กรมชลฯ สั่งเตรียมรับฝนตกหนักใต้ตอนล่าง
อธิบดีกรมชลประทานสั่งโครงการชลประทานภาคใต้พร้อมรับมือสถานการณ์น้ำเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฝนตกหนักจนถึง 26 ก.พ. นี้
อธิบดีกรมชลประทานสั่งโครงการชลประทานภาคใต้พร้อมรับมือสถานการณ์น้ำเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฝนตกหนักจนถึง 26 ก.พ. นี้
สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำเตือนอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันในภาคใต้เนื่องจากฝนตกหนักถึงหนักมาก กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศว่า บริเวณความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาอีกระลอกซึ่งจะมีผลให้ฝนตกหนักในภาคใต้และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
“ลุงป้อม” ลุยเมืองเพชร ติดตามความก้าวหน้าสร้างคลองระบายน้ำ ชื่นชมแก้ปัญหาน้ำท่วมสำเร็จ
รีโอเดจาเนโร 16 ก.พ.- นักดับเพลิงในบราซิลแจ้งว่า ดินถล่มและน้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกหนักทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 18 คนในเมืองท่องเที่ยวบริเวณเนินเขาของรัฐรีโอเดจาเนโร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ นักดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมากกว่า 180 คนไปยังจุดเกิดเหตุในเมืองเปโตรโปลิส ที่อยู่ห่างจากนครรีโอเดจาเนโรไปทางเหนือ 68 กิโลเมตร เทศบาลเมืองประกาศสถานะภัยพิบัติแล้ว ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพสภาพบ้านเรือนเสียหาย ยวดยานถูกซัดไหลไปตามกระแสน้ำ ร้านค้าจำนวนมากจมน้ำท่วมที่มีระดับสูงขึ้นและไหลตามไปถนนย่านใจกลางเมืองที่เป็นเมืองประวัติศาสตร์ เพราะเป็นสถานที่ฝังพระศพจักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของบราซิล สำนักอุตุนิยมวิทยาบราซิลแจ้งว่า บางพื้นที่ของเมืองเปโตรโปลิสมีฝนตกมากถึง 260 มิลลิเมตรในเวลาไม่ถึง 6 ชั่วโมง มากกว่าปริมาณน้ำฝนที่คาดการณ์สำหรับเดือนนี้ทั้งเดือน แม้ฝนตกหนักที่สุดได้ผ่านพ้นแล้ว แต่คาดว่าจะมีฝนตกปานกลางต่อเนื่องไปอีกหลายชั่วโมง ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารูของบราซิลทวีตขณะกำลังเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการว่า รู้สึกสะเทือนใจกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นไม่แพ้กัน และได้ขอให้คณะรัฐมนตรีให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด บราซิลเพิ่งเกิดน้ำท่วมและดินถล่มเพราะฝนตกหนักทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อต้นเดือนนี้ ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 28 คน ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐเซาเปาลูและพื้นที่ทางเหนือของนครรีโอเดจาเนโร ส่วนเมื่อเดือนมกราคม 2554 มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 900 คน ในพื้นที่ทางเหนือของนครรีโอเดจาเนโร หลังจากฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย
บราซิเลีย 31 ม.ค.- เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาธารณะของบราซิลแจ้งว่า เกิดน้ำท่วมและดินถล่มเพราะฝนตกหนักในรัฐเซาเปาลู ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 19 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 7 คน รัฐเซาเปาลูซึ่งมีประชากร 46 ล้านคน มากที่สุดของบราซิลเผยว่า สภาพอากาศเลวร้ายตั้งแต่วันศุกร์ ทำให้เกิดน้ำท่วม ต้นไม้ล้ม กำแพงพังและดินถล่มทั่วรัฐ นอกจากมีผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีผู้บาดเจ็บ 9 คน สูญหาย 4 คน และมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยราว 500 ครัวเรือน ผู้ว่าการรัฐได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้วในวันอาทิตย์ และได้อนุมัติความช่วยเหลือฉุกเฉิน 15 ล้านเรอัล (ราว 93.5 ล้านบาท) ให้แก่ 10 เมืองและ 645 เทศบาลที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ส่วนเมืองเอกของรัฐอย่างเมืองเซาเปาลูที่มีประชากร 12 ล้านคนมีฝนตกหนัก แต่ไม่เกิดเหตุร้ายแรง ด้านรัฐบาลกลางแถลงว่า กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด บราซิลประสบภัยพิบัติใหญ่เพราะสภาพอากาศหลายครั้งตั้งแต่เข้าสู่ฤดูฝนในเดือนตุลาคมปีก่อน ฝนที่ตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในรัฐบาเยีย ทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้เสียชีวิต 24 คน และรัฐมีนัชเชไรส์ […]
ฝนที่ตกอย่างหนักในมาดากัสการ์ ส่งผลให้น้ำท่วมหลายจุดในเมืองหลวง กรุงอันตานานาริโว มีผู้เสียชีวิต 10 คน และกว่า 1.2 หมื่นคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักเป็นบริเวณกว้างในกรุงวอชิงตันของสหรัฐ รถยนต์หลายคันถูกน้ำท่วมมิด ถนนหลายสายและบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมสูง
“พล.อ.ประวิตร” มอบ “พล.ร.อ.พิเชฐ” ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ช่วยเหลือชาวบ้านจากภาวะน้ำท่วมหนัก เนื่องจากพนังกั้นน้ำแม่น้ำโก-ลกพัง ยืนยันรัฐบาลพร้อมช่วยเหลือเต็มที่
กัวลาลัมเปอร์ 2 ม.ค.- สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของมาเลเซียแจ้งว่า ยังคงมี 7 รัฐที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และมีผู้เดือดร้อนจากฝนที่ตกหนักในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วมากกว่า 125,000 คน สำนักงานระบุว่า รัฐที่ยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้แก่ กลันตัน ตรังกานู ปะหัง ยะโฮร์ มะละกา เนกรีเซมบีลัน และซาบาห์ ประชาชน 8,727 คนยังคงอาศัยตามศูนย์พักพิง 128 แห่ง น้ำท่วมที่เกิดขึ้นทั่วประเทศทำให้มีผู้ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด 125,490 คน ในจำนวนนี้ 117,700 คนกลับไปบ้านแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิต 50 คน ปกติแล้วพื้นที่ฝั่งตะวันออกของมาเลเซียมักเผชิญอุทกภัยช่วงฤดูมรสุมประจำปีระหว่างเดือนตุลาคมถึงมีนาคม แต่ฝนที่ตกหนักผิดปกติมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคมทำให้คนเดือดร้อนในวงกว้างและบริการเหตุฉุกเฉินตึงตัว ด้านศูนย์ควบคุมภัยพิบัติแห่งชาติมาเลเซียประกาศให้เตรียมพร้อมปฏิบัติการรับมือภัยพิบัติ หลังจากสำนักอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า จะยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ขณะที่สำนักงานชลประทานและการระบายน้ำเตือนว่า จะมีคลื่นสูงระหว่างวันที่ 2-5 มกราคม ขอให้ประชาชนฝั่งตะวันตกเฝ้าระวังให้ดี.-สำนักข่าวไทย
น้ำป่าหลากจากแนวเทือกเขาหลวง อ.สิชล จ.นครศรีฯ ไหลท่วมบ้านเรือน-พื้นที่การเกษตร สูง 1 เมตร และบางจุดสูงกว่า 2 เมตร เร่งอพยพผู้ป่วยติดเตียง-ผู้สูงอายุ
กัวลาลัมเปอร์ 29 ธ.ค. – สำนักงานระบายน้ำและชลประทานของมาเลเซีย ประกาศแจ้งเตือนวันนี้ว่า 4 รัฐของมาเลเซีย ได้แก่ รัฐกลันตัน รัฐตรังกานู รัฐปะหัง และรัฐยะโฮร์ จะประสบภัยน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคมเป็นต้นไป สำนักงานระบายน้ำและชลประทานของมาเลเซียคาดการณ์ว่า รัฐกลันตันจะเผชิญกับภัยน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำกลันตันตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ขณะที่รัฐตรังกานูจะประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเบอซุตในวันและเวลาเดียวกัน ส่วนรัฐปะหังจะเผชิญกับน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำปะหังตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันที่ 1 มกราคมปีหน้า และรัฐยะโฮร์จะประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเมอร์ซิงในวันและเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ สำนักงานฯ ยังแนะนำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำเพิ่มความระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการมาเลเซีย ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสำนักอุตุนิยมวิทยาของมาเลเซียได้ประกาศแจ้งเตือนฝนตกต่อเนื่องเมื่อวันอังคาร.-สำนักข่าวไทย
กัวลาลัมเปอร์ 27 ธ.ค.- สำนักงานระบายน้ำและชลประทานของมาเลเซียเตือนว่า หลายพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกของรัฐกลันตันและรัฐตรังกานู อาจเกิดน้ำท่วมระหว่างวันที่ 30-31 ธันวาคม คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยามาเลเซียเตือนว่า อาจเกิดน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคมจนถึงสิ้นปี สำนักงานระบายน้ำและชลประทานเตือนว่า ทั้งสองรัฐเสี่ยงเกิดน้ำท่วมระหว่างเวลา 20:00 น.วันที่ 30 ธันวาคม ไปจนถึงเวลา 08:00 น.วันที่ 31 ธันวาคม เนื่องจากคาดว่าระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายจะสูงกว่าระดับที่เป็นอันตราย อุทกภัยที่เกิดขึ้นในมาเลเซียขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 47 คนจนถึงวันอาทิตย์ และยังสูญหายอยู่ 5 คน มีผู้ขอพำนักตามศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั้งหมด 35,076 คนจาก 10,348 ครอบครัว ลดลงจาก 54,532 คนเมื่อวันเสาร์ ข้อมูลในแอปพลิเคชันของกระทรวงสวัสดิการชี้ว่า รัฐปะหัง ทางตอนกลางของมาเลเซียเป็นพื้นที่ประสบภัยหนักที่สุด มีผู้อพยพหนีภัยน้ำท่วม 17,761 คน รองลงมาคือรัฐสลังงอร์ ทางตะวันตก มีผู้อพยพหนีภัยน้ำท่วม 16,512 คน นายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบประกาศยกเว้นค่าไฟฟ้าเดือนธันวาคมให้แก่ผู้ประสบภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และจะตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจดำเนินกิจกรรมหลังน้ำท่วมและเตรียมการรับมือน้ำท่วมระลอกใหม่ เพื่อปรับปรุงการประสานงานการทำงานให้ดียิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย