ออสเตรเลียขอให้อียูจัดส่งวัคซีนโควิดพิสูจน์ข้อกล่าวหา
แคนเบอร์รา 7 เม.ย. – ออสเตรเลียจะขอให้สหภาพยุโรป หรืออียูจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซเนกากว่า 3 ล้านโดส เพื่อพิสูจน์ข้ออ้างว่าอียูไม่ได้ระงับการส่งออกวัคซีน ในขณะที่ออสเตรเลียกำลังประสบปัญหาฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียกล่าวว่า อียูได้ร้องขอให้ออสเตรเลียถอนใบอนุญาตการส่งออกวัคซีน ในขณะเดียวกันยังคงไม่ตอบคำถามในจดหมายที่ออสเตรเลียยื่นต่ออียูเพื่อขอให้จัดส่งวัคซีนเช่นกัน เขากล่าวว่า หากอียูต้องการพิสูจน์ว่าไม่ได้ระงับการส่งออกวัคซีนจริง เขาขอให้อียูจัดส่งวัคซีน 3.1 ล้านโดสให้แก่ออสเตรเลีย เพราะออสเตรเลียควรได้รับวัคซีนจำนวนดังกล่าวในช่วงสิ้นเดือนที่แล้ว ขณะนี้ออสเตรเลียฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนได้ราว 670,000 คน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4 ล้านคนภายในเดือนมีนาคม โดยได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา 300,000 โดสจากการจัดส่งครั้งแรกและครั้งเดียวในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ แต่ออสเตรเลียยังได้นำเข้าวัคซีนของไฟเซอร์มาใช้อีกขนานหนึ่งด้วย ทั้งนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 29,300 คน และผู้เสียชีวิต 909 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ก่อนหน้านี้ อียูได้ปฏิเสธเมื่อวันอังคารว่า ไม่ได้สั่งระงับการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ออสเตรเลียที่กำลังประสบปัญหาความล่าช้าในโครงการฉีดวัคซีนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งยังระบุว่า อียูไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบในความล้มเหลวจากข้อตกลงที่แอสตราเซเนกาได้ให้สัญญาไว้กับประเทศต่าง ๆ ขณะที่ในเดือนที่แล้ว อียูได้สั่งระงับการจัดส่งวัคซีนของแอสตราเซเนกา 250,000 โดสให้แก่ออสเตรเลียตามที่อิตาลีร้องขอ โดยอ้างว่ายุโรปกำลังประสบปัญหาขาดแคลนวัคซีน.-สำนักข่าวไทย