ย่างกุ้ง 24 ต.ค.- ธนาคารกลางเมียนมาให้ความมั่นใจกับประชาชน หลังจากถูกหน่วยงานสากลขึ้นบัญชีดำก่อการร้ายและอาชญากรรมทางการเงิน
ธนาคารกลางเมียนมาแถลงหลังจากคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินหรือเอฟเอทีเอฟ (FATF) ขึ้นบัญชีดำเมียนมาไว้ในกลุ่มประเทศที่ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอย่างจริงจังมากขึ้น เนื่องจากบกพร่องในการดำเนินมาตรการต่อต้านการฟอกเงินและอาชญากรรมทางการเงินอื่น ๆ ว่า เอฟเอทีเอฟไม่ได้กำหนดมาตรการตอบโต้เมียนมา เหมือนที่กำหนดกับอิหร่านและเกาหลีเหนือที่ถูกขึ้นบัญชีดำ ที่ผ่านมาเมียนมาได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเอฟเอทีเอฟเพิ่มขึ้นเป็น 24 ข้อจากทั้งหมด 40 ข้อ และมีแผนปฏิบัติการที่จะแก้ไขตามข้อคิดเห็นของเอฟเอทีเอฟ โดยจะเริ่มดำเนินการในปีหน้า
ธนาคารกลางเมียนมาระบุว่า มาตรการตรวจสอบการโอนเงินที่เข้มงวดมากขึ้นจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคารในเมียนมา ดังนั้นประชาชนจึงไม่ต้องกังวล ขณะเดียวกันจะจัดการการเก็งกำไรค่าเงินและการกระทำต่าง ๆ ที่ไม่เป็นไปตามระเบียบกฎเกณฑ์ของธนาคารกลาง
เอฟเอทีเอฟเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างรัฐบาล จัดตั้งขึ้นโดยที่ประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) เพื่อป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย เอฟเอทีเอฟขึ้นบัญชีดำเมียนมาอีกครั้ง หลังจากที่ถอดออกไปในปี 2559 เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลพลเรือนในช่วงเวลานั้นมีการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ.-สำนักข่าวไทย