เงินเฟ้ออังกฤษทุบสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปีครั้งใหม่

ลอนดอน 20 ก.ค.- ดัชนีราคาผู้บริโภคของอังกฤษทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปีครั้งใหม่ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 จากเดือนมิถุนายนปีก่อน และอาจทำให้ธนาคารกลางอังกฤษขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าปกติในเดือนสิงหาคม เดือนมิถุนายนปีนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคซึ่งเป็นตัวชี้วัดภาวะเงินเฟ้อของอังกฤษเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับจากต้นปี 2525 และลบสถิติเดือนพฤษภาคมที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 นอกจากนี้ ยังเพิ่มขึ้นมากที่สุดในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ที่รายงานตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือนมิถุนายนแล้ว สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษระบุว่า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 42 ต่อปี และราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 10 ต่อปี เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนสูงที่สุดในรอบ 40 ปีครั้งใหม่ ธนาคารกลางอังกฤษขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 หวังควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยขึ้นครั้งหลังสุดร้อยละ 0.25 ในเดือนมิถุนายน เป็นร้อยละ 1.25 คาดว่าธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมนโยบายเดือนสิงหาคม.-สำนักข่าวไทย

เดือน มิ.ย.เงินเฟ้อเกาหลีใต้สูงสุดในรอบ 24 ปี

โซล 5 ก.ค.- อัตราเงินเฟ้อของเกาหลีใต้ในเดือนมิถุนายนปีนี้สูงที่สุดในรอบเกือบ 24 ปี เป็นผลจากราคาพลังงานสูงขึ้น และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคมจะสูงขึ้นมากเช่นเดียวกัน สำนักงานสถิติเกาหลีรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิถุนายนปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากเดือนเดียวกันปีก่อน สูงที่สุดนับจากเดือนพฤศจิกายน 2541 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 และเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินเอเชีย ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพฤษภาคมปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 จากเดือนเดียวกันปีก่อน สำนักงานสถิติระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเกาหลีใต้สูงกว่าร้อยละ 2 ที่เป็นเป้าหมายระยะกลางของธนาคารกลางเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกันแล้ว คาดว่าจะทรงตัวที่ร้อยละ 6 ต่อปีไประยะหนึ่ง และอาจจะแตะร้อยละ 7 ต่อปีในอนาคต ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ในการประชุมนโยบายวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ธนาคารกลางเกาหลีจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนถึงร้อยละ 0.50 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ หลังจากขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมาแล้ว 5 ครั้งตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 โดยขึ้นครั้งละร้อยละ 0.25 ทำให้ดอกเบี้ยขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 1.75 เกาหลีใต้ถูกกดดันเรื่องภาวะเงินเฟ้อ อันเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นเพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ ห่วงโซ่อุปทานโลกสะดุดเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวจากโควิด นอกจากนี้ยังอาจถูกกดดันเพิ่มขึ้นจากเงินวอนที่อ่อนค่าลงอย่างมาก โดยอ่อนค่าไปแล้วมากกว่าร้อยละ […]

จีนคงดอกเบี้ยกู้ยืม สวนทางเศรษฐกิจใหญ่

เซี่ยงไฮ้ 20 มิ.ย.- ธนาคารกลางจีนคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เป็นอัตราอ้างอิงตามที่ตลาดคาด เนื่องจากไม่สามารถลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในยามที่เศรษฐกิจใหญ่อื่น ๆ พากันขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ธนาคารประชาชนจีนคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้าชั้นดี หรือแอลพีอาร์ (LPR) ระยะ 1 ปีไว้ที่ร้อยละ 3.70 และระยะ 5 ปีไว้ที่ร้อยละ 4.45 แอลพีอาร์ระยะ 1 ปีเป็นอัตราอ้างอิงสำหรับสินเชื่อใหม่และสินเชื่อคงค้าง ส่วนแอลพีอาร์ระยะ 5 ปีเป็นอัตราอ้างอิงสำหรับสินเชื่อบ้าน นักวิเคราะห์ชี้ว่า ธนาคารกลางจีนคงลังเลที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพราะจะสวนทางกับนโยบายของธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) และจะดำเนินนโยบายนี้ไปอีกระยะหนึ่งก่อนจะใช้มาตรการอัดฉีดสภาพคล่องและส่งเสริมการกู้ยืมอีกครั้ง แม้ธนาคารกลางจีนไม่วิตกเรื่องเงินหยวนอ่อนค่า เพราะขณะนี้ยังคงแข็งค่าค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่ต้องการให้เกิดการเทขายเงินหยวนจนเกิดภาวะไร้เสถียรภาพ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นหากธนาคารกลางจีนลดอัตราดอกเบี้ยในขณะที่ธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ ขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ หลังจากเฟดขึ้นดอกเบี้ยคราวเดียวร้อยละ 0.75 ไปเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อควบคุมเงินเฟ้อสูง.-สำนักข่าวไทย

ธนาคารกลางยูเครนยังมีทุนสำรองเพียงพอแม้เกิดสงคราม

เคียฟ 3 พ.ค.- ธนาคารกลางยูเครนเผยว่า ยังมีทุนสำรองเพียงพอ แต่ความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศจะช่วยให้มีเสถียรภาพในช่วงที่ประเทศต้องรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรงจากการถูกรัสเซียรุกราน นายคีรีโล เชฟเชนโก ผู้ว่าการธนาคารกลางยูเครนเขียนลงเว็บท่าข่าวแห่งหนึ่งเมื่อวันจันทร์ว่า ต้นเดือนพฤษภาคมธนาคารกลางมีทุนสำรองระหว่างประเทศ 26,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 922,590 ล้านบาท) ลดลงจาก 28,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 967,342 ล้านบาท) เมื่อต้นเดือนเมษายน แต่ยังคงถือว่าเพียงพอ หลังจากหักลบการชำระหนี้ต่างประเทศทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ดี ความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ จะช่วยให้ยูเครนสามารถรักษาทุนสำรองไว้ในระดับที่เหมาะสม หรืออาจเพิ่มทุนสำรองขึ้นได้ จนถึงขณะนี้ยูเครนได้รับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศแล้วมากกว่า 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 148,027 ล้านบาท) ผู้ว่าการธนาคารกลางยูเครนเขียนถึงอัตราเงินเฟ้อของยูเครนเมื่อสิ้นเดือนเมษายนว่า อาจเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15.9 ต่อปี เทียบกับสิ้นเดือนมีนาคมที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.7 ต่อปี และอาจเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 ต่อปีเมื่อถึงสิ้นปีนี้ ต้องยอมรับว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้สินค้าแพงขึ้นในช่วงที่มีสงคราม ธนาคารกลางจะใช้การตรึงอัตราแลกเปลี่ยนเป็นหนึ่งในมาตรการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ปีนี้จะหดตัวอย่างน้อย 1 ใน 3.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติญี่ปุ่นชี้ต้องใช้การเงินผ่อนคลายต่อไป

นิวยอร์ก 23 เม.ย.- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจ (BOJ) ชี้ว่า ญี่ปุ่นจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป หลังจากเกิดกระแสวิตกมากขึ้นว่า นโยบายนี้ทำให้เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ระหว่างไปร่วมการประชุมการเงินสากลหลายแห่งในนครนิวยอร์กของสหรัฐว่า สภาพเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและสหรัฐมีความแตกต่างกันอย่างมาก บีโอเจจำเป็นต้องเดินหน้านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันต่อไป เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเกิดจากวัตถุดิบขึ้นราคาและการขาดความยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายนโยบายระยะยาวให้อัตราเงินเฟ้อทรงตัวที่ร้อยละ 2 นายคุโรดะกล่าวว่า เศรษฐกิจและตลาดแรงงานของญี่ปุ่นยังคงฟื้นตัวช้ามากเมื่อเทียบกับสหรัฐ ญี่ปุ่นขาดแคลนทรัพยากรจึงมีความอ่อนไหวมากกว่าประเทศอื่นเมื่อวัตถุดิบขึ้นราคาและเกิดผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเรื่องรุกรานยูเครน การคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายจึงช่วยให้ญี่ปุ่นสามารถประคองการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และกระตุ้นวงจรเศรษฐกิจเชิงบวกได้ อย่างไรก็ดี เขายืนยันว่า จะไม่ดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากไปกว่าปัจจุบัน เพราะเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ได้เปราะบางมากขนาดนั้น และไม่ได้พูดเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนแต่อย่างใด แนวทางของบีโอเจที่แตกต่างอย่างมากจากธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) ที่ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้งจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อสูง ส่งผลให้เยนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าที่สุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ ด้วยการหลุดแนวต้านที่ 129 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดโตเกียวเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

เยนอ่อนค่าต่อเนื่อง หลุด 129 ต่อดอลลาร์สหรัฐ

โตเกียว 20 เม.ย.- เงินเยนญี่ปุ่นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องในวันนี้ โดยหลุดแนวรับที่ 129 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐแล้ว ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศซื้อพันธบัตรฉุกเฉิน หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลใกล้แตะเพดาน เยนลงไปทดสอบระดับ 129.40 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดโตเกียวเช้าวันนี้ อ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2545 ก่อนดีดตัวขึ้นมาที่ 128.76-128.77 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงเที่ยง เทียบกับ 128.86-128.96 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐที่ตลาดนิวยอร์กและ 128.06-128.08 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17:00 น.วันอังคาร เยนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอีก หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ทะยานขึ้นไปทดสอบระดับร้อยละ 2.94 เมื่อวันอังคาร สูงที่สุดนับจากเดือนธันวาคม 2551 เพราะตลาดคาดหมายมากยิ่งขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) จะขึ้นดอกเบี้ยอย่างมากเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ประกาศวันนี้เรื่องการซื้อพันธบัตรฉุกเฉิน หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปรับขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 0.25 ในการซื้อขายหลังปิดตลาดเมื่อวานนี้ ใกล้แตะเพดานที่ธนาคารกลางคาดหมายไว้ นักยุทธศาสตร์ด้านการปริวรรตเงินตราของบริษัทหลักทรัพย์ไดวาเผยว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มองข้ามไปถึงเยนที่อ่อนค่ากว่า 130 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐแล้ว โดยตั้งเป้าที่ 135.15 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่เยนอ่อนค่าที่สุดเมื่อปี 2545.-สำนักข่าวไทย

เยนหลุด 128 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐแล้ว

โตเกียว 19 เม.ย.-เงินเยนของญี่ปุ่นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐทำสถิติอ่อนค่าที่สุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ในวันนี้ โดยหลุดแนวรับที่ 128 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากตลาดคาดว่าธนาคารกลางของสองประเทศจะมีนโยบายทางการเงินที่ห่างกันออกไปทุกที เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า เมื่อเวลา 15:00 น.วันนี้ตามเวลาญี่ปุ่น ตรงกับเวลา 13:00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย เงินเยนในตลาดโตเกียวเคลื่อนไหวที่ 128.14-128.18 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจาก 126.93-127.03 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในตลาดนิวยอร์ก และ 126.63-126.65 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17:00 น.วันจันทร์ตามเวลาญี่ปุ่น ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าทะลุแนวต้านที่ 127 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ทำสถิติแข็งค่าที่สุดนับจากเดือนพฤษภาคม 2545 เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดนับจากเดือนธันวาคม 2561 นอกจากนี้ยังมีแรงซื้อดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) สาขาเซนต์หลุยส์เรียกร้องเมื่อวันจันทร์ให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยรวมเป็นร้อยละ 3.5 ภายในสิ้นปีนี้เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ สะท้อนว่าเฟดอาจดำเนินนโยบายเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันตลาดกลับมีปฏิกิริยาอย่างจำกัด เมื่อนายชุนอิจิ ซูซึกิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นกล่าวในวันนี้ว่า เงินเยนที่ผันผวนอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา รวมถึงการที่นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เงินเยนอ่อนค่าค่อนข้างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ […]

ผู้ว่าแบงก์ชาติรัสเซียชี้ต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ

นางเอลวิรา นาบิลลินา ผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซีย ระบุว่า เศรษฐกิจรัสเซียไม่สามารถอยู่รอดตลอดไปด้วยทุนสำรองที่มีอยู่ และจะต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อรับมือกับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติ

เกาหลีใต้ห้ามทำธุรกรรมกับแบงก์ชาติรัสเซีย

โซล 7 มี.ค.- เกาหลีใต้คว่ำบาตรทางการเงินกับรัสเซียมากยิ่งขึ้นไปอีกในวันนี้ ด้วยการห้ามการทำธุรกรรมกับธนาคารกลางของรัสเซีย เป็นการร่วมมือกับประชาคมโลกหาทางโดดเดี่ยวรัสเซียที่รุกรานยูเครน กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้แถลงว่า ได้สั่งห้ามการโยกย้ายทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียที่เป็นสกุลเงินวอน และห้ามการทำธุรกรรมกับธนาคารกลางรัสเซีย ตามอย่างสหรัฐและสหภาพยุโรปหรืออียูที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ ด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงคลังเกาหลีใต้เผยว่า กระทรวงจะแถลงรายละเอียดรวมถึงขอบเขตมาตรการคว่ำบาตรในวันนี้ ซึ่งจะสอดคล้องกับมาตรการของสหรัฐ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียที่เป็นสกุลเงินวอนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากธนาคารกลางรัสเซีย เกาหลีใต้ได้ประกาศเมื่อวันที่ 1 มีนาคมเรื่องมาตรการคว่ำบาตรธนาคารรัสเซีย 7 แห่ง และขอให้สถาบันการเงินและประชาชนงดซื้อพันธบัตรของรัฐบาลรัสเซียในตลาดหลักและตลาดรองที่ออกตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม หลังจากประกาศห้ามส่งออกอุปกรณ์ไฟฟ้า เซมิคอนดักเตอร์และคอมพิวเตอร์ไปรัสเซีย รวมทั้งจะร่วมกับชาติตะวันตกตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากสมาคมเพื่อการโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลกหรือสวิฟต์ (SWIFT) ที่เป็นระบบการโอนเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติรัสเซียหาทางลดผลกระทบมาตรการคว่ำบาตร

มอสโก 28 ก.พ.- ธนาคารกลางรัสเซียประกาศมาตรการสนับสนุนตลาดในประเทศ เพื่อหาทางลดผลกระทบจากการที่ถูกชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรจากกรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครน ธนาคารกลางรัสเซียแถลงว่า จะซื้อทองคำในตลาดในประเทศอีกครั้ง จะเปิดประมูลการซื้อคืนหลักทรัพย์โดยไม่จำกัดวงเงิน และจะผ่อนคลายการจำกัดสถานะเปิดของธนาคารในการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศ รวมทั้งจะเพิ่มประเภทของหลักทรัพย์ที่สามารถนำมาค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อ และสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องในตลาดปฏิเสธคำขอขายหลักทรัพย์รัสเซียของลูกค้าต่างชาติ ธนาคารกลางรัสเซียออกมาตรการนี้หลังจากชาติตะวันตกเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเมื่อวันเสาร์ ด้วยการตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากสมาคมเพื่อการโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลกหรือสวิฟต์ (SWIFT) ที่เป็นระบบการโอนเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก และออกมาตรการจำกัดการนำทุนสำรองระหว่างประเทศมาบรรเทาผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตร ชาวรัสเซียเข้าแถวยาวเหยียดรอกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มในวันอาทิตย์ เพราะเกรงว่าจะขาดแคลนเงินสดและกระทบการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ขณะที่เงินรูเบิลของรัสเซียอ่อนค่าลงเกือบร้อยละ 30 ลงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติอินเดียเตือนคริปโตไม่มีค่า

มุมไบ 10 ก.พ.- ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียเตือนผู้ลงทุนในคริปโตเคอเรนซีว่า สกุลเงินดิจิทัลนี้ไม่มีมูลค่าในตัวเลย แม้แต่เทียบกับดอกทิวลิปที่เกิดกระแสการเก็งกำไรในเนเธอร์แลนด์ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 นายศากติกันตา ดาส ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียแถลงข่าวหลังการประชุมนโยบายการเงินว่า คริปโตเคอเรนซีของเอกชนเป็นภัยใหญ่หลวงต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคและเสถียรภาพทางการเงิน นักลงทุนควรจำให้ขึ้นใจว่า กำลังลงทุนโดยต้องแบกรับความเสี่ยงเอง เพราะคริปโตเคอเรนซีไม่มีค่าในตัวเองเลย ไม่มีค่าแม้แต่เทียบกับดอกทิวลิปด้วยซ้ำ นายดาสหมายถึงกระแสเก็งกำไรดอกทิวลิปครั้งใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ที่เรียกกันว่า “ความคลั่งทิวลิป (tulipmania)” จนเกิดภาวะฟองสบู่ขนาดใหญ่ เมื่อราคาซื้อขายที่สูงผิดปกติตกลงฮวบฮาบอย่างฉับพลัน ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียเตือนเรื่องนี้ หลังจากรัฐบาลอินเดียประกาศกรอบการจัดเก็บภาษีคริปโตเคอเรนซี ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลนี้มองว่า รัฐบาลส่งสัญญาณว่าให้การยอมรับคริปโตเคอเรนซีอย่างเป็นทางการแล้ว ทั้งที่ธนาคารกลางยังคงสงวนท่าทีอยู่ และเตรียมจะออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางในปีหน้า ประมาณกันว่า อินเดียมีนักลงทุนคริปโตเคอเรนซีราว 15-20 ล้านคน มูลค่าถือครองรวมกัน 400,000 ล้านรูปีอินเดีย (ราว 174,110 ล้านบาท).-สำนักข่าวไทย

เงินเฟ้ออังกฤษเดือน ต.ค. สูงสุดในรอบ 10 ปี

อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษในเดือนตุลาคมปีนี้เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากรายจ่ายค่าพลังงานในครัวเรือนพุ่งทะยาน เพิ่มความคาดหมายว่าธนาคารกลางอังกฤษจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

1 2 3 4 5 6 9
...