สหรัฐขอให้จีนช่วยคุยรัสเซียแก้ปัญหายูเครน

วอชิงตัน 28 ม.ค. – สหรัฐเรียกร้องให้จีนใช้อิทธิพลที่มีต่อรัสเซียเพื่อกระตุ้นให้เกิดการแก้ปัญหาด้วยวีถีการทูตต่อสถานการณ์วิกฤตในยูเครน นางวิกตอเรีย นูแลนด์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐขอเรียกร้องให้จีนใช้อิทธิพลที่มีต่อรัสเซียเพื่อกระตุ้นให้เกิดการแก้ปัญหาด้วยการทูตต่อสถานการณ์วิกฤตในยูเครน เพราะถ้าเกิดความขัดแย้งขึ้นในยูเครน ก็จะไม่เป็นผลดีต่อจีนเช่นกัน รวมถึงผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกและอุตสาหกรรมด้านพลังงาน ก่อนหน้านี้ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจีน ได้ต่อสายคุยกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเมื่อวันพุธ โดยระบุว่า จีนต้องการให้ทุกฝ่ายใจเย็น รวมถึงงดการกระทำที่เพิ่มความตึงเครียดและปลุกเร้าวิกฤต ขณะที่นายบลิงเคนได้เน้นย้ำว่า ทุกฝ่ายควรช่วยกันลดความตึงเครียดในยูเครน และเตือนว่าอาจเกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงหากรัสเซียบุกยูเครน ขณะนี้ รัสเซียได้วางกองกำลังทหารตามแนวพรมแดนยูเครนมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และได้เรียกร้องให้องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ถอนกำลังทหารและอาวุธออกจากภูมิภาคยุโรปตะวันออก รวมถึงการสั่งห้ามยูเครน ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารที่นำโดยสหรัฐอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ดี นาโตได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวของรัสเซีย แต่ระบุว่าพร้อมหารือเกี่ยวกับมาตรการควบคุมอาวุธและการสร้างความเชื่อมั่น.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐพร้อมส่งทหารเข้าร่วมกองกำลังนาโต้

โฆษกกลาโหมสหรัฐ เผยทหารสหรัฐราว 8,500 นาย เตรียมพร้อมเข้าร่วมกับองค์การนาโต้ เพื่อปฏิบัติการโพ้นทะเลได้ในทันที จากความตึงเครียดระหว่าง ยูเครนกับรัสเซีย

จีนบอกสหรัฐอยากให้ทุกฝ่ายใจเย็นเรื่องยูเครน

ปักกิ่ง 27 ม.ค.- จีนแจ้งกับสหรัฐว่า อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ยูเครนใช้ความใจเย็นและหลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเครียด กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงวันนี้ว่า นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้กล่าวกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อเย็นวันพุธว่า จีนขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นต่อไปและงดการกระทำใด ๆ ที่จะเพิ่มความตึงเครียดและปลุกเร้าวิกฤต จีนเห็นว่า ความมั่นคงของประเทศหนึ่งไม่ควรกระทบความมั่นคงของประเทศอื่น และไม่ควรรับประกันความมั่นคงของภูมิภาคด้วยการเสริมสร้างหรือแม้แต่ขยายกลุ่มทางการทหาร นายหวังกล่าวด้วยว่า การแก้ไขประเด็นยูเครนจะต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้นคือ ข้อตกลงมินสก์ฉบับใหม่ เพราะเป็นข้อตกลงที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เป็นเอกสารพื้นฐานทางการเมืองที่ได้รับการรับรองจากทุกฝ่าย และควรได้รับการปฏิบัติอย่างเห็นผล จีนจะสนับสนุนความพยายามใดก็ตามที่เป็นไปตามทิศทางและเจตนาของข้อตกลงนี้ ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า เนื้อหาหลักในการสนทนาคือเรื่องเสถียรภาพโลกและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการที่รัสเซียจะเดินหน้ารุกรานยูเครน นายบลิงเคนกล่าวกับรัฐมนตรีต่างประเทศจีนว่า การลดความตึงเครียดและการใช้วิถีทางการทูตคือหนทางมุ่งไปข้างหน้าอย่างมีความรับผิดชอบ สหรัฐเตือนรัสเซียอย่ารุกรานยูเครน และเรียกร้องให้ทั้งรัสเซียและยูเครนกลับไปยึดมั่นตามข้อตกลงมินสก์ฉบับที่ 1 และฉบับที่ 2 ที่ลงนามในปี 2557 และ 2558 ตามลำดับ เพื่อยุติสงครามแยกดินแดนของกลุ่มชาวยูเครนพูดภาษารัสเซียที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครน อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการปฏิบัติตามข้อตกลงมินสก์ฉบับที่ 2 เนื่องจากรัสเซียยืนกรานว่า ไม่ได้เป็นคู่ความขัดแย้งในยูเครน จึงไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม.-สำนักข่าวไทย

ทูตยูเครนหวังญี่ปุ่นร่วมคลี่คลายความตึงเครียดทางทหาร

โตเกียว 26 ม.ค.- เอกอัครราชทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นคาดหวังว่า ญี่ปุ่นจะแสดงบทบาทร่วมกับนานาชาติมากขึ้นเรื่องการหาทางคลี่คลายความตึงเครียดทางทหารระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และไม่คิดว่าความตึงเครียดนี้จะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ นายเซอร์กี คอร์ซันสกี เอกอัครราชทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นกล่าวที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งญี่ปุ่นในกรุงโตเกียววันนี้ว่า เขาคาดหวังว่าญี่ปุ่นจะร่วมกับสมาชิกชาติอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำหรือจี 7 (G7) หาทางแก้ไขความตึงเครียดดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางทหารและสนับสนุนการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยในยูเครนอย่างสันติ เขาเชื่อว่า ญี่ปุ่นสามารถมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นสมาชิกจี 7 ชาติเดียวที่อยู่ในเอเชีย และเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่คว่ำบาตรรัสเซีย หลังจากรัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเป็นของตนในปี 2557 นอกจากนี้ยังเป็นที่น่ายินดีที่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นและประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้หยิบยกสถานการณ์ยูเครนขึ้นหารือระหว่างการประชุมสุดยอดแบบเสมือนจริงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นกล่าวด้วยว่า ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ว่ายูเครนและรัสเซียจะทำสงครามกันเต็มรูปแบบ แต่อาจมีความขัดแย้งระดับท้องถิ่นหลายครั้ง ขอย้ำว่ายูเครนไม่คุกคามใคร และไม่เคยคิดโจมตีรัสเซีย ยูเครนยึดมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อการหาทางออกทางการทูต แต่ขณะเดียวกันชาวยูเครนก็มีความเด็ดเดี่ยวที่จะต่อสู้กับรัสเซียหากจำเป็น.-สำนักข่าวไทย

ธุรกิจเตือนสหรัฐเรื่องจะคว่ำบาตรรัสเซีย

วอชิงตัน 26 ม.ค.- บริษัทขนาดใหญ่และกลุ่มธุรกิจเตือนรัฐบาลและสมาชิกสภาสหรัฐให้มีความรอบคอบ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรก่อผลเสียหายร้ายแรงต่อรัสเซีย หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียรุกรานยูเครน นายเจค โคลวิน ประธานสภาการค้าต่างประเทศแห่งชาติของสหรัฐซึ่งเป็นตัวแทนบรรษัทใหญ่ของสหรัฐที่ทำธุรกิจในรัสเซียกล่าวว่า รัฐบาลและรัฐสภาจะต้องมีรายละเอียดข้อมูลที่ถูกต้อง ในกรณีที่ต้องทำตามคำขู่เรื่องคว่ำบาตรรัสเซีย รายละเอียดดังกล่าวครอบคลุมเรื่องการพิจารณาถึงหลักการข้อยกเว้นความรับผิดและช่วงเวลาทยอยปิดตัว เพื่อให้ธุรกิจสามารถทำตามสัญญาและระเบียบที่มีอยู่ และการยกเว้นการคว่ำบาตรต่อเวชภัณฑ์ช่วยชีวิตและสิ่งจำเป็นด้านมนุษยธรรมอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับนโยบายที่มีมายาวนานของสหรัฐ ที่ปรึกษาสมาชิกรัฐสภาสหรัฐคนหนึ่งเผยว่า บริษัทพลังงานหลายแห่งได้เข้าพบสมาชิกรัฐสภาโดยตรง เรียกร้องให้มีช่วงเวลาทยอยปิดตัว เพื่อไม่ให้ทรัพย์สินของบริษัทต้องถูกริบ ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงทางธุรกิจในรัสเซีย นายวิลเลียม ไรนช์ อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอธิบายว่า ปกติแล้วการคว่ำบาตรการส่งออกจะทยอยทำเป็นขั้นตอนเพื่อให้ธุรกิจมีเวลาปิดตัว หรือแน่ใจว่าสินค้าส่งออกไปถึงที่หมายแล้ว แต่ในกรณีนี้สหรัฐอาจทำแบบกะทันหันเพราะกำลังอยู่ท่ามกลางวิกฤต ส่วนหลักการข้อยกเว้นความรับผิดที่จะคุ้มครองธุรกิจไม่ให้ต้องรับผิดทางกฎหมายหากละเมิดมาตรการคว่ำบาตรนั้น จะเป็นไปได้ต่อเมื่อเข้าเกณฑ์บางอย่าง  เช่น ยืนยันว่าสินค้าถูกขนส่งไปยังประเทศที่ถูกคว่ำบาตรโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอาจส่งจากประเทศที่สาม ข้อมูลของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐระบุว่า สหรัฐมีการค้าสินค้าและบริการกับรัสเซียมูลค่าราว 34,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.15 ล้านล้านบาท) ในปี 2562.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” ว่าสหรัฐอาจคว่ำบาตร “ปูติน” หากรัสเซียบุกยูเครน

วอชิงตัน 26 ม.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ระบุว่า เขาจะพิจารณาใช้มาตรการคว่ำบาตรรายบุคคลต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย หากรัสเซียบุกยูเครน ประธานาธิบดีไบเดนตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า เขาจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรายบุคคลต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ หากรัสเซียบุกรุกยูเครน การบุกข้ามพรมแดนยูเครนจะทำให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวง และอาจเป็นการบุกรุกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เน้นย้ำว่าสหรัฐไม่มีแผนส่งกองทหารไปยังยูเครนด้วยตัวเอง ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของประธานาธิบดีไบเดนมีขึ้นในขณะที่ผู้นำชาติตะวันตกได้ย้ำเตือนว่ารัสเซียจะต้องชดใช้อย่างหนักหากบุกยูเครน ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้กล่าวหาสหรัฐและกลุ่มชาติตะวันตกว่าทำให้สถานการณ์ตึงเครียดทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเกี่ยวกับประเด็นระหว่างรัสเซียกับยูเครน และปฏิเสธว่ารัสเซียไม่ได้วางแผนบุกรุกยูเครน อย่างไรก็ดี รัฐบาลรัสเซียกลับส่งกองทหารกว่า 100,000 นายไปประจำการที่พรมแดนที่ติดกับยูเครนในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

ไอร์แลนด์ไม่ยินดีที่รัสเซียจะซ้อมรบใกล้ฝั่งไอร์แลนด์

บรัสเซลส์ 24 ม.ค.- รัฐมนตรีต่างประเทศไอร์แลนด์เผยว่า ไอร์แลนด์ไม่ยินดีที่รัสเซียจะซ้อมรบใกล้ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของไอร์แลนด์ ในช่วงที่สถานการณ์การเมืองโลกอยู่ในภาวะตึงเครียดจากเรื่องที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่ามีแผนรุกรานยูเครน นายไซมอน โคฟนีย์ รัฐมนตรีต่างประเทศไอร์แลนด์เผยกับสื่อขณะเดินทางมาร่วมการประชุมเรื่องสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนกับรัฐมนตรีต่างประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียูที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมว่า รัสเซียเตรียมซ้อมรบในน่านน้ำสากลห่างจากชายฝั่งไอร์แลนด์ 240 กิโลเมตร แต่ยังอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเลของไอร์แลนด์ รัสเซียมีสิทธิจัดการซ้อมรบในน่านน้ำสากล และไอร์แลนด์ไม่มีอำนาจไปยับยั้ง แต่ได้แจ้งให้เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำไอร์แลนด์ทราบชัดเจนแล้วว่า เป็นเรื่องที่ไอร์แลนด์ไม่ยินดี เพราะไม่ใช่เวลาที่จะเพิ่มกิจกรรมทางทหารและความตึงเครียดในขณะที่กำลังมีสถานการณ์ในยูเครน อีกทั้งยังเป็นการซ้อมรบใกล้พรมแดนอียู และนอกชายฝั่งไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไอร์แลนด์ไม่ยินดีและไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ด้านนายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียูกล่าวว่า สมาชิกอียูกำลังแสดงความเป็นเอกภาพอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในเรื่องสถานการณ์ในยูเครน และมีการประสานงานอย่างเข้มแข็งกับสหรัฐ ต่อข้อถามเรื่องอียูจะสั่งให้ครอบครัวเจ้าหน้าที่สถานทูตในยูเครนกลับประเทศตามอย่างสหรัฐหรือไม่ นายบอร์เรลล์ตอบว่า อียูยังไม่อยากทำเช่นนั้น และอยากฟังเหตุผลจากนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่จะร่วมประชุมแบบออนไลน์ในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” หารือทางเลือกเพิ่มกำลังทหารรับมือรัสเซีย

วอชิงตัน 24 ม.ค.- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้หารือกับนายทหารระดับสูงเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เรื่องทางเลือกในการเพิ่มกำลังทหารอเมริกันในทะเลบอลติกและยุโรปตะวันออกเพื่อรับมือกับรัสเซีย เจ้าหน้าที่เผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้พูดคุยออนไลน์ที่แคมป์เดวิดกับ พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมและ พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วม เรื่องจำนวนกำลังพล ข่าวกรองล่าสุดและการหารือกับพันธมิตรเรื่องแผนการรับมือในกรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครน หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์คาดว่า ประธานาธิบดีจะตัดสินใจอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ ทางเลือกหนึ่งที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคือ การโยกย้ายกำลังพลอเมริกัน 1,000-5,000 นายไปเสริมกำลังพลพันธมิตรริมทะเลบอลติกและยุโรปตะวันออก รวมทั้งทำหน้าที่อพยพชาวอเมริกันหากจำเป็น ด้านทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้รับรายงานสรุปเรื่องสถานะปัจจุบันของปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียบริเวณชายแดนยูเครน และได้หารือเรื่องความพยายามคลี่คลายความตึงเครียดด้วยวิถีทางทางการทูต มาตรการป้องกันที่กำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรและหุ้นส่วน รวมถึงการจัดส่งความช่วยเหลือด้านความมั่นคงให้แก่ยูเครน ประธานาธิบดีย้ำว่า หากรัสเซียรุกรานยูเครน สหรัฐ พันธมิตรและหุ้นส่วนจะทำให้รัสเซียได้รับผลร้ายแรงอย่างทันที.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐสั่งให้ครอบครัว จนท. สถานทูตเดินทางออกจากยูเครน

วอชิงตัน 24 ม.ค. – สหรัฐสั่งให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนเดินทางออกจากยูเครน และแจ้งเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางไปยูเครนกับรัสเซีย ในขณะที่ยูเครนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น หลังมีรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้ปฏิบัติการทหารต่อยูเครน กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ทางการได้สั่งให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนเดินทางออกนอกประเทศ อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีภารกิจจำเป็นของสถานทูตสหรัฐประจำยูเครนทำเรื่องเดินทางกลับสหรัฐได้ และประกาศแจ้งเตือนให้พลเมืองสหรัฐที่อาศัยอยู่ในยูเครนพิจารณาการเดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากได้รับรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้กำลังทหารต่อยูเครน อย่างไรก็ดี รัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง และรัสเซียไม่ได้วางแผนบุกยูเครน แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้แจ้งเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางไปยูเครนกับรัสเซีย เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและอาจทำให้เกิดภัยคุกคามต่อพลเมืองสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเผยว่า สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนยังคงเปิดทำการตามปกติ แต่ได้เน้นย้ำถึงประกาศเตือนจากทำเนียบขาวสหรัฐว่า การบุกรุกของรัสเซียอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และรัฐบาลสหรัฐไม่สามารถที่จะอพยพพลเมืองออกจากยูเครนได้ในสถานการณ์เช่นนี้. -สำนักข่าวไทย

อังกฤษเผยรัสเซียวางแผนโค่นรัฐบาลยูเครน

รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ระบุรัฐบาลรัสเซียกำลังทำทุกวิถีทางที่จะโค่นล้มรัฐบาลยูเครน เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่ที่เป็นมิตรกับรัสเซีย

