กรุงเทพฯ 25 ก.พ. – อธิบดีกรมชลประทานสั่งโครงการชลประทานภาคใต้พร้อมรับมือสถานการณ์น้ำเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฝนตกหนักจนถึง 26 ก.พ. นี้
นายประพิศ จันทร์มาอธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า สั่งการให้โครงการชลประทานทุกแห่งในภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศว่า จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก นอกจากนี้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศให้เฝ้าระวังน้ำหลาก น้ำท่วม และดินถล่มบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสจนถึง 27 กุมภาพันธ์
ทั้งนี้ย้ำให้โครงการชลประทานติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ พร้อมปรับแผนบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ ตลอดจนตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถใช้งานได้อ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมรับน้ำหลากและป้องกันน้ำท่วมได้อย่างเต็มศักยภาพ
นอกจากนี้กำชับให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้อย่างทันท่วงที พร้อมกับประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ หากคาดว่า พื้นที่ใดจะได้รับผลกระทบ ให้แจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างต่อเนื่องด้วย
ล่าสุดมีรายงานจากสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. ถึงพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมเกิน 100 มม. ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาดังนี้
• จังหวัดปัตตานีได้แก่ อำเภอยะรัง 145.0 มม. สายบุรี 125.8 มม. และกะพ้อ 114.6 มม.
• จังหวัดยะลาได้แก่ อำเภอบันนังสตา 175.2 มม. และรามัน 144.8 มม.
• จังหวัดนราธิวาสได้แก่ อำเภอสุคิริน 204.6 มม. แว้ง 192.2 มม. จะแนะ 163.6 มม. ระแงะ 163.4 มม. เจาะไอร้อง 155 มม. ยี่งอ 133.8 มม. ศรีสาคร 131.6 มม. สุไหงปาดี 123.2 มม. เมืองนราธิวาส 121.8 มม. รือเสาะ 120 มม. และสุไหงโก-ลก 103 มม. -สำนักข่าวไทย