพของรัฐบาลท้องถิ่น และอาจอนุมัติให้ใช้วัคซีนของโมเดอร์นาเป็นเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันและใช้ในสูตรไขว้ ด้านแหล่งข่าวรัฐบาลเผยว่า รัฐบาลร่นระยะห่างการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันตามสมมติฐานว่า วัคซีนทุกขนานมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน และเชื่อว่ามีผู้สูงอายุบางส่วนต้องการได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันเร็วขึ้นด้วยการฉีดวัคซีนของโมเดอร์นา เดิมรัฐบาลกลางญี่ปุ่นอนุมัติให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิห่างจากเข็ม 2 อย่างน้อย 8 เดือน ต่อมาร่นลงเหลือ 6 เดือนสำหรับบางกลุ่ม และเปลี่ยนกลับไปเป็น 8 เดือนอีกครั้ง สร้างความสับสนให้แก่รัฐบาลท้องถิ่น ญี่ปุ่นเริ่มการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่รับวัคซีนเข็ม 2 เมื่อ 8 เดือนก่อนตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม เป็นวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค.-สำนักข่าวไทย

ทันตแพทย์ในอิตาลีใช้แขนปลอมไปฉีดวัคซีนโควิด

ทันตแพทย์ในอิตาลีรายหนึ่งอาจจะโดนดำเนินคดีในข้อหาพยายามจะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ด้วยการใช้แขนปลอมที่ทำขึ้นจากซิลิโคน

ชัวร์ก่อนแชร์: ยาต้านโควิด Pfizer ใช้กินวันละ 2 เม็ดร่วมกับฉีดวัคซีน จริงหรือ?

Pfizer ยืนยันว่ายาต้านไวรัสโควิด 19 ของ Pfizer ไม่ได้ทดลองเพื่อใช้ร่วมกับวัคซีน เพราะวัคซีนและยาทำหน้าที่ต่างกัน

นายกฯสั่งเร่งติดตาม นทท.ประเทศเสี่ยง สกัดโอไมครอน

ทำเนียบ 2 ธ.ค.- โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ พอใจภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข้าใกล้เป้าหมาย 100 ล้านโดส กำชับเร่งติดตามนักท่องเที่ยวจากประเทศเสี่ยง สกัดสายพันธุ์โอไมครอน

เกาหลีใต้ติดโควิดสูงสุดครั้งใหม่ งดยกเว้นกักโรค

โซล 2 ธ.ค.- เกาหลีใต้พบผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ในขณะที่ทางการสั่งระงับการยกเว้นกักโรคสำหรับผู้เข้าประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เพื่อสกัดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเข้าประเทศ สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีหรือเคดีซีเอ (KDCA) รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,266 คนเมื่อวันพุธ หลังจากยอดทะลุ 5,000 คนเป็นครั้งแรกเมื่อวันอังคาร และมีความวิตกเรื่องพบผู้ติดเชื้ออาการหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทางการจะกำหนดให้ผู้เข้าประเทศทุกคนต้องกักโรคนาน 10 วัน เริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้ มีผลบังคับใช้นาน 2 สัปดาห์ จากเดิมที่ยกเว้นการกักโรคกับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว มาตรการเข้มงวดนี้มีขึ้นหลังจากเกาหลีใต้ยืนยันพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนกลุ่มแรกจำนวน 5 คนเมื่อวันพุธ เป็นคู่รักฉีดวัคซีนครบโดสที่เดินทางมาจากไนจีเรีย คนในครอบครัว 2 คน และเพื่อนอีก 1 คน รัฐบาลกำลังจำกัดการเดินทางมาจาก 8 ประเทศในทางตอนใต้ของแอฟริกา โดยจะเพิ่มไนจีเรียไว้ในรายชื่อนี้ในวันศุกร์ และระงับเที่ยวบินตรงจากเอธิโอเปียตั้งแต่วันเสาร์ ผู้ใหญ่ในเกาหลีใต้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 92 ขณะนี้มุ่งฉีดวัคซีนให้เด็กและการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ยอดผู้ติดเชื้อน่าจะยังคงเพิ่มขึ้นเพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่อาจแพร่ได้มากขึ้น เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นตั้งแต่ทางการผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมเมื่อเดือนก่อน ทำให้รัฐบาลระงับแผนการผ่อนคลายเพิ่มเติมเมื่อไม่กี่วันก่อน เคดีซีเอแจ้งว่า ยอดผู้ติดเชื้ออาการหนักเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดที่ 733 คน ขณะที่เตียงในหอผู้ป่วยวิกฤตเขตมหานครโซลมีผู้ครองเตียงสูงถึงร้อยละ 90 […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ผู้ฉีดวัคซีนโควิด 19 ไม่สามารถบริจาคเลือดตลอดชีวิต จริงหรือ?

ผอ.กาชาดสหรัฐฯ ยืนยันว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 ที่มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง สามารถบริจาคโลหิต, เกล็ดเลือด และพลาสม่าได้ตามปกติ

ชี้เหตุที่โลกยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคเอดส์

ปารีส 1 ธ.ค.- ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เชื้อไวรัสเอชไอวีและโรคเอดส์อุบัติขึ้นบนโลกนี้มานาน 40 ปี แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องวัคซีน เหตุผลหนึ่งคือ การขาดเจตนารมณ์ทางการเมืองและการลงทุนขนานใหญ่ดังที่เกิดขึ้นกับการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ปัจจุบันทั่วโลกมีคนติดเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตอยู่ราว 38 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจนถึงปี 2563 รวมแล้วราว 36 ล้าน 3 แสนคน องค์การอนามัยโลกกำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันเอดส์โลกมาตั้งแต่ปี 2531 เพื่อสร้างความตระหนักเรื่องโรคเอดส์ที่เกิดจากเชื้อเอชไอวี ซึ่งมีผู้ป่วยครั้งแรกในปี 2526 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องวัคซีนป้องกัน โอลิวิเยร์ ชวาร์ตซ์ หัวหน้าหน่วยไวรัสและภูมิต้านทานของสถาบันปาสเตอร์ในกรุงปารีสชี้ว่า คนส่วนใหญ่สามารถหายได้เองตามธรรมชาติเมื่อติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ใหม่ ๆ และจะมีภูมิคุ้มกันหลังจากนั้น แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นกับการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี เพราะกลายพันธุ์ได้ง่ายกว่าเชื้อไวรัสโคโรนา จึงยากที่จะทำให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีตามธรรมชาติเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ด้านนิโคลาส์ มาเนล ผู้อำนวยการการวิจัย สถาบันสุขภาพและการวิจัยทางการแพทย์แห่งชาติของฝรั่งเศสชี้ว่า ตลาดวัคซีนป้องกันโรคเอดส์มีมูลค่าน้อยเกินไปสำหรับกลุ่มเวชภัณฑ์ จึงขาดการลงทุนอย่างน่าผิดหวัง นักวิจัยจำนวนมากมีความกระตือรือร้น แต่ต้องทำตามงบประมาณที่มี ดังนั้นในเมื่อไม่มีความคืบหน้าเรื่องวัคซีน จึงมีแต่เพียงการรณรงค์ให้ป้องกันการติดเชื้อด้วยการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย งดใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วมกัน และเพิ่มการเข้าถึงการดูแลสุขภาพให้แก่กลุ่มด้อยโอกาส.-สำนักข่าวไทย

ชัวร์ก่อนแชร์: รัสเซียห้ามบังคับประชาชนฉีดวัคซีนโควิด 19 จริงหรือ?

รัฐบาลรัสเซียมีคำสั่งให้เจ้าของกิจการสั่งพักงานลูกจ้างที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนโควิด 19 พร้อมคำสั่งปรับเงิน และระงับกิจการบริษัทที่มีลูกจ้างฉีดวัคซีนไม่ถึง 60 %

ซีอีโอโมเดอร์นาคาดวัคซีนอาจป้องกันโอไมครอนได้ไม่ดีนัก

ซิดนีย์ 30 พ.ย.- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของโมเดอร์นา หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 คาดว่า วัคซีนที่มีอยู่อาจมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้ไม่ดีนัก หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์เผยแพร่บทสัมภาษณ์นายสเตฟาน บองเซล ซีอีโอโมเดอร์นาว่า ไม่คิดว่าวัคซีนจะมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าได้อีกแล้ว เขาเชื่อว่าประสิทธิภาพของวัคซีนจะลดลง แต่ไม่รู้ว่าลดลงมากเท่าใด เพราะต้องรอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์ทุกคนที่เขาได้คุยด้วยล้วนคิดเหมือนว่า สถานการณ์ไม่น่าจะดี การที่เชื้อไวรัสสายโอไมครอนมีการกลายพันธุ์จำนวนมากที่โปรตีนหนามแหลม ซึ่งเป็นส่วนที่เชื้อใช้จับเซลล์ของคน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า จะต้องปรับปรุงวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบัน รอยเตอร์รายงานว่า ความเห็นดังกล่าวของซีอีโอโมเดอร์นาทำให้ทรัพย์สินที่เชื่อมโยงกับการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างน้ำมัน หุ้น และดอลลาร์ออสเตรเลีย ถูกเทขายอย่างหนัก ก่อนหน้านี้นายบองเซลให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ว่า อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนจึงจะสามารถจัดส่งวัคซีนที่สามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้.-สำนักข่าวไทย

1 34 35 36 37 38 141
...