ไทยออกถ้อยแถลงเรียกร้องรัสเซีย-ยูเครน ยุติความรุนแรง
ไทยออกถ้อยแถลงผ่านเวทียูเอ็น เรียกร้องรัสเซีย-ยูเครน ยุติสถานการณ์อย่างสันติ หยุดการใช้ความรุนแรง
ไทยออกถ้อยแถลงผ่านเวทียูเอ็น เรียกร้องรัสเซีย-ยูเครน ยุติสถานการณ์อย่างสันติ หยุดการใช้ความรุนแรง
สหประชาชาติ 3 มี.ค.- ไทยเป็นหนึ่งใน 141 ชาติสมาชิกสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นจีเอ (UNGA) ที่ลงมติสนับสนุนญัตติเรียกร้องให้รัสเซียยุติการใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนโดยทันที เว็บไซต์เดอะดิโพลแมตรายงานว่า ญัตติดังกล่าวประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการที่รัสเซียรุกรานยูเครน อันเป็นการละเมิดมาตรา 2 ย่อหน้า 4 ในกฎบัตรยูเอ็น และตัดสินว่ารัสเซียควรถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากดินแดนของยูเครนที่อยู่ภายในพรมแดนที่ได้รับการรับรองจากสากลโดยทันที ครบถ้วน และไร้เงื่อนไข เดอะดิโพลแมตสำรวจการออกเสียงตามภูมิภาคพบว่า เอเชียแปซิฟิกมีประเทศงดออกเสียง 10 ประเทศ โดยมีจีน สปป.ลาว และเวียดนามรวมอยู่ด้วย มีประเทศที่ทั้งร่วมเสนอญัตติและออกเสียงสนับสนุน 14 ประเทศ โดยมีกัมพูชา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้รวมอยู่ด้วย ขณะที่เอเชียกลาง 5 ประเทศที่ใกล้ชิดกับรัสเซีย งดออกเสียงหรือไม่เข้าร่วมการออกเสียงเลย ส่วนไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ออกเสียงสนับสนุน ด้านเว็บไซต์ข่าวยูเอ็นรายงานว่า ญัตติดังกล่าวเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากดินแดนของยูเครนที่อยู่ภายในพรมแดนที่ได้รับการรับรองจากสากลโดยทันที ครบถ้วน และไร้เงื่อนไข สมาชิกกว่า 90 ประเทศเป็นผู้ร่วมเสนอญัตติ และต้องได้เสียงข้างมาก 2 ใน 3 จึงจะผ่านความเห็นชอบ ผลการลงมติเมื่อวันพุธตามเวลานิวยอร์ก มี 141 ประเทศออกเสียงสนับสนุน 5 ประเทศออกเสียงคัดค้าน […]
สหประชาชาติ 2 มี.ค.- ประเทศส่วนใหญ่ในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ตำหนิรัสเซียเรื่องรุกรานยูเครนและขอให้ยูเอ็นออกมติเรียกร้องให้รัสเซียยุติการใช้ปฏิบัติการทางการทหารในยูเครนโดยทันทีและถอนกำลังทหารรัสเซียทั้งหมดออกไป มตินี้ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่สะท้อนถึงความคิดเห็นของประชาคมโลก สมาชิกสมัชชาใหญ่ยูเอ็น 193 ประเทศจะลงมติญัตติในบ่ายวันพุธตามเวลานิวยอร์ก หลังจากเอกอัครราชทูต 120 ประเทศเสร็จสิ้นการกล่าวสุนทรพจน์แสดงจุดยืนในเรื่องนี้ เนื้อหาในญัตติประณามเบลารุสที่ข้องเกี่ยวกับการใช้กำลังกับยูเครนอย่างผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้เบลารุสปฏิบัติตามพันธกิจสากล ข้อมูลจนถึงค่ำวันอังคารพบว่า มี 94 ประเทศให้การสนับสนุน ในจำนวนนี้มีอัฟกานิสถานและเมียนมารวมอยู่ด้วย ขณะที่เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือและคิวบากล่าวโทษสหรัฐและชาติตะวันตกว่า เป็นต้นเหตุของวิกฤตยูเครน เพราะพยายามขยายองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตไปทางตะวันออกจนประชิดพรมแดนรัสเซียและจัดส่งอาวุธให้ยูเครน โดยไม่สนใจความกังวลเรื่องความมั่นคงของรัสเซีย สหรัฐและชาติตะวันตกเสนอญัตติลักษณะเดียวกันต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซีเมื่อสัปดาห์ก่อน เรียกร้องให้รัสเซียยุติการใช้กำลังทหารต่อยูเครนโดยทันทีและถอนทหารทั้งหมดออกไป แต่ถูกรัสเซียใช้สิทธิยับยั้งหรือวีโต้ ขณะที่จีน อินเดีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์งดออกเสียง ทำให้มติที่มีเสียงสนับสนุน 11 วีโต้ 1 เสียง จากสมาชิกทั้งหมด 15 ประเทศเป็นอันตกไป.-สำนักข่าวไทย
