พจนานุกรมเมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ยก “วัคซีน” เป็นศัพท์แห่งปี 2564

นิวยอร์ก 29 พ.ย. – เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ พจนานุกรมภาษาอังกฤษเก่าแก่ของสหรัฐ ประกาศให้คำว่า ‘วัคซีน’ (vaccine) เป็นคำศัพท์แห่งปี 2564 พร้อมเพิ่มความหมายของคำให้กว้างขวางยิ่งขึ้นเพื่อสะท้อนยุคสมัย ปีเตอร์ โซโคลอฟสกี บรรณาธิการบริหารของเมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ เผยกับสำนักข่าวเอพีก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า วัคซีนเป็นคำที่มีการค้นหาอยู่ในระดับสูงมากในทุก ๆ วันของปี 2564 คำนี้สะท้อนให้เห็นถึงสองประเด็นที่แตกต่างกัน ประเด็นแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาวัคซีนได้อย่างรวดเร็วและน่าทึ่ง ประเด็นที่สองเป็นการถกเถียงกันในเรื่องนโยบาย การเมือง และความร่วมมือทางการเมือง วัคซีนจึงเป็นคำที่เก็บความหมายของประเด็นทั้งสองเรื่องใหญ่เข้าด้วยกัน เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ยังมีคำอื่น ๆ ที่ได้รับการค้นหาในอันดับรองลงมาในปีนี้ เช่น ‘จลาจล’ (insurrection) ที่ได้รับความสนใจหลังเกิดเหตุกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกรุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเพื่อพยายามขัดขวางไม่ให้ที่ประชุมรัฐสภารับรองชัยชนะของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และคำว่า ‘เพอร์เซเวียแรนซ์’ (Perseverance) ซึ่งเป็นชื่อยานสำรวจดาวอังคารล่าสุดขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ หรือนาซา ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ยังได้เพิ่มความหมายของคำว่า วัคซีน ในเว็บไซต์พจนานุกรมออนไลน์ เพื่อให้มีความหมายครอบคลุมไปถึงวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ เช่น วัคซีนป้องกันโรคโควิดที่พัฒนาโดยไฟเซอร์/ไบออนเทค และโมเดอร์นา เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ใช้เกณฑ์ในการคัดเลือกคำแห่งปีโดยอ้างอิงจากข้อมูลการค้นหา การติดตามยอดการค้นหาที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงการเปรียบเทียบตัวเลขที่เพิ่มขึ้นแบบปีต่อปี ซึ่งแตกต่างจากพจนานุกรมชื่อดังรายอื่น ๆ ที่มักตั้งคณะกรรมการเป็นผู้คัดเลือกคำแห่งปี […]

ข้อมูลเท็จกระพือกระแสต้านวัคซีนในเนเธอร์แลนด์

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเผยแพร่ข้อมูลเท็จออนไลน์มีส่วนโหมกระพือกระแสต่อต้านวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่กลายเป็นการใช้ความรุนแรงในเนเธอร์แลนด์

ชาวสวิสจะลงประชามติกฎหมายเข้มงวดโควิด

ประชาชนในสวิตเซอร์แลนด์จะลงประชามติในวันนี้ว่า ยอมรับกฎหมายเข้มงวดมาตรการสาธารณสุขเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่รัฐสภาแก้ไขหรือไม่ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในเดือนนี้

จีนอาจติดโควิดรายวันกว่า 630,000 คน ถ้าเปิดประเทศ

นักวิชาการในจีนเตือนว่า จีนอาจมีผู้ติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่วันละไม่ต่ำกว่า 630,000 คน หากยกเลิกยุทธศาสตร์ควบคุมโควิดเป็นศูนย์ด้วยการเปิดประเทศยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทาง

ผู้ผลิตวัคซีนโควิดเร่งหาทางรับมือไวรัสกลายพันธุ์

วอชิงตัน 28 พ.ย.- บริษัทผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กำลังเร่งหาทางรับมือกับเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดระลอกใหม่ หลังจากองค์การอนามัยโลกประกาศให้ไวรัสโอไมครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น เว็บไซต์สถานีวิทยุแห่งชาติหรือเอ็นพีอาร์ (NPR) ของสหรัฐได้รับการชี้แจงจากโมเดอร์นา ผู้ผลิตวัคซีนของสหรัฐว่า ได้ดำเนินยุทธศาสตร์แบบครอบคลุมเพื่อพยากรณ์ไวรัสสายพันธุ์น่ากังวลมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ประกอบด้วยการเพิ่มปริมาณวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิจาก 50 ไมโครกรัมเป็น 100 ไมโครกรัม การศึกษาเรื่องฉีควัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิ 2 เข็มเพื่อป้องกันการกลายพันธุ์ดังที่พบในไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน และจะเร่งพัฒนาวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิที่สามารถป้องกันสายพันธุ์โอไมครอนได้โดยเฉพาะ ขณะที่จอห์นสันแอนด์จอห์นสันของสหรัฐชี้แจงต่อเอ็นพีอาร์ว่า ได้เริ่มการทดสอบประสิทธิภาพวัคซีนกับไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว ด้านบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐและไบออนเทคของเยอรมนีเผยกับรอยเตอร์ว่า คาดว่าจะเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์โอไมครอนได้ภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจว่าจะต้องปรับปรุงวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันหรือไม่ หากต้องปรับปรุงก็พร้อมจะจัดส่งวัคซีนป้องกันสายพันธุ์โอไมครอนได้โดยเฉพาะภายในเวลาประมาณ 100 วัน องค์การอนามัยโลกได้รับรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่น หลักฐานเบื้องต้นบ่งชี้ว่า สายพันธุ์นี้เสี่ยงทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำเนื่องจากมีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่ง สถานีโทรทัศน์อัลจาซีราห์รายงานว่า มีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้แล้วในสหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมนี เบลเยียม อิสราเอล และฮ่องกง ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) แจ้งเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่ นพ.แอนโทนี เฟาชี หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของประธานาธิบดีสหรัฐเผยว่า ไม่แปลกใจหากจะพบเชื้อนี้ในสหรัฐ เพราะเป็นเชื้อที่แพร่ได้รวดเร็ว […]

ชัวร์ก่อนแชร์: วิกฤติขาดแคลนเลือด เพราะเลือดของผู้บริจาคที่ฉีดวัคซีนดำ จริงหรือ?

ภาพเลือดสีแดงสดและเลือดสีเข้มไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน และศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ยืนยันว่า ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ดังที่แชร์กัน

ชัวร์ก่อนแชร์: ฟิลิปปินส์ระงับ AstraZeneca หลังพบผู้เสียชีวิต 24 คน จริงหรือ?

อย.ของฟิลิปปินส์ยืนยันว่าการเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิด 19 ส่วนใหญ่ไม่ได้มีสาเหตุจากวัคซีนโดยตรง

“ดอน”แจงทำงาน ไม่หิวแสง

“ดอน” ตอบกระทู้หลังฝ่ายค้านถามไปเมียนมาลับ ๆ ล่อ ๆ รับรองรัฐบาลทหาร ยันมีตัวแทนกาชาดสากลร่วมคณะ มอบของตามหลักมนุษยธรรม ไม่เป็นข่าวเพราะไม่ได้หิวแสง ย้ำนานาชาติเข้าใจท่าทีไทย ข่าวมอบวัคซีนเฟกนิวส์

รัสเซียจะส่งออกวัคซีนโควิดแบบพ่นจมูก

รัสเซียกล่าวในวันพุธว่า มีแผนการที่จะส่งออกวัคซีนสปุตนิก ที่ใช้ป้องกันโรคโควิด-19 แบบพ่นจมูก ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวว่า เขาใช้วัคซีนประเภทนี้ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

สิงคโปร์-มาเลเซียเปิดด่านทางบกให้คนฉีดวัคซีนครบ

สิงคโปร์ 24 พ.ย.- สิงคโปร์และมาเลเซียจะเปิดเส้นทางเดินทางที่ด่านพรมแดนทางบกโดยไม่ต้องกักโรคในสัปดาห์หน้า สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบโดสแล้ว สำนักนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์แถลงว่า การเปิดเส้นทางทางบกระยะแรกจะอนุญาตให้เฉพาะพลเรือน ผู้มีสิทธิพำนักถาวร หรือผู้ถือหนังสือเดินทางพำนักระยะยาวของประเทศที่กำลังจะเดินทางเข้าเท่านั้น เพื่อให้คนจากสิงคโปร์หรือมาเลเซียสามารถเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวในอีกฝั่งหนึ่ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน และจะขยายการอนุญาตเพิ่มเติมในภายหลัง สิงคโปร์และมาเลเซียเพิ่งแถลงร่วมกันเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนว่า จะเปิดเส้นทางการเดินทางทางอากาศโดยไม่ต้องกักโรค สำหรับผู้ฉีดวัคซีนครบโดสที่จะเดินทางระหว่างท่าอากาศยานชางงีของสิงคโปร์และท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน สิงคโปร์มีประชากร 5 ล้าน 4 แสน 5 หมื่นคน และต้องพึ่งพาชาวมาเลเซียที่อาศัยอยู่ในรัฐยะโฮร์ ข้ามพรมแดนเข้ามาทำงานในธุรกิจหลากหลายประเภท ตั้งแต่ร้านอาหารไปจนถึงโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์.-สำนักข่าวไทย

โควิดระบาดล่าสุดในโซลมาจากลัทธิที่ไม่ฉีดวัคซีน

เกาหลีใต้เผยว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดล่าสุดในกรุงโซล มีต้นตอมาจากลัทธิหนึ่งที่สาวกไม่ยอมฉีดวัคซีน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติสูงสุด

1 36 37 38 39 40 142
...