
กระทรวงพลังงานเดินหน้าปราบทุจริต
กระทรวงพลังงานเดินหน้าปราบทุจริต มั่นใจสร้างความเชื่อมั่นเอกชน เป็นหน่วยงานโปร่งใสไร้ทุจริตอย่างจริงจัง
กระทรวงพลังงานเดินหน้าปราบทุจริต มั่นใจสร้างความเชื่อมั่นเอกชน เป็นหน่วยงานโปร่งใสไร้ทุจริตอย่างจริงจัง
สปสช. เตรียมยกเลิก 106 คลินิกชุมชนอบอุ่น
ประชาชนยังล้นหลามแห่เลือกสถานพยาบาลสิทธิบัตรทองแน่นเขตราษฎร์บูรณะกันอย่างต่อเนื่อง หลังเปิดบริการมา 7 วัน เพราะมีคนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ 180,000 คน
นายกฯ ยืนยันไม่ใช่การยกเลิกสิทธิ์บัตรทอง แต่พบการทุจริต ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย
สปสช. ตั้งโต๊ะแถลงอีกครั้ง กรณียกเลิกสัญญากับ 64 คลินิกชุมชนอบอุ่นและโรงพยาบาลที่ทุจริต
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ผุด “ACT Ai” เครื่องมือสุดล้ำนำร่อง จับทุจริตงบฟื้นฟูโควิด 4 แสนล้าน ชวนประชาชนร่วมตรวจสอบ
กรมส่งเสริมสหกรณ์ออกแถลงการณ์ปัญหาสหกรณ์ฯ รถไฟ พบส่อทุจริตตั้งแต่ปี 59 ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่นายทะเบียน
สธ.1ก.ย.-“อนุทิน” เผย สปสช.รายงานความคืบหน้าการตรวจสอบคลินิกทุจริตบัตรทอง เตรียมจ่อยกเลิกสัญญาเพิ่มอีก 63 คลินิก พร้อมเร่งจัดหาคลินิกเวชกรรมมาทดแทน รองรับการให้บริการประชาชน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังรับฟังความคืบหน้าคลินิกเอกชนทุจริตกองทุนบัตรทอง ว่า ผู้บริหาร สปสช.ได้มารายงานความคืบหน้าการตรวจสอบคลินิกที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตการเบิกจ่าย การปลอมแปลงเอกสาร การตรวจเมตาบอลิก ซึ่งจะได้ดำเนินการยกเลิกสัญญากับคลินิกที่กระทำผิด เบื้องต้นทราบว่า เตรียมยกเลิกสัญญาเพิ่มอีก 63 คลินิก จากเดิม 18 คลินิก และทำให้อาจมีคลินิกที่ถูกยกเลิกสัญญารวมเกือบ 100 คลินิก ทั้งนี้ สปสช.ได้เปิดรับสมัครคลินิกเวชกรรมเข้ามาเป็นคู่สัญญาเพิ่ม เพื่อให้บริการตรวจสุขภาพประชาชนทดแทน โดยได้มีการประสานกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ช่วยตรวจสอบมาตรฐานของคลินิกดังกล่าวด้วย ส่วนความคืบหน้าทางคดีก็ให้มีการดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดกับคลินิกที่กระทำผิดทั้งแพ่งและอาญา พร้อมเรียกค่าเสียหาย ซึ่งความเสียหายรวมคาดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย
อสมท MOU ป.ป.ช. ร่วมสร้างสังคมไม่ทนทุจริต
อดีตรัฐมนตรีคลังมาเลเซียถูกตั้งข้อหาทุจริตคอร์รัปชัน มูลค่ากว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากโครงการขุดอุโมงค์ใต้ทะเลในรัฐปีนัง
สปสช.เตรียมทยอยส่งฟ้องคลินิกชุมชนอบอุ่นทุจริต ภายใน 15 ส.ค.นี้ หลังตรวจสอบไม่พบเวชระเบียนคนไข้
กัวลาลัมเปอร์ 28 ก.ค.- ศาลสูงกัวลาลัมเปอร์ตัดสินให้อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคมีความผิดทั้ง 7 ข้อหาในคดีแรกที่โยงกับการทุจริตกองทุนพัฒนามาเลเซีย (1MDB) ที่เขาตั้งขึ้นในปี 2552 เว็บไซต์สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียรายงานว่า ผู้พิพากษาศาลสูงอ่านคำตัดสินช่วงเช้าวันนี้ว่า หลังจากพิจารณาหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดในคดีนี้ พบว่าการฟ้องร้องสามารถพิสูจน์จนปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยวัย 67 ปี กระทำความผิด และจึงตัดสินให้จำเลยมีความผิดทั้งหมด 7 ข้อหา เบอร์นามารายงานเพิ่มเติมว่า ความผิดทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเงินทุน 42 ล้านริงกิต (ราว 312 ล้านบาท) ของเอสอาร์ซีอินเตอร์เนชันนัล หน่วยงานในเครือ 1MDB ประกอบด้วยการทำผิดหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 กระทง การฟอกเงิน 3 กระทง และการใช้อำนาจโดยมิชอบ 1 กระทง โจ โลว์ นักการเงินมาเลเซีย ด้านเอเอฟพีรายงานว่า ความผิดข้อหาทำผิดหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายและการใช้อำนาจโดยมิชอบมีโทษจำคุกสูงสุดกระทงละ 20 ปี ส่วนความผิดข้อหาฟอกเงินมีโทษจำคุกสูงสุดกระทงละ 15 ปี คาดว่านายนาจิบจะอุทธรณ์และจะไม่ถูกส่งเข้าเรือนจำโดยทันที หากศาลพิพากษายืนเขาจะถูกห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองนาน 7 ปี ทนายความของนายนาจิบสู้คดีว่า เขาตกเป็นเหยื่อ […]