เลขายูเอ็นเตือน “สงครามนิวเคลียร์” อาจเกิดขึ้นได้

สหประชาชาติ 15 มี.ค.- นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ชี้ว่า จะไม่มีผู้ชนะสงครามในยูเครน เพราะจะมีแต่คนแพ้ และอาจบานปลายกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ได้ เว็บไซต์รัสเซียทูเดย์หรืออาร์ที (RT) ซึ่งเป็นสื่อของทางการรัสเซียรายงานว่า นายกูเตอร์เรสแถลงนอกห้องประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเมื่อวันจันทร์ตามเวลานิวยอร์กว่า สงครามในยูเครนที่ทวีความรุนแรงอยู่ในขณะนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือการจงใจจะเป็นภัยต่อมวลมนุษยชาติ โอกาสที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคิดมาก่อนได้กลับมาเป็นเรื่องที่สามารถเป็นไปได้จริงแล้ว นายกูเตอร์เรสเตือนเรื่องนี้ หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียยกระดับกองกำลังด้านการป้องกันที่มีอาวุธเชิงยุทธศาสตร์หลากหลายประเภท ครอบคลุมทั้งอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธทั่วไป ขึ้นเป็นกองกำลังพิเศษเมื่อปลายเดือนก่อน เป็นการยกระดับที่นายกูเตอร์เรสมองว่า น่ากลัวอย่างน่าสยดสยอง เลขาธิการยูเอ็นกล่าวด้วยว่า สงครามนี้จะไม่มีผู้ชนะ จะมีแต่คนแพ้ และจะลุกลามไปยังเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนาที่จะได้รับผลกระทบเป็นพิเศษจากราคาอาหารแพงขึ้น เพราะรัสเซียและยูเครนผลิตน้ำมันดอกทานตะวันมากถึงครึ่งหนึ่งของโลก และปลูกข้าวสาลี 1 ใน 3 ของโลก อาร์ทีรายงานว่า บรรดาผู้รู้และนักการเมืองในยุโรปและสหรัฐกำลังกดดันให้องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตประกาศเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน เพื่อเปิดช่องให้ยุโรปและสหรัฐสามารถยิงเครื่องบินรัสเซียในน่านฟ้ายูเครน และนำชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์มาเผชิญหน้ากันอย่างเปิดเผย จนถึงขณะนี้ผู้นำในนาโตและสหรัฐยังไม่ยอมเข้าไปข้องเกี่ยวกับสงครามนี้โดยตรง ตราบใดที่สมาชิกนาโตยังไม่ถูกโจมตี อาร์ทีกล่าวถึงการที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหารกับยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ว่า ประธานาธิบดีปูตินยืนยันว่าเป็นการขจัดนาซีและปลดอาวุธประเทศเพื่อนบ้าน และสร้างความมั่นใจว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมนาโต โดยมีขึ้นหลังจากทั้งสองประเทศเผชิญหน้ากันมา 7 ปี จากเรื่องรัสเซียกล่าวหายูเครนว่า ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ที่พูดภาษารัสเซีย.-สำนักข่าวไทย

หน่วยงานยูเอ็นร่วมประณามเหตุยิงสถานพยาบาลในยูเครน

เจนีวา 14 มี.ค.- หน่วยงานของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ร่วมกันเรียกร้องให้หยุดยิงโดยทันทีและยุติการโจมตีบุคลากรและสถานพยาบาลในยูเครน โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนเป็น “ความโหดร้ายที่ไร้จิตสำนึก” ระบบเฝ้าระวังการโจมตีการดูแลสุขภาพหรือเอสเอสเอ (SSA) ขององค์การอนามัยโลกเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมที่ลงนามโดยผู้อำนวยการองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติหรือยูนิเซฟ กองทุนประชากรยูเอ็น และองค์การอนามัยโลกว่า นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์มีการโจมตีการดูแลสุขภาพแล้วทั้งหมด 31 ครั้ง การโจมตีกลุ่มผู้เปราะบางที่สุดที่ประกอบด้วยทารก เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยงชีวิตตนเองเพื่อช่วยชีวิตผู้อื่น ถือเป็นการกระทำที่โหดร้ายอย่างไร้จิตสำนึก การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 12 คน บาดเจ็บ 34 คน แถลงการณ์เรียกร้องให้หยุดยิงโดยทันที เพราะบุคลากรทางการแพทย์จะต้องสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย ทั้งการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และโปลิโอ การให้ยาช่วยชีวิตแก่พลเรือนทั่วยูเครนและผู้ลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แถลงการณ์ระบุว่า ตั้งแต่รัสเซียรุกรานยุเครน มีการคลอดไม่ต่ำกว่า 4,300 ครั้ง คาดว่าสตรียูเครนประมาณ 80,000 คนจะคลอดในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ขณะนี้ออกซิเจนและยา รวมถึงการจัดการกรณีเกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์กำลังเหลือน้อยถึงระดับที่เป็นอันตราย ระบบสาธารณสุขในยูเครนกำลังตึงตัวอย่างยิ่ง หากระบบล้มเหลวจะกลายเป็นหายนะ จึงต้องพยายามอย่างเต็มที่ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ขอเรียกร้องให้มีการหยุดยิงโดยทันทีและการเปิดทางให้ผู้เดือดร้อนได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ทางออกสันติเพื่อยุติสงครามในยูเครนยังคงเป็นเรื่องที่สามารถเป็นไปได้.-สำนักข่าวไทย

ไทยร่วมหนุนมติ UN เรียกร้องรัสเซียหยุดโจมตียูเครน

สหประชาชาติ 3 มี.ค.- ไทยเป็นหนึ่งใน 141 ชาติสมาชิกสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นจีเอ (UNGA) ที่ลงมติสนับสนุนญัตติเรียกร้องให้รัสเซียยุติการใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนโดยทันที เว็บไซต์เดอะดิโพลแมตรายงานว่า ญัตติดังกล่าวประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการที่รัสเซียรุกรานยูเครน อันเป็นการละเมิดมาตรา 2 ย่อหน้า 4 ในกฎบัตรยูเอ็น และตัดสินว่ารัสเซียควรถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากดินแดนของยูเครนที่อยู่ภายในพรมแดนที่ได้รับการรับรองจากสากลโดยทันที ครบถ้วน และไร้เงื่อนไข เดอะดิโพลแมตสำรวจการออกเสียงตามภูมิภาคพบว่า เอเชียแปซิฟิกมีประเทศงดออกเสียง 10 ประเทศ โดยมีจีน สปป.ลาว และเวียดนามรวมอยู่ด้วย มีประเทศที่ทั้งร่วมเสนอญัตติและออกเสียงสนับสนุน 14 ประเทศ โดยมีกัมพูชา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้รวมอยู่ด้วย ขณะที่เอเชียกลาง 5 ประเทศที่ใกล้ชิดกับรัสเซีย งดออกเสียงหรือไม่เข้าร่วมการออกเสียงเลย ส่วนไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ออกเสียงสนับสนุน ด้านเว็บไซต์ข่าวยูเอ็นรายงานว่า ญัตติดังกล่าวเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากดินแดนของยูเครนที่อยู่ภายในพรมแดนที่ได้รับการรับรองจากสากลโดยทันที ครบถ้วน และไร้เงื่อนไข สมาชิกกว่า 90 ประเทศเป็นผู้ร่วมเสนอญัตติ และต้องได้เสียงข้างมาก 2 ใน 3 จึงจะผ่านความเห็นชอบ ผลการลงมติเมื่อวันพุธตามเวลานิวยอร์ก มี 141 ประเทศออกเสียงสนับสนุน 5 ประเทศออกเสียงคัดค้าน […]

นานาชาติหนุนยูเอ็นออกมติให้รัสเซียหยุดรุกรานยูเครนทันที

สหประชาชาติ 2 มี.ค.- ประเทศส่วนใหญ่ในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ตำหนิรัสเซียเรื่องรุกรานยูเครนและขอให้ยูเอ็นออกมติเรียกร้องให้รัสเซียยุติการใช้ปฏิบัติการทางการทหารในยูเครนโดยทันทีและถอนกำลังทหารรัสเซียทั้งหมดออกไป มตินี้ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่สะท้อนถึงความคิดเห็นของประชาคมโลก สมาชิกสมัชชาใหญ่ยูเอ็น 193 ประเทศจะลงมติญัตติในบ่ายวันพุธตามเวลานิวยอร์ก หลังจากเอกอัครราชทูต 120 ประเทศเสร็จสิ้นการกล่าวสุนทรพจน์แสดงจุดยืนในเรื่องนี้ เนื้อหาในญัตติประณามเบลารุสที่ข้องเกี่ยวกับการใช้กำลังกับยูเครนอย่างผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้เบลารุสปฏิบัติตามพันธกิจสากล ข้อมูลจนถึงค่ำวันอังคารพบว่า มี 94 ประเทศให้การสนับสนุน ในจำนวนนี้มีอัฟกานิสถานและเมียนมารวมอยู่ด้วย ขณะที่เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือและคิวบากล่าวโทษสหรัฐและชาติตะวันตกว่า เป็นต้นเหตุของวิกฤตยูเครน เพราะพยายามขยายองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตไปทางตะวันออกจนประชิดพรมแดนรัสเซียและจัดส่งอาวุธให้ยูเครน โดยไม่สนใจความกังวลเรื่องความมั่นคงของรัสเซีย สหรัฐและชาติตะวันตกเสนอญัตติลักษณะเดียวกันต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซีเมื่อสัปดาห์ก่อน เรียกร้องให้รัสเซียยุติการใช้กำลังทหารต่อยูเครนโดยทันทีและถอนทหารทั้งหมดออกไป แต่ถูกรัสเซียใช้สิทธิยับยั้งหรือวีโต้ ขณะที่จีน อินเดีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์งดออกเสียง ทำให้มติที่มีเสียงสนับสนุน 11 วีโต้ 1 เสียง จากสมาชิกทั้งหมด 15 ประเทศเป็นอันตกไป.-สำนักข่าวไทย

สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำคนเจ็บหรือตายแล้ว 240 คน

หน่วยงานของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น (UN) เผยว่า มีพลเรือนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 240 คน ในจำนวนนี้ 64 คน เสียชีวิตในยูเครน นับตั้งแต่รัสเซียยกกำลังบุกยูเครนตั้งแต่วันพฤหัสบดี

รัสเซียยับยั้งมติคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเรื่องยูเครน

รัสเซียใช้สิทธิยับยั้งร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวานนี้ ที่จะประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซียในขณะที่จีนงดออกเสียง

เลขาฯ ยูเอ็นวอน “ปูติน” หยุดส่งทหารโจมตียูเครน

สหประชาชาติ 24 ก.พ.- นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ขอให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียหยุดการส่งทหารเข้าไปโจมตียูเครน และให้โอกาสแก่สันติภาพ เว็บไซต์ข่าวของยูเอ็นรายงานว่า นายกูเตอร์เรสได้ขอร้องดังกล่าว เมื่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) เปิดการประชุมฉุกเฉินเมื่อเย็นวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นการประชุมคืนที่ 2 แล้วในสัปดาห์นี้ และเมื่อการประชุมดำเนินไปได้ 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีปูตินได้ประกาศในกรุงมอสโกว่า ปฏิบัติการทางทหารพิเศษในภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของยูเครนได้เริ่มขึ้นแล้ว และขอให้ทหารยูเครนวางอาวุธ เป็นเหตุให้เลขาธิการยูเอ็นเปิดการแถลงข่าวกับสื่อหลังยูเอ็นเอสซีเสร็จสิ้นการประชุมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาน่าเศร้าที่สุดในการดำรงตำแหน่งของเขา เขาต้องขอแก้ไขคำขอร้องก่อนหน้านี้เป็นว่า ขอให้ประธานาธิบดีปูตินเห็นแก่มนุษยธรรมด้วยการนำทหารกลับไปรัสเซีย และไม่เริ่มต้นสงครามที่อาจเลวร้ายที่สุดของคริสต์ศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นคริสต์ศตวรรษปัจจุบัน ความขัดแย้งนี้จะต้องยุติลงในเวลานี้.-สำนักข่าวไทย

จีนขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นเรื่องยูเครน แต่ไม่ประณามรัสเซีย

สหประชาชาติ 22 ก.พ.- เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใจเย็นและหลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเครียดในยูเครน แต่ไม่ได้ประณามรัสเซียเรื่องรับรอง 2 แคว้นของยูเครนให้เป็นรัฐอิสระ นายจาง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็นแถลงในการประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเมื่อค่ำวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลจีนสนับสนุนทุกความพยายามที่จะหาทางออกด้วยวิถีทางทางการทูต และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม สถานการณ์ในยูเครนขณะนี้เป็นผลจากปัจจัยซับซ้อนหลายประการ จีนแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ตามความถูกต้องของสถานการณ์อยู่เสมอ และเชื่อว่าทุกประเทศควรแก้ไขข้อพิพาทสากลด้วยสันติวิธีที่สอดคล้องกับจุดประสงค์และหลักการของกฎบัตรยูเอ็น อย่างไรก็ดี นายจางไม่ได้ประณามรัสเซียเรื่องรับรองแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครนให้เป็นรัฐอิสระ ขณะเดียวกันกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้สนทนากับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเรื่องสถานการณ์ในเกาหลีเหนือและการที่รัสเซียรุกรานยูเครน โดยได้ย้ำเรื่องความสำคัญของการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของยูเครน ที่ผ่านมาจีนเคยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตยูเครนให้กลับไปยึดมั่นตามข้อตกลงมินสก์ปี 2547 และ 2558 ที่รับรองอำนาจของยูเครนเหนือพรมแดนตนเองด้านติดกับรัสเซีย หลังจากสู้รบกับกลุ่มแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซีย ทางตะวันออกของประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นชี้เกาหลีเหนือยังเดินหน้าพัฒนาขีปนาวุธ-นิวเคลียร์

