กรุงเทพฯ 16 พ.ค.- Krungthai COMPASSคาดลงทุนเอกชนชะลอตัว ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่เปราะบางคงมุมมองเศรษฐกิจปีนี้มีแนวโน้มเติบโต 3.4%
ธนาคารกรุงไทย โดย Krungthai COMPASS วิเคราะห์ หลัง สภาพัฒน์ รายงานเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 1/2566 ขยายตัว 2.7% ว่าภาพรวมแล้ว Krungthai COMPASS ยังคงมุมมองเศรษฐกิจปีนี้มีแนวโน้มเติบโตได้ใกล้เคียงประมาณการเดิมที่ 3.4% ประเมินว่าเศรษฐกิจจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่อาจเติบโตต่อเนื่องจากแรงส่งในไตรมาสที่ 1 ซึ่งเติบโตดีและมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับการท่องเที่ยวที่ทยอยฟื้นตัวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวสัญชาติจีน อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจอาจถูกกดดันจากการลงทุนภาคเอกชนซึ่งชะลอตัวท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่เปราะบาง
การใช้จ่ายในหมวดบริการตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว เป็นแรงส่งสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้การบริโภคภาคภาคเอกชนขยายตัวได้ต่อเนื่องและเป็นความเสี่ยงขาสูงที่อาจทำให้การบริโภคภาคเอกชนทั้งปีมีแนวโน้มขยายตัวมากกว่าที่เคยคาดไว้ที่ 3.5% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวสัญชาติจีน อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกที่เปราะบางได้ส่งผลกระทบมายังการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัวต่อเนื่อง อีกทั้งเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนท่ามกลางแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่องอาจเป็นปัจจัยกดดันต่อการสงทุนในปีนี้ ทำให้การลงทุนภาคเอกชนมีความเสี่ยงที่อาจต่ำกว่าประมาณการเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 3.2% ดังนั้น แม้ว่าเศรษฐกิจจะมีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่อาจเติบโตต่อเนื่องและมากกว่าคาด แต่อาจถูกกดดันจากแนวโน้มการลงทุนภาคเอกชนที่อาจชะลอตัวมากกว่าคาดได้ ทำให้เศรษฐกิจปีนี้มีแนวโน้มเติบโตได้ใกล้เคียงกับที่เคยประเมินไว้ที่ 3.4%
ทั้งนี้ สภาพัฒน์คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว ในช่วง 2.7%-3.7% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก (1) การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว (2) การขยายตัวต่อเนื่องของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับตัวดีขึ้นของฐานรายได้โดยเฉพาะจากภาคการท่องเที่ยวและภาคเกษตร การฟื้นตัวของตลาดแรงงาน และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น (3) การขยายตัวของการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐอย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความผันผวนของระบบเศรษฐกิจการเงินโลก ภาระหนี้สินของครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูงท่ามกลางต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคเกษตร และความไม่แน่นอนทางการเมือง.-สำนักข่าวไทย