ไทยออกถ้อยแถลงเรียกร้องรัสเซีย-ยูเครน ยุติความรุนแรง

กระทรวงการต่างประเทศ 3 มี.ค. – ไทยออกถ้อยแถลงผ่านเวทียูเอ็น เรียกร้องรัสเซีย-ยูเครน ยุติสถานการณ์อย่างสันติ หยุดการใช้ความรุนแรง


นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้มีถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสหประชาชาติสมัยสามัญ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และการประชุมสหประชาชาติสมัยพิเศษ ผ่านนายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ต่อสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน ว่า ไทยมีความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครน และผลกระทบด้านมนุษยธรรม รวมทั้งเรียกร้องให้มีการแก้ไขสถานการณ์อย่างสันติวิธี ซึ่งไทยสนับสนุนความพยายามในการหาทางยุติสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสันติ ผ่านการเจรจา ที่เป็นไปตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ และกฎหมายระหว่างประเทศ โดยธำรงไว้ซึ่งหลักการว่าด้วยอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน และสนับสนุนการเรียกร้องของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ในการหาทางยุติเรื่องนี้อย่างสันติวิธี รวมถึงความพยายามของสหประชาชาติและกลไกในระดับภูมิภาค

ทั้งนี้ ไทยชื่นชมเพื่อนบ้านของยูเครน และชาติอื่นๆ สำหรับการระดมความช่วยเหลือไปสู่ผู้ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ไทยจะทำอย่างสุดความสามารถในการที่จะช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของพลเรือนที่ได้รับผลกระทบ โดยจะส่งความช่วยเหลือโดยตรง และผ่านความร่วมมือกับชาติต่างๆ ที่เห็นตรงกัน ไทยสนับสนุนการหยุดยั้งการใช้กำลัง หรือการข่มขู่ว่าจะใช้กำลังต่อรัฐอื่น ดังนั้น จึงเรียกร้องขอให้ยุติความรุนแรงและการใช้อาวุธทันที ยิ่งสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น จะยิ่งส่งผลกระทบต่อโลกในวงกว้าง ซ้ำเติมสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม และผลกระทบต่อความเป็นอยู่และเศรษฐกิจของคนทั่วโลก ซ้ำเติมการฟื้นตัวจากโควิด-19 ที่ยิ่งเปราะบางอยู่แล้ว ไทยจึงขอเรียกร้องให้มีการเจรจาพูดคุยเพื่อหาข้อยุติที่ยั่งยืน ผ่านองค์การสหประชาชาติ กลไกภูมิภาค หรือกลไกอื่นๆ ที่เป็นที่ยอมรับ


ทั้งนี้ สมาชิกสมัชชาสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นจีเอ ลงมติรับข้อมติในการประชุมวาระพิเศษเร่งด่วน ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 141 เสียง รวมถึงไทย และไม่เห็นด้วย 5 เสียง ได้แก่ เบลารุส เกาหลีเหนือ ซีเรีย เอริเทรีย และรัสเซีย งดออกเสียง 35 เสียง จากทั้งหมด 193 ประเทศ เพื่อยืนยันถึงอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนภายในพรมแดนยูเครน เรียกร้องให้รัสเซียหยุดใช้กำลัง และถอนกองกำลังออกจากยูเครนโดยทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา