เกาหลีเหนือจะปล่อยดาวเทียมสอดแนมสหรัฐและพันธมิตร

เปียงยาง 10 มี.ค.- นายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเผยว่า จะปล่อยดาวเทียมลาดตระเวนจำนวนมากในอีกไม่กี่ปี เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวทหารของสหรัฐและพันธมิตรในเวลาจริง สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิมกล่าวขณะตรวจเยี่ยมสำนักงานการพัฒนาอวกาศแห่งชาติว่า จะมีการปล่อยดาวเทียมลาดตระเวนทางทหารจำนวนมากขึ้นไปในวงโคจรสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ตามแผนระยะ 5 ปีที่ประกาศไว้เมื่อปี 2564 วัตถุประสงค์ของการพัฒนาและใช้ดาวเทียมลาดตระเวนทางทหารคือ เพื่อให้กองทัพเกาหลีเหนือมีข้อมูลที่ทันสมัยในเวลาจริง เมื่อถูกรุกรานโดยกองกำลังและกองเรือจักรวรรดินิยมสหรัฐที่อยู่ในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และมหาสมุทรแปซิฟิก ด้วยใช้ปฏิบัติการทางทหารกับเกาหลีเหนือ เครือข่ายดาวเทียมนี้ไม่เพียงรวบรวมข้อมูล แต่ยังเป็นการปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาติของเกาหลีเหนือ เป็นการใช้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง และเป็นการยกระดับศักดิ์ศรีแห่งชาติ เกาหลีเหนือเผยว่า ได้ทดสอบระบบดาวเทียม 2 ครั้งเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ และ 5 มีนาคม ด้าน 38 นอร์ท ซึ่งเป็นกลุ่มในสหรัฐที่ติดตามความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือระบุว่า การปล่อยดาวเทียมใต้วงโคจรของเกาหลีเหนือเมื่อไม่นานมานี้น่าจะใช้ขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยกลางที่ยิงจากพื้นถนน เพื่อส่งชิ้นส่วนสำคัญของดาวเทียมลาดตระเวนให้ขึ้นไปถึงระดับความสูงสำหรับทำการทดสอบเป็นเวลาไม่กี่นาที เนื่องจากอาจล้มเหลวในการทดสอบก่อนหน้านี้ ชิ้นส่วนสำคัญเหล่านี้ได้แก่ ตัวรักษาความเสถียรของดาวเทียม อุปกรณ์บันทึกภาพ และอุปกรณ์ส่งข้อมูล 38 นอร์ทเตือนว่า การทดสอบระบบดาวเทียมอาจเป็นการเริ่มต้นสำหรับการพัฒนาขีปนาวุธที่มีความยั่วยุตามที่ผู้นำเกาหลีเหนือเคยกล่าวไว้ เช่น ขีปนาวุธหลายหัวรบ ขีปนาวุธข้ามทวีป.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือระบุทดสอบดาวเทียมจารกรรม

เกาหลีเหนือกล่าวว่า ได้ดำเนินการทดสอบสำคัญครั้งที่ 2 สำหรับระบบดาวเทียมลาดตระเวน ซึ่งมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังเจ้าหน้าที่ของกองทัพในภูมิภาครายงานทดสอบปล่อยขีปนาวุธทิ้งตัวเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้

ดาวเทียม “สเปซเอ็กซ์” ถูกพายุแม่เหล็กโลกสอยร่วง 40 ดวง

แคลิฟอร์เนีย 10 ก.พ. – บริษัทสเปซเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน เผยว่า มีดาวเทียมมากถึง 40 ดวงจากทั้งหมด 49 ดวงที่หลุดออกจากวงโคจรและถูกเผาไหม้ เนื่องจากเผชิญกับพายุแม่เหล็กโลก หลังจากที่สเปซเอ็กซ์ส่งฝูงดาวเทียมดังกล่าวขึ้นไปประจำการได้เพียงวันเดียว สเปซเอ็กซ์ระบุว่า มีดาวเทียมมากถึง 40 ดวงจากทั้งหมด 49 ดวงได้รับผลกระทบจากพายุแม่เหล็กโลก (geomagnetic storm) ซึ่งเป็นการรบกวนสนามแม่เหล็กโลกที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างลมสุริยะกับสนามแม่เหล็กโลก โดยที่ดาวเทียมเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการติดตั้งฝูงดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) เพื่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ทั้งนี้ ระบบดาวเทียมดังกล่าวมีราคาค่อนข้างสูง แต่ช่วยให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ที่สายเคเบิลโทรคมนาคมเข้าไม่ถึง เช่น ตองกา ที่เพิ่งเกิดเหตุภูเขาไฟใต้น้ำระเบิดจนทำให้สายเคเบิลใต้น้ำได้รับความเสียหายหนัก แถลงการณ์ของสเปซเอ็กซ์ยังระบุว่า ฝูงดาวเทียม 49 ดวงได้รับการปล่อยขึ้นไปประจำการเหนือพื้นโลกราว 210 กิโลเมตรเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ดี ฝูงดาวเทียมดังกล่าวต้องเผชิญกับพายุแม่เหล็กโลกที่เคลื่อนตัวปะทะโลก ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับปรากฏการณ์ออโรรา หรือแสงเหนือ ที่เกิดขึ้นบริเวณแถบขั้วโลก แต่สร้างความเสียหายรุนแรงกว่า ทั้งนี้ สเปซเอ็กซ์คาดการณ์ว่าอาจมีดาวเทียมมากถึง 40 ดวงที่หลุดวงโคจรและถูกเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศโลกหลังส่งฝูงดาวเทียมขึ้นไปประจำการได้เพียงวันเดียว.-สำนักข่าวไทย

ชาวจีนตำหนิ “อีลอน มัสก์” หลังสถานีอวกาศจีนต้องหลบดาวเทียมสเปซเอ็กซ์

ปักกิ่ง 28 ธ.ค. – อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและผู้ก่อตั้งสเปซเอ็กซ์ บริษัทเทคโนโลยีด้านอวกาศของสหรัฐ ถูกชาวจีนรุมตำหนิอย่างหนักในสื่อโซเชียลมีเดีย หลังจีนยื่นคำร้องว่าสถานีอวกาศของจีนถูกบังคับให้หลบการชนกับดาวเทียมในโครงการสตาร์ลิงก์ อินเทอร์เน็ต เซอร์วิสเซส ของมัสก์ หนังสือคำร้องที่จีนยื่นต่อสำนักกิจการอวกาศแห่งองค์การสหประชาชาติ (UNOOSA) ในเดือนนี้ ซึ่งยังไม่ได้รับการยืนยันโดยอิสระ ระบุว่า สถานีอวกาศของจีนถูกบังคับให้หลบการชนกับดาวเทียมของสตาร์ลิงก์ที่มีมัสก์เป็นเจ้าของถึงสองครั้งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมและ 21 ตุลาคม ขณะนี้ จีนได้เพิ่มระบบควบคุมเพื่อป้องกันการชนโดยคำนึงถึงเหตุผลด้านความปลอดภัยไว้ก่อน ขณะที่สเปซเอ็กซ์ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในทันที หลังจากที่จีนได้เผยแพร่คำร้องดังกล่าวในเว็บไซต์ขององค์การอวกาศแห่งชาติจีน ชาวจีนต่างพากันตำหนิทั้งมัสก์ สตาร์ลิงก์ และสหรัฐอย่างดุเดือดในเวย์ปั๋ว ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังของจีนแบบเดียวกันกับทวิตเตอร์ ผู้ใช้งานชาวจีนรายหนึ่งระบุว่า ดาวเทียมของสตาร์ลิงก์เป็นแค่กองขยะอวกาศกองหนึ่ง ขณะที่ผู้ใช้งานรายอื่น ๆ โพสต์ว่า ดาวเทียมเป็นอาวุธสงครามอวกาศของสหรัฐ และมัสก์ก็เป็นอาวุธใหม่ที่สร้างขึ้นโดยรัฐบาลและกองทัพสหรัฐ ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์หลายรายได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการชนกันในอวกาศ และเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับดาวเทียมราว 30,000 ดวง รวมถึงซากขยะอวกาศอื่น ๆ ที่โคจรรอบโลก ทั้งนี้ สเปซเอ็กซ์ได้ปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศเกือบ 1,900 ดวง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายสตาร์ลิงก์และวางแผนส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศอีกกว่าหลายพันดวง. -สำนักข่าวไทย

เมียนมาสั่งแบนทีวีดาวเทียมอ้างเป็นภัยความมั่นคง

สื่อของทางการเมียนมาประกาศวานนี้ ห้ามการใช้เครื่องรับโทรทัศน์ดาวเทียม โดยระบุว่า การแพร่ภาพออกอากาศจากนอกประเทศเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและขู่จะลงโทษจำคุกผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการนี้

