ธปท.แจงข้อมูลการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ-เก็งกำไร

ธปท. ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการชักชวนให้ซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพื่อการลงทุนหรือเก็งกำไร ในลักษณะการเทรด FOREX เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อการชักชวนลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศหรือเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน

นายกฯ แนะพิจารณารอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน

รองโฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ห่วงนักลงทุน พิจารณารอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุนทุกประเภท เตือนผู้รับงานโฆษณารีวิวสินค้าบริการเพิ่มความระมัดระวัง อาจตกเป็นผู้มีส่วนร่วมกระทำผิด

ซัพพลายเออร์ของ “แอปเปิ้ล” ลงทุนเพิ่มในเวียดนาม

“ฟอกซ์คอนน์” ซัพพลายเออร์ของ “แอปเปิ้ล” ลงนามในบันทึกความเข้าใจมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์กับกิงบัค ซิตี้ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนามเพื่อขยายโรงงานที่อยู่ทางตอนเหนือของเวียดนามเพื่อเพิ่มความหลากหลายและขยายการผลิตสินค้า

ไต้หวันจะขอให้ฟ็อกซ์คอนน์เลิกลงทุนในบริษัทชิปจีน

ไทเป 10 ส.ค.- เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของไต้หวันต้องการจูงใจให้ฟ็อกซ์คอนน์ ผู้รับช่วงผลิตให้แก่แอปเปิลอิงค์ของสหรัฐยกเลิกการลงทุนมูลค่าเกือบ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 28,285 ล้านบาท) ในชิงหัว ยูนิกรุ๊ป ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์หรือชิปของจีน หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ รายงานวันนี้อ้างแหล่งข่าวว่า คณะกรรมาธิการในคณะรัฐมนตรีไต้หวันยังไม่ได้อนุมัติการลงทุนดังกล่าวอย่างเป็นทางการ เจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติและสภากิจการแผ่นดินใหญ่ของไต้หวันเห็นว่า จำเป็นต้องขัดขวางการลงทุนดังกล่าว เรื่องนี้ถูกยกระดับขึ้นเป็นประเด็นความมั่นคงแห่งชาติ และมีแนวโน้มจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากทางการในช่วงที่สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันทวีความตึงเครียด หลังจากฟ็อกซ์คอนน์เผยเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า ได้เป็นผู้ถือหุ้นในชิงหัว ยูนิกรุ๊ป ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของจีน จากการลงทุนมูลค่า 798 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 28,215 ล้านบาท) ผ่านบริษัทในเครือฟ็อกซ์คอนน์ ไต้หวันซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลกมีความกังวลมากขึ้นเรื่องจีนเดินหน้าส่งเสริมอุตสาหกรรมชิปในจีน จึงได้เสนอกฎหมายใหม่ ๆ เพื่อป้องกันการถูกจีนโจรกรรมเทคโนโลยีชิป ท่ามกลางกระแสวิตกเรื่องจีนกำลังเพิ่มการจารกรรมทางเศรษฐกิจกับไต้หวัน รัฐบาลไต้หวันถึงกับห้ามบริษัทต่าง ๆ ตั้งโรงงานผลิตชิปที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในจีน เพื่อเก็บเทคโนโลยีที่ดีที่สุดไว้ในไต้หวัน.-สำนักข่าวไทย

แนะประชาชนตรวจข้อมูลบริษัท ก่อนตัดสินใจลงทุน

รัฐบาลแนะประชาชนตรวจข้อมูลบริษัท ก่อนตัดสินใจลงทุน ก.พาณิชย์เปิดคลังข้อมูลธุรกิจออนไลน์ใหญ่สุดในประเทศ ค้นข้อมูลฟรี

“เพื่อไทย” ชี้ต่างชาติขาดความมั่นใจ ไม่ลงทุนในไทย

“เพื่อไทย” ชี้ต่างชาติขาดความมั่นใจ ไม่ลงทุนในไทยยุค “ประยุทธ์” จี้ตื่นจากฝัน หลังอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าย้ายฐานลงทุนไปอินโดนีเซีย แนะศึกษาเรื่อง EV ให้รู้จริงก่อนพูด

รัฐวิสาหกิจเร่งรัดเบิกจ่ายลงทุนเต็ม 100%

รัฐวิสาหกิจเร่งรัดเบิกจ่ายลงทุนตามเป้าหมายเต็ม 100% คลังพอใจ รถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงช่วงบางซื่อ – รังสิต และรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม – ชุมพร

รัฐบาลย้ำศักยภาพไทย เป็นจุดหมายลงทุนของเอกชนญี่ปุ่น

โฆษกรัฐบาลย้ำ ศักยภาพของไทยมีเสน่ห์คงการเป็นจุดหมายการลงทุนของเอกชนญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่ยืนยันขยายการลงทุนในไทยต่อไป ด้านนายกฯ หนุนเต็มที่

นายกฯ อังกฤษเยือนอินเดียเน้นเรื่องเศรษฐกิจ

อาห์เมดาบัด 21 เม.ย.- นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษเดินทางถึงอินเดียแล้วในวันนี้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะการลงทุน และคงไม่กดดันอินเดียให้ประณามรัสเซียเรื่องรุกรานยูเครน นายกรัฐมนตรีจอห์นสันเริ่มการเยือนอินเดียที่รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดีย ซึ่งเป็นรัฐถิ่นฐานของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เพื่อพบหารือกับแกนนำภาคธุรกิจ และเยี่ยมชมอาห์เมดาบัด เมืองประวัติศาสตร์ที่เป็นบ้านเกิดบรรพบุรุษของชุมชนชาวอินเดียเชื้อสายอังกฤษราวครึ่งหนึ่งในอังกฤษ จากนั้นจะเดินทางไปพบนายกรัฐมนตรีโมดีที่กรุงนิวเดลีในวันศุกร์ นายกรัฐมนตรีจอห์นสันเลื่อนการเยือนอินเดียมาแล้ว 2 ครั้งเพราะสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในแต่ละประเทศ เขาแถลงต่อรัฐสภาก่อนออกเดินทางว่า จะไปกระชับความสัมพันธ์สำคัญทางการค้า กลาโหมและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน เพราะความเป็นหุ้นส่วนที่ทรงพลังนี้จะสร้างงาน การเติบโตและโอกาสให้แก่ชาวอังกฤษ สำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษเผยว่า จะมีการทำข้อตกลงลงทุน 2 ฝ่ายมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านปอนด์ (มากกว่า 44,242 ล้านบาท) ครอบคลุมเรื่องหุ่นยนต์ ยานยนต์ไฟฟ้า และการปล่อยดาวเทียม และจะทำให้เกิดการสร้างงานใหม่ในอังกฤษเกือบ 11,000 ตำแหน่ง โฆษกนายกรัฐมนตรีอังกฤษเผยว่า ในการประชุมสุดยอดกับผู้นำอินเดียวันศุกร์นี้ นายกรัฐมนตรีจอห์นสันจะหยิบยกประเด็นยูเครนขึ้นมาหารือด้วยเพื่อหาทางขยายกลุ่มพันธมิตรตะวันตกที่ต่อต้านรัสเซีย แต่จะไม่กดดันอินเดียให้ประณามรัสเซีย หลังจากนางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษคว้าน้ำเหลวมาแล้วระหว่างการเยือนอินเดียเมื่อเดือนก่อน.-สำนักข่าวไทย

เจ้าของคริปโทเกือบครึ่งเพิ่งซื้อครั้งแรกเมื่อปี 64

นิวยอร์ก 4 เม.ย.- ผลสำรวจพบว่า เจ้าของคริปโทเคอร์เรนซีเกือบครึ่งในสหรัฐ ลาตินอเมริกาและเอเชียแปซิฟิกเพิ่งซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลนี้เป็นครั้งแรกในปี 2564 เจมิไน บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโทในสหรัฐสำรวจกับคนเกือบ 30,000 คนใน 20 ประเทศระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2564 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 พบว่า ปี 2564 ถือเป็นปีทำเงินของคริปโท เพราะภาวะเงินเฟ้อทำให้หลายประเทศที่ค่าเงินอ่อนหันมายอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทนี้ เจ้าของคริปโทร้อยละ 79 เพิ่งซื้อเมื่อปีก่อนเพื่อโอกาสในการลงทุนระยะยาว ผลสำรวจพบว่า คนในบราซิลและอินโดนีเซียถือครองคริปโทมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 41 ของผู้ตอบแบบสำรวจในแต่ละประเทศ ตามมาด้วยสหรัฐร้อยละ 20 และสหราชอาณาจักรร้อยละ 18 ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ถือครองคริปโทและอยู่ในประเทศที่ค่าเงินอ่อนมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐมีแผนจะซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อมากกว่าคนในประเทศที่ไม่มีปัญหาค่าเงินอ่อนถึง 5 เท่า เช่น อินโดนีเซียที่เงินรูเปียห์อ่อนค่าลงถึงครึ่งหนึ่งช่วงปี 2554-2563 และอินเดียที่เงินรูปีอ่อนค่าลงร้อยละ 17.5 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีคนอยากซื้อคริปโทเป็นครั้งแรกถึงร้อยละ 64 เทียบกับคนในสหรัฐและยุโรปที่คิดเช่นนี้เพียงร้อยละ 16 และ 15 ตามลำดับ บิทคอยน์ ซึ่งเป็นคริปโทยอดนิยมที่สุดทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดมีมูลค่ามากกว่าหน่วยละ 68,000 ดอลลาร์สหรัฐ […]

1 4 5 6 7 8 37
...