ความมั่นคง

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาชาติกล่าววานนี้เรียกร้องให้กองทัพเมียนมาปล่อยตัวนางซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี ที่เป็นพรรครัฐบาล พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาประชาธิปไตย แต่ไม่ได้กล่าวประณามการก่อรัฐประหารในเมียนมา

นายชาด วูล์ฟ รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ประกาศว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่งในวันจันทร์ ในขณะที่เหลืออีกเพียงไม่กี่วันจะถึงพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายโจ ไบเดน ในสัปดาห์หน้า

ตำรวจฮ่องกงจับกุมนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย 53 คน ในระหว่างการบุกจับกุมในหลายสถานที่ในวันนี้ โดยเจ้าหน้าที่กล่าวว่า การเลือกตั้งเพื่อสรรหาตัวผู้สมัครของกลุ่มฝ่ายค้านสำหรับลงสมัครชิงเก้าอื้ในสภานิติบัญญัติฮ่องกง เป็นส่วนหนึ่งของแผนการโค้นล้มรัฐบาลฮ่องกง

นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะของญี่ปุ่นจะกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงเมื่อเยือนเวียดนามและอินโดนีเซียในสัปดาห์หน้าขณะที่กังวลเรื่องจีนแสดงบทบาทในภูมิภาคมากขึ้น

มอสโก 8 ต.ค.- รัสเซียระบุว่า สถานการณ์ในคีร์กิซสถาน ประเทศที่รัสเซียมีฐานทัพอากาศเข้าสู่ความโกลาหล รัสเซียมีพันธกิจตามสนธิสัญญาความมั่นคงในการป้องกันไม่ให้สถานการณ์พังทลายอย่างสิ้นเชิง โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียแถลงว่า รัสเซียมีพันธกรณีตามสนธิสัญญาความมั่นคงระหว่างสองประเทศ เพื่อไม่ให้รัฐบาลคีร์กิซสถานพังอย่างสิ้นเชิง พร้อมกับยืนยันว่าหัวหน้าสำนักงานความมั่นคงรัสเซียได้คุยกับรักษาการหัวหน้าความมั่นคงคีร์กิซสถานแล้วเมื่อวานนี้ คีร์กิซสถานเกิดเหตุไม่สงบตั้งแต่เลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ เมื่อพรรคการเมือง 11 พรรคไม่ยอมรับชัยชนะของสองพรรคใหญ่ กลุ่มวิจารณ์รัฐบาลและนักสังเกตการณ์ตะวันตกตำหนิว่า มีการซื้อเสียง ผู้ประท้วงบุกที่ทำการรัฐบาลเมื่อวันอังคาร ฝ่ายค้