หน่วยงานของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น (UN) เผยว่า มีพลเรือนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 240 คน ในจำนวนนี้ 64 คน เสียชีวิตในยูเครน นับตั้งแต่รัสเซียยกกำลังบุกยูเครนตั้งแต่วันพฤหัสบดี
รัสเซียใช้สิทธิยับยั้งร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวานนี้ ที่จะประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซียในขณะที่จีนงดออกเสียง
เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ วอนให้ยูเครนและรัสเซียหันมาเจรจากัน เพื่อให้โอกาสแก่สันติภาพบ้าง
สหประชาชาติ 24 ก.พ.- นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ขอให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียหยุดการส่งทหารเข้าไปโจมตียูเครน และให้โอกาสแก่สันติภาพ เว็บไซต์ข่าวของยูเอ็นรายงานว่า นายกูเตอร์เรสได้ขอร้องดังกล่าว เมื่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) เปิดการประชุมฉุกเฉินเมื่อเย็นวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นการประชุมคืนที่ 2 แล้วในสัปดาห์นี้ และเมื่อการประชุมดำเนินไปได้ 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีปูตินได้ประกาศในกรุงมอสโกว่า ปฏิบัติการทางทหารพิเศษในภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของยูเครนได้เริ่มขึ้นแล้ว และขอให้ทหารยูเครนวางอาวุธ เป็นเหตุให้เลขาธิการยูเอ็นเปิดการแถลงข่าวกับสื่อหลังยูเอ็นเอสซีเสร็จสิ้นการประชุมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาน่าเศร้าที่สุดในการดำรงตำแหน่งของเขา เขาต้องขอแก้ไขคำขอร้องก่อนหน้านี้เป็นว่า ขอให้ประธานาธิบดีปูตินเห็นแก่มนุษยธรรมด้วยการนำทหารกลับไปรัสเซีย และไม่เริ่มต้นสงครามที่อาจเลวร้ายที่สุดของคริสต์ศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นคริสต์ศตวรรษปัจจุบัน ความขัดแย้งนี้จะต้องยุติลงในเวลานี้.-สำนักข่าวไทย
สหประชาชาติ 22 ก.พ.- เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใจเย็นและหลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเครียดในยูเครน แต่ไม่ได้ประณามรัสเซียเรื่องรับรอง 2 แคว้นของยูเครนให้เป็นรัฐอิสระ นายจาง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็นแถลงในการประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเมื่อค่ำวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลจีนสนับสนุนทุกความพยายามที่จะหาทางออกด้วยวิถีทางทางการทูต และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม สถานการณ์ในยูเครนขณะนี้เป็นผลจากปัจจัยซับซ้อนหลายประการ จีนแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ตามความถูกต้องของสถานการณ์อยู่เสมอ และเชื่อว่าทุกประเทศควรแก้ไขข้อพิพาทสากลด้วยสันติวิธีที่สอดคล้องกับจุดประสงค์และหลักการของกฎบัตรยูเอ็น อย่างไรก็ดี นายจางไม่ได้ประณามรัสเซียเรื่องรับรองแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครนให้เป็นรัฐอิสระ ขณะเดียวกันกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้สนทนากับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเรื่องสถานการณ์ในเกาหลีเหนือและการที่รัสเซียรุกรานยูเครน โดยได้ย้ำเรื่องความสำคัญของการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของยูเครน ที่ผ่านมาจีนเคยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตยูเครนให้กลับไปยึดมั่นตามข้อตกลงมินสก์ปี 2547 และ 2558 ที่รับรองอำนาจของยูเครนเหนือพรมแดนตนเองด้านติดกับรัสเซีย หลังจากสู้รบกับกลุ่มแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซีย ทางตะวันออกของประเทศ.-สำนักข่าวไทย
สหประชาชาติ 6 ก.พ.- คณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) เผยว่า เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ รวมถึงศักยภาพในการผลิตวัสดุฟิชไซล์ที่สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ต่อเนื่องได้ อันเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) เอพีอ้างรายงานสรุปของคณะผู้เชี่ยวชาญว่า ตลอดเดือนมกราคมที่ผ่านมา เกาหลีเหนือมีอัตราการเร่งอย่างชัดเจนเรื่องการทดสอบและสาธิตขีปนาวุธพิสัยใกล้แบบใหม่ ซึ่งอาจมีขีปนาวุธพิสัยกลางแบบใหม่ด้วย โดยได้รวมเทคโนโลยีขีปนาวุธทิ้งตัวเข้ากับขีปนาวุธนำวิถี และใช้เชื้อเพลิงทั้งแบบแข็งและแบบเหลว ส่วนการทดสอบเทคโนโลยีใหม่มีทั้งหัวรบนำวิถีความเร็วเหนือเสียงและขีปนาวุธติดตามเป้าหมายภาคพื้นดินได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่เพิ่มขึ้นในการประจำการอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนที่ในวงกว้าง และความยืดหยุ่นของกองกำลังขีปนาวุธ รวมทั้งเดินหน้าหาวัสดุ เทคโนโลยี และความรู้สำหรับดำเนินโครงการเหล่านี้ผ่านช่องทางไซเบอร์และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับต่างประเทศ การโจมตีไซเบอร์โดยเฉพาะสินทรัพย์คริปโตเคอเรนซียังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของเกาหลีเหนือ รายงานระบุด้วยว่า มาตรการปิดประเทศของเกาหลีเหนือเพื่อสกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลให้คนและสินค้าเข้าออกประเทศต่ำเป็นประวัติการณ์ เป็นเหตุให้การค้าทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายส่วนใหญ่หยุดละงักไปด้วย แม้ว่าเกาหลีเหนือเพิ่งเปิดเดินรถไฟข้ามพรมแดนกับจีนอีกครั้งเมื่อต้นเดือนมกราคมก็ตาม.-สำนักข่าวไทย
สหประชาชาติ 1 ก.พ.- เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น ขอให้ทุกฝ่ายใช้การทูตแบบเงียบ ๆ แทนการทูตแบบป่าวประกาศในการแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซีย เว็บไซต์ซีจีทีเอ็น (CGTN) ของทางการจีนรายงานว่า จีนและรัสเซียลงมติเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ คัดค้านการเดินหน้าประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) ว่าด้วยเรื่องยูเครนตามคำขอของสหรัฐ แต่สมาชิกอีก 10 ชาติจากทั้งหมด 15 ชาติลงมติให้ประชุมต่อไป นายจาง จุน ผู้แทนถาวรจีนประจำยูเอ็นกล่าวว่า ในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังให้ความสนใจว่าอะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดความตึงเครียดเรื่องยูเครน แต่บางประเทศนำโดยสหรัฐกลับกล่าวอ้างว่า กำลังจะเกิดสงครามในยูเครน ทั้งที่รัสเซียย้ำมาโดยตลอดว่า ไม่คิดจะใช้ปฏิบัติการทางทหาร และยูเครนก็ประกาศชัดเจนว่า ไม่ต้องการให้เกิดสงคราม แล้วเหตุใดประเทศเหล่านั้นจึงยืนกรานว่าจะเกิดสงคราม ผู้แทนจีนกล่าวว่า สหรัฐ ยูเครน และประเทศยุโรปที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต มีการติดต่อทางการทูตหลากหลายรูปแบบกับรัสเซีย จึงควรมุ่งมั่นแก้ไขความเห็นต่างผ่านการเจรจา สิ่งจำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้คือ การทูตแบบเงียบ ๆ ไม่ใช่การทูตแบบป่าวประกาศ จีนยังคงยืนหยัดจุดยืนเดิมในเรื่องยูเครน นั่นคือ การกลับไปยังจุดเริ่มต้นเรื่องการปฏิบัติตามข้อตกลงมินสก์ฉบับใหม่ เพราะยูเอ็นเอสซีได้ให้การรับรองแล้ว จึงถือเป็นเอกสารทางการเมืองพื้นฐานที่มีผลผูกพันเพราะได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 13 ม.ค.- ดร.โนลีน เฮเซอร์ ทูตพิเศษสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรื่องเมียนมาขอให้สมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนสนับสนุนความพยายามของนานาชาติที่ต้องการให้ทุกฝ่ายในเมียนมาได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขวิกฤตประเทศ ยูเอ็นแถลงวันนี้ว่า ดร.เฮเซอร์ ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการใหญ่ยูเอ็นด้านเมียนมา ได้หารือเสมือนจริงกับนายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาที่เป็นประธานอาเซียนวาระปัจจุบัน โดยได้ขอให้ร่วมมือเรื่องจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และหาทางทำให้แผนสันติภาพฉันทามติ 5 ข้อที่ชะงักงันมีความคืบหน้า ดร.เฮเซอร์สนับสนุนให้มีมาตรการสร้างความไว้วางใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเมียนมา นอกเหนือไปจากองค์กรกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ และขอให้นายปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาร่วมกับเธอและประชาคมโลกสร้างยุทธศาสตร์ที่มุ่งไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจรจาแบบครอบคลุมทุกฝ่าย เพราะวิธีการแก้ปัญหาต้องมาจากเข้าไปข้องเกี่ยวโดยตรง และรับฟังทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบอย่างเอาใจใส่ ทูตของบรูไนเคยกำหนดเงื่อนไขการเยือนเมียนมาในช่วงที่บรูไนดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปีก่อนว่า ต้องการพบกับทุกฝ่ายในเมียนมา แต่นายปรัก สุคน แย้งว่า เป็นวิธีที่ไม่ได้ผล ล่าสุดนายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาเพิ่งนำคณะไปเยือนเมียนมาเป็นเวลา 2 วันเมื่อสัปดาห์ก่อน และได้พบหารือกับพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่ายของเมียนมา แต่ไม่ได้พบกับนางออง ซาน ซู จี ผู้นำพลเรือนที่ถูกกองทัพรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน และคุมขังอยู่จนถึงขณะนี้.-สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 4 ม.ค.- 5 ประเทศใหญ่ที่มีอาวุธนิวเคลียร์ยืนยันร่วมกันว่า จะป้องกันไม่ให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ และควรจำกัดการใช้อาวุธชนิดนี้สำหรับการป้องกันและสกัดกั้นการรุกรานเท่านั้น สหรัฐ รัสเซีย จีน อังกฤษ และฝรั่งเศส ซึ่งเป็น 5 ชาติที่ได้รับการรับรองว่าเป็นประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ตามสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์หรือเอ็นพีที (NPT) ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า ขอย้ำว่าจะไม่มีใครเป็นผู้ชนะในสงครามนิวเคลียร์ และจะต้องไม่มีสงครามนิวเคลียร์เกิดขึ้น การใช้อาวุธนิวเคลียร์จะก่อให้เกิดผลในวงกว้าง จึงขอย้ำให้ใช้เพื่อการปกป้องประเทศ สกัดกั้นการรุกราน และป้องกันการเกิดสงครามเท่านั้น ทั้ง 5 ชาติปรารถนาที่จะร่วมกับทุกประเทศสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และเอื้อให้การปลดอาวุธนิวเคลียร์มีความคืบหน้ามากยิ่งขึ้น เพราะเป้าหมายสูงสุดคือ การสร้างโลกที่ปลอดนิวเคลียร์และมีความมั่นคงที่ไม่ลดลงให้แก่ทุกคน อนึ่ง แถลงการณ์ร่วมของ 5 ชาติมหาอำนาจนี้มีขึ้นเพื่อให้ตรงกับที่ยูเอ็นจะประชุมทบทวนการปฏิบัติตามเอ็นพีที เริ่มตั้งแต่วันนี้ตามเวลาสหรัฐ ด้านนายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) แถลงแสดงความชื่นชมประเทศมีอาวุธนิวเคลียร์ที่ตระหนักถึงความจำเป็นของการปฏิบัติตามข้อตกลงและพันธกรณีในการปลดและควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ นอกจากนี้ยังรู้สึกมีกำลังใจจากที่มหาอำนาจนิวเคลียร์รับปากจะเดินหน้ามาตรการป้องกันสงครามนิวเคลียร์ เขาหวังว่าจะได้ทราบรายละเอียดมาตรการเหล่านี้ในเร็ว ๆ นี้.-สำนักข่าวไทย