อังกฤษกล่าวหารัสเซียหาทางตั้งผู้นำในยูเครน

ลอนดอน 23 ม.ค.- อังกฤษกล่าวหารัสเซียว่า กำลังหาทางตั้งผู้นำในยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซีย และให้หน่วยข่าวกรองติดต่อกับอดีตนักการเมืองยูเครนหลายคนหวังรุกรานยูเครน กระทรวงต่างประเทศอังกฤษแถลงเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า มีหลักฐานว่ารัฐบาลรัสเซียกำลังคิดวางตัวนายเยฟเฮน มูราเยฟ นักการเมืองและเจ้าของสื่อยูเครนวัย 45 ปี เป็นผู้นำยูเครนที่สนับสนุนรัสเซีย นายมูราเยฟเคยอ้างว่าประชาคมโลกให้การรับรองเรื่องที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเมื่อปี 2557 เขามีคะแนนนิยมเป็นอันดับ 7 ในบรรดาผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครนปี 2567 นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า อังกฤษจะไม่ยอมทนต่อแผนการของรัสเซียที่จะตั้งผู้นำยูเครนฝักใฝ่รัสเซีย รัฐบาลรัสเซียรู้ดีว่า การใช้กำลังทหารรุกรานยูเครนจะเป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ เพราะสหราชอาณาจักรและหุ้นส่วนจะทำให้รัสเซียต้องรับผลอย่างร้ายแรง กระทรวงต่างประเทศอังกฤษไม่ยอมเปิดเผยหลักฐานตามที่กล่าวอ้าง ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า ปกติแล้วจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลข่าวกรอง และจะมีการเปิดเผยในรายละเอียดต่อเมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า จะเป็นไปเพื่อสกัดการรุกรานของรัสเซีย ด้านกระทรวงต่างประเทศรัสเซียโพสต์เฟซบุ๊กปฏิเสธถ้อยแถลงของอังกฤษว่า เป็นข้อมูลบิดเบือน ขอให้กระทรวงต่างประเทศอังกฤษยุติการกระทำยั่วยุ ยุติการเผยแพร่สิ่งไร้สาระ และตั้งใจศึกษาประวัติศาสตร์สมัยมองโกลรุกรานรัสเซียดีกว่า พร้อมกับกล่าวหาอังกฤษและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนตกเหนือหรือนาโตว่า ทำให้สถานการณ์ในยูเครนตึงเครียดมากยิ่งขึ้น อังกฤษอ้างเรื่องนี้หนึ่งวันหลังจากนักการทูตสหรัฐและรัสเซียไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาแก้ไขวิกฤตยูเครน ทั้งสองฝ่ายตกลงจะเดินหน้าเจรจาต่อไป ชาติตะวันตกกังวลเรื่องที่รัสเซียระดมกำลังพลใกล้ชายแดนยูเครนตั้งแต่ปลายปีก่อน รัสเซียยืนยันว่า เป็นการเพียงการป้องกันประเทศ ไม่ใช่การรุกราน และเรียกร้องให้นาโตยุติการแผ่อิทธิพลไปทางตะวันออก รวมทั้งรับปากว่าจะไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” ชี้ “ปูติน” จะสั่งเคลื่อนทหารบุกยูเครน

วอชิงตัน 20 ม.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ คาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะสั่งเคลื่อนกำลังทหารบุกยูเครน แต่คงไม่ใช่การทำสงครามอย่างเต็มรูปแบบ ประธานาธิบดีไบเดนตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเกี่ยวกับประเด็นภัยคุกคามจากการรุกรานของรัสเซียว่า เขาคิดว่าประธานาธิบดีปูตินจะสั่งเคลื่อนกำลังทหารบุกยูเครน และต้องทำอะไรบางอย่างเป็นแน่ พร้อมทั้งกล่าวเตือนผู้นำรัสเซียว่าจะต้องชดใช้อย่างหนักจากการลองดีกับชาติตะวันตก อย่างไรก็ดี รัฐบาลรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธเกี่ยวกับแผนการจู่โจมหรือบุกรุกว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าได้วางกำลังทหารราว 100,000 นายไว้ที่ชายแดนของยูเครน ทำเนียบขาวสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงจุดยืนของสหรัฐในเวลาต่อมา หลังมีผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่งถามประธานาธิบดีไบเดนว่า สหรัฐจะยอมให้เกิดการบุกรุกขนาดเล็กในยูเครนหรือไม่ นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ดังกล่าวที่ได้รับการเผยแพร่เมื่อช่วงค่ำวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า หากกองกำลังทหารรัสเซียเคลื่อนพลข้ามพรมแดนของยูเครน ก็ถือเป็นการบุกรุก และจะต้องเผชิญกับการตอบโต้อย่างรวดเร็ว รุนแรง และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจากสหรัฐและชาติพันธมิตร ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ออกมาเรียกร้องต่อรัฐบาลชาติตะวันตกไม่ให้ยูเครนเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต และว่ากิจกรรมทางทหารเพื่อป้องกันประเทศของกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวควรถูกจำกัดอยู่ในกลุ่มประเทศสมาชิกเท่านั้น ขณะที่การเจรจาระหว่างชาติตะวันตกกับรัสเซียประสบความล้มเหลวในการหาทางออกร่วมกันเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยที่ข้อเรียกร้องบางส่วนของรัสเซียถูกปัดตกไป.-สำนักข่าวไทย

1 137 138 139 140 141 151
...