“ณัฏฐพล”ชื่นชม “ดาวเทียม” ผลงานนักเรียน

กรุงเทพคริสเตียน 31 ส.ค.-รมว.ศึกษาฯ เยี่ยมชมโครงการ “BCC SPACE PROGRAM : การส่งดาวเทียม BCCSAT-1 เข้าสู่อวกาศ” โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ผลงานของนักเรียนระดับมัธยมดวงแรกของไทย เตรียมส่งขึ้นสู่อวกาศ เดือนพ.ย.นี้ พร้อมจรวดของรัสเซีย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) เยี่ยมชมโครงการ “BCC SPACE PROGRAM : การส่งดาวเทียม BCCSAT-1เข้าสู่อวกาศ”ที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ดาวเทียมผลงานนักเรียนระดับมัธยมศึกษาดวงแรกของประเทศไทยและของภูมิภาคอาเซียน รมว.ศึกษาฯ กล่าวชื่นชมในความสำเร็จของโรงเรียนฯที่สร้างสรรค์ผลงาน ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ จนนักเรียนสามารถสร้างดาวเทียมภายใต้ชื่อ BCCSAT-1 ได้สำเร็จ และกำลังจะส่งดาวเทียมขึ้นโคจรรอบโลกในอวกาศ ซึ่งนับเป็นดาวเทียมผลงานนักเรียนระดับมัธยม ศึกษาดวงแรกของประเทศไทย และของภูมิภาคอาเซียนด้วย โดย “ดาวเทียมที่ส่งไปถือเป็นสมบัติและลิขสิทธิ์ทางปัญญาของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย”ถือเป็นก้าวสำคัญอย่างยิ่งในวงการการศึกษาของประเทศไทย ที่แสดงให้เห็นว่า นักเรียนไทยมีความรู้ความสามารถ ไม่แพ้นักเรียนชาติอื่นๆ สามารถคิดและลงมือปฏิบัติ โดยการประยุกต์ใช้ความรู้ที่มีมาบูรณาการจากหลายศาสตร์เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่ได้มีประโยชน์ต่อตัวนักเรียนเพียงเท่านั้น แต่เป็นคุณูปการต่อการพัฒนาสังคม และประเทศชาติ ด้าน เลขาธิการ […]

เผยรัสเซียตั้งชื่อวัคซีนโควิด-19 ว่า สปุตนิก ตามชื่อดาวเทียม

รัสเซียตั้งชื่อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ว่า “สปุตนิก วี” (Sputnik V) สำหรับจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นชื่อดาวเทียมดวงแรกของโลก โดยรัสเซียมองว่า ตนเป็นประเทศแรกที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนและได้รับการอนุมัติให้ใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

รัสเซียจะผลิตวัคซีนโควิดมากๆตั้งแต่เดือนหน้า

มอสโก 3 ส.ค.- รัสเซียตั้งเป้าจะเริ่มการผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จำนวนมากตั้งแต่เดือนหน้า จากนั้นจะเริ่มผลิตเดือนละหลายล้านโดสภายในต้นปีหน้า นายเดนิส มันตูรอฟ รัฐมนตรีอุตสาหกรรมรัสเซียเผยกับสำนักข่าวทาสส์ในวันนี้ว่า จะเริ่มการผลิตวัคซีนจำนวนมากในเดือนกันยายน คาดว่าจะสามารถผลิตได้เดือนละหลายแสนโดส จากนั้นจะเพิ่มเป็นเดือนละหลายล้านโดสภายในต้นปีหน้า และว่าผู้พัฒนาวัคซีนรายหนึ่งกำลังตระเตรียมเทคโนโลยีการผลิต ณ สถานที่สามแห่งทางตอนกลางของประเทศ ด้านนายมิคาอิล มูราชโก รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า วัคซีนต้นแบบที่พัฒนาโดยสถาบันกามาเลยาในกรุงมอสโกได้เสร็จสิ้นการทดลองทางคลินิกแล้ว ขณะนี้กำลังเตรียมยื่นขอจดทะเบียนกับทางการ เป็นการใช้ไวรัสอะดีโนเป็นตัวนำดีเอ็นเอที่มีภูมิคุ้มกันจำเป็นเข้าไปในเซลล์ เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานไวรัสโคโรนาที่ทำให้เป็นโรคโควิด-19 คล้ายกับเทคนิคที่คังชิโนไบโอโลจิกส์ของจีนใช้พัฒนาวัคซีนที่อยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิก นอกจากนี้รัสเซียยังมีวัคซีนที่พัฒนาโดยเวคเตอร์แล็บในไซบีเรียและเตรียมทดลองทางคลินิกเพิ่มเติมภายในสองเดือนหน้า นักวิทยาศาสตร์เคยมองว่า รัสเซียจะมีปัญหาในการผลิตวัคซีนให้ได้เป็นจำนวนมากเพราะขาดแคลนวัตถุดิบ โรงงาน และประสบการณ์ โดยเฉพาะเทคโนโลยีการใช้ไวรัสตัวอื่นเป็นตัวนำดีเอ็นเอเข้าไปในเซลล์ รัสเซียคุยว่า จะเป็นประเทศแรกที่มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เหมือนเมื่อครั้งที่สหภาพโซเวียตเป็นประเทศแรกที่สามารถส่งดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรได้สำเร็จ พร้อมกับปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐ อังกฤษและแคนาดาเรื่องกลุ่มแฮ็กเกอร์โยงกับหน่วยข่าวกรองรัสเซียพยายามขโมยข้อมูลการพัฒนาวัคซีนจากห้องทดลองปฏิบัติการของโลกตะวันตก.-สำนักข่าวไทย

จีนส่งดาวเทียมดวงสุดท้ายให้ระบบสมบูรณ์เพื่อแข่งกับจีพีเอส

จีนส่งดาวเทียมดวงสุดท้ายในระบบชี้ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของตน ซึ่งออกแบบมาเพื่อแข่งกับเครือข่ายจีพีเอสของสหรัฐ โดยนับเป็นก้าวย่างสำคัญในการเข้าชิงส่วนแบ่งการตลาดในภาคธุรกิจที่ทำเงินมหาศาล

1 5 6 7 8 9 10
...