“สี จิ้นผิง” จะกล่าวคำปราศรัยผ่านตัวอักษรในงานประชุม COP26

เซี่ยงไฮ้ 1 พ.ย. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะกล่าวคำปราศรัยผ่านแถลงการณ์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 (COP26) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ในวันนี้ กำหนดการณ์ของผู้กล่าวคำปราศรัยภายในงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ประธานาธิบดีสีเป็นผู้นำเพียงคนเดียวในกลุ่มผู้นำระดับสูงที่เป็นผู้นำประเทศหรือผู้นำรัฐบาลที่จะไม่ได้ปรากฏตัวเพื่อกล่าวคำปราศรัย แต่จะส่งแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรแทน โดยที่ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสีจะได้รับการอัปโหลดขึ้นเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของการประชุมในครั้งนี้หลังจากที่ผู้นำระดับโลกหลายคน เช่น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เสร็จสิ้นการกล่าวคำปราศรัยด้วยตนเองในวันนี้ ประธานาธิบดีสี ซึ่งไม่ได้ออกเดินทางออกนอกจีนตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563 ไม่ได้ถูกคาดหมายว่า จะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วยตัวเอง จีนเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก และมีบทบาทสำคัญต่อการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในครั้งนี้ ซึ่งเน้นการหารือเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งต่อการรับมือกับภาวะโลกร้อนและได้เปิดฉากการประชุมเป็นวันแรกเมื่อวันอาทิตย์ ทั้งนี้ จีนได้ให้คำมั่นล่าสุดกับสหประชาชาติเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จะตั้งเป้าลดการปล่อยมลพิษในระดับสูงสุดภายในปี 2573 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2603 ทั้งยังให้คำมั่นว่า จะเพิ่มขีดความสามารถในการใช้พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดเป็น 1,200 กิกะวัตต์ภายในปี 2573 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศต่างคาดหวังว่าจะมีการให้คำมั่นครั้งใหม่เกี่ยวกับการจำกัดการใช้พลังงาน รวมถึงการเริ่มลดการใช้ถ่านหินได้เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิมที่ตั้งไว้ว่าจะเริ่มลดใช้ถ่านหินในปี 2569.-สำนักข่าวไทย

จีนว่ารายงานที่มาโควิดของสหรัฐขาดความน่าเชื่อถือ

เซี่ยงไฮ้ 1 พ.ย. – จีนระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า รายงานอย่างเป็นทางการของหน่วยข่าวกรองสหรัฐที่ว่าเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อาจหลุดมาจากห้องปฏิบัติการนั้นไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์และขาดความน่าเชื่อถือ รายงานล่าสุดของหน่วยข่าวกรองสหรัฐที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นระบุว่า การตั้งสมมติฐานที่ว่าเชื้อโควิดอาจมีที่มาจากการระบาดตามธรรมชาติหรือหลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการนั้นมีความเป็นไปได้ทั้งคู่ แต่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์กระทรวงฯ ว่า รายงานดังกล่าวเป็นเรื่องโกหก หน่วยข่าวกรองสหรัฐมีชื่อเสียงด้านการหลอกลวงและการตบตา การค้นหาที่มาของโรคโควิด-19 เป็นเรื่องที่จริงจังและซับซ้อน ซึ่งควรได้รับการศึกษาวิจัยผ่านความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้สหรัฐเปิดห้องปฏิบัติการด้านชีวภาพฟอร์ต เดทริก ในรัฐแมริแลนด์เพื่อให้คณะผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติเข้าตรวจสอบเช่นกัน ก่อนหน้านี้ จีนและองค์การอนามัยโลกได้ร่วมกันเปิดเผยผลการศึกษาที่มาของโรคโควิด-19 ร่วมกันในปีนี้ แต่ไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าโรคดังกล่าวมีที่มาจากห้องปฏิบัติการ และระบุว่า สมมติฐานที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ มนุษย์ติดเชื้อโควิดจากการระบาดตามธรรมชาติที่อาจเป็นผลมาจากการค้าสัตว์ป่า ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายให้ความเห็นว่า การศึกษาดังกล่าวล้มเหลวในการตรวจสอบห้องปฏิบัติการที่เมืองอู่ฮั่นของจีน และไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลดิบที่จำเป็นเพื่อทำความเข้าใจเส้นทางการระบาดในระยะแรกเริ่มของเชื้อโควิด อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกได้จัดตั้งกลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ด้านต้นกำเนิดโรคระบาด (SAGO) เมื่อเดือนตุลาคม และเรียกร้องให้จีนมอบข้อมูลดิบเพื่อช่วยในการสืบสวนที่มาโควิดครั้งใหม่ แต่จีนกลับปฏิเสธโดยอ้างกฎหมายเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐเตือนจีนมิให้ดำเนินการเพียงฝ่ายเดียวเรื่องไต้หวัน

นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แจ้งกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนในวันนี้ว่า สหรัฐไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรัฐบาลปักกิ่งที่ทำให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นในช่องแคบไต้หวัน

จีนติดโควิดในประเทศรายใหม่สูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์

ปักกิ่ง 30 ต.ค.- จีนพบผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศรายใหม่เมื่อวานนี้ มากที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ เป็นการระบาดที่กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ทางเหนือเป็นหลัก คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติจีนแถลงวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 59 คนเมื่อวันศุกร์ เพิ่มขึ้นจาก 48 คนเมื่อวันพฤหัสบดี และมากที่สุดนับจากวันที่ 16 กันยายน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในมณฑลเฮย์หลงเจียง มณฑลกานซู่ เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย และกรุงปักกิ่ง หากนับรวมผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศจะเท่ากับ 78 คนเมื่อวันเสาร์ เพิ่มขึ้นจาก 64 คนเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตยังไม่เปลี่ยนแปลงจาก 4,636 คน แม้ตัวเลขการระบาดระลอกใหม่ในจีนถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น แต่ทางการจีนได้เข้มงวดมาตรการจำกัดการระบาด ควบคุมธุรกิจภาคบริการอย่างการท่องเที่ยวและจัดเตรียมอาหาร เมืองตามชายแดนที่เสี่ยงมีการรระบาดข้ามพรมแดนและมีทรัพยากรในการบริหารจัดการไม่มาก ได้รับผลกระทบหนักกว่าเมืองเศรษฐกิจดี.-สำนักข่าวไทย

ผู้แทนสหรัฐประจำไต้หวันย้ำจะช่วยไต้หวันป้องกันตนเอง

นางซานดรา ออดเคิร์ก ผู้แทนสูงสุดของสหรัฐประจำไต้หวัน กล่าววันนี้ว่า สหรัฐมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือไต้หวันในการป้องกันตนเอง

“สี จิ้นผิง” จะประชุมสุดยอด “G20” ผ่านระบบออนไลน์

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก หรือจี 20 ที่กรุงโรมของอิตาลีในวันที่ 30-31 ตุลาคมผ่านระบบวิดีโอลิงก์

ผู้นำไต้หวันยืนยันทหารสหรัฐช่วยฝึกให้ทหารไต้หวัน

ประธานาธิบดีไช่ อิง เหวิน ของไต้หวัน ให้สัมภาษณ์เครือข่ายโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า ทหารอเมริกันจำนวนเล็กน้อยประจำการอยู่ในไต้หวันเพื่อฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ให้กับทหารไต้หวัน ซึ่งเป็นการยืนยันว่ามีทหารสหรัฐอยู่ในไต้หวัน

จีนเรียกร้องธนาคารโลก-ไอเอ็มเอฟช่วยอัฟกานิสถาน

นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน เรียกร้องให้ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ กลับมาให้การสนับสนุนทางการเงินแก่อัฟกานิสถานอีกครั้งเพื่อฟื้นฟูประเทศให้กลับสู่สภาพเดิม

ฮ่องกงผ่านร่างกฎหมายเซ็นเซอร์ภาพยนตร์

สภานิติบัญญัติฮ่องกงให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับใหม่ในวันนี้ ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์โดยระบุว่ามีเป้าหมายในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ แม้ว่าจะมีผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่า กฎหมายฉบับนี้จะทำลายความคิดสร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮ่องกงที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกและบั่นทอนเสรีภาพในฮ่องกง

“ไบเดน” จะร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนวันนี้

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนในวันนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่สหรัฐจะมีส่วนร่วมในระดับสูงสุดกับกลุ่มประเทศที่มองว่าเป็นกุญแจสำคัญในยุทธ์ศาสตร์คานอำนาจจีน

“สี จิ้นผิง” ให้คำมั่นจะรักษาสันติภาพโลก

ปักกิ่ง 25 ต.ค. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ให้คำมั่นในวันนี้ว่า จีนจะรักษาสันติภาพของโลกและกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศตลอดไป ในขณะที่สหรัฐและประเทศอื่น ๆ ต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่จีนขยายอิทธิพลทั่วโลก สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวันนี้ว่า ประธานาธิบดีสีได้กล่าวคำปราศรัยเนื่องในวาระครบรอบ 50 ปีที่สหประชาชาติกลับมาให้การรับรองจีนอีกครั้งในปี 2514 ด้วยการขับไต้หวันออกจากการเป็นสมาชิกว่า จีนจะยังคงเป็นผู้สร้างสันติภาพให้แก่โลกและผู้พิทักษ์ระเบียบระหว่างประเทศตลอดไป จีนต่อต้านแนวคิดเจ้าโลกและการช่วงชิงอำนาจทางการเมือง รวมถึงแนวคิดเอกภาพนิยมและลัทธิปกป้องทางการค้า พร้อมทั้งเรียกร้องให้เพิ่มความร่วมมือระดับโลกในประเด็นต่าง ๆ เช่น ความขัดแย้งในภูมิภาค การก่อการร้าย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และความมั่นคงทางชีวภาพ นอกจากนี้ ประธานาธิบสียังขอให้ทุกประเทศส่งเสริมค่านิยมเกี่ยวกับสันติภาพ การพัฒนา ความยุติธรรม ประชาธิปไตย และเสรีภาพ ภายใต้วลีที่ว่า ‘ค่านิยมร่วมกันของมนุษยชาติ’ ซึ่งเขาเคยกล่าวถึงครั้งแรกในงานฉลองครบรอบ 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา การกล่าวคำปราศรัยของประธานาธิบดีสีมีขึ้นหลังจากที่ไต้หวันระบุในเดือนนี้ว่า ปัญหาตึงเครียดทางทหารกับจีนเข้าขั้นวิกฤตในรอบกว่า 40 ปี ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าจีนอาจพยายามใช้กองกำลังทหารยึดเกาะไต้หวันที่ปกครองตนเองด้วยระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจีนอ้างสิทธิว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน นอกจากนี้ จีนยังอ้างสิทธิในพื้นที่พิพาทอีกหลายแห่ง เช่น บริเวณชายแดนเทือกเขาหิมาลัยที่ติดกับอินเดีย น่านน้ำในทะเลจีนใต้กับบางประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหมู่เกาะเซนกากุ หรือเตียวหยู ในทะเลจีนตะวันออกกับญี่ปุ่น. -สำนักข่าวไทย

จีนเลื่อนปักกิ่งมาราธอน หวังคุมโควิดระบาดครั้งใหม่

จีนเลื่อนการจัดงานวิ่งปักกิ่งมาราธอนที่กำหนดมีขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม หวังควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ระบาดครั้งใหม่ และทำให้ยอดติดเชื้อเป็นศูนย์ก่อนที่จะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

1 208 209 210 211 212 526
...