สหประชาชาติ 6 ก.พ.- คณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) เผยว่า เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ รวมถึงศักยภาพในการผลิตวัสดุฟิชไซล์ที่สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ต่อเนื่องได้ อันเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) เอพีอ้างรายงานสรุปของคณะผู้เชี่ยวชาญว่า ตลอดเดือนมกราคมที่ผ่านมา เกาหลีเหนือมีอัตราการเร่งอย่างชัดเจนเรื่องการทดสอบและสาธิตขีปนาวุธพิสัยใกล้แบบใหม่ ซึ่งอาจมีขีปนาวุธพิสัยกลางแบบใหม่ด้วย โดยได้รวมเทคโนโลยีขีปนาวุธทิ้งตัวเข้ากับขีปนาวุธนำวิถี และใช้เชื้อเพลิงทั้งแบบแข็งและแบบเหลว ส่วนการทดสอบเทคโนโลยีใหม่มีทั้งหัวรบนำวิถีความเร็วเหนือเสียงและขีปนาวุธติดตามเป้าหมายภาคพื้นดินได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่เพิ่มขึ้นในการประจำการอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนที่ในวงกว้าง และความยืดหยุ่นของกองกำลังขีปนาวุธ รวมทั้งเดินหน้าหาวัสดุ เทคโนโลยี และความรู้สำหรับดำเนินโครงการเหล่านี้ผ่านช่องทางไซเบอร์และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับต่างประเทศ การโจมตีไซเบอร์โดยเฉพาะสินทรัพย์คริปโตเคอเรนซียังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของเกาหลีเหนือ รายงานระบุด้วยว่า มาตรการปิดประเทศของเกาหลีเหนือเพื่อสกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลให้คนและสินค้าเข้าออกประเทศต่ำเป็นประวัติการณ์ เป็นเหตุให้การค้าทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายส่วนใหญ่หยุดละงักไปด้วย แม้ว่าเกาหลีเหนือเพิ่งเปิดเดินรถไฟข้ามพรมแดนกับจีนอีกครั้งเมื่อต้นเดือนมกราคมก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

จีนขอให้แก้ปัญหายูเครนด้วยการทูตแบบเงียบ ๆ

สหประชาชาติ 1 ก.พ.- เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น ขอให้ทุกฝ่ายใช้การทูตแบบเงียบ ๆ แทนการทูตแบบป่าวประกาศในการแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซีย เว็บไซต์ซีจีทีเอ็น (CGTN) ของทางการจีนรายงานว่า จีนและรัสเซียลงมติเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ คัดค้านการเดินหน้าประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) ว่าด้วยเรื่องยูเครนตามคำขอของสหรัฐ แต่สมาชิกอีก 10 ชาติจากทั้งหมด 15 ชาติลงมติให้ประชุมต่อไป นายจาง จุน ผู้แทนถาวรจีนประจำยูเอ็นกล่าวว่า ในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังให้ความสนใจว่าอะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดความตึงเครียดเรื่องยูเครน แต่บางประเทศนำโดยสหรัฐกลับกล่าวอ้างว่า กำลังจะเกิดสงครามในยูเครน ทั้งที่รัสเซียย้ำมาโดยตลอดว่า ไม่คิดจะใช้ปฏิบัติการทางทหาร และยูเครนก็ประกาศชัดเจนว่า ไม่ต้องการให้เกิดสงคราม แล้วเหตุใดประเทศเหล่านั้นจึงยืนกรานว่าจะเกิดสงคราม ผู้แทนจีนกล่าวว่า สหรัฐ ยูเครน และประเทศยุโรปที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต มีการติดต่อทางการทูตหลากหลายรูปแบบกับรัสเซีย จึงควรมุ่งมั่นแก้ไขความเห็นต่างผ่านการเจรจา สิ่งจำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้คือ การทูตแบบเงียบ ๆ ไม่ใช่การทูตแบบป่าวประกาศ จีนยังคงยืนหยัดจุดยืนเดิมในเรื่องยูเครน นั่นคือ การกลับไปยังจุดเริ่มต้นเรื่องการปฏิบัติตามข้อตกลงมินสก์ฉบับใหม่ เพราะยูเอ็นเอสซีได้ให้การรับรองแล้ว จึงถือเป็นเอกสารทางการเมืองพื้นฐานที่มีผลผูกพันเพราะได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย

1 11 12 13 14 15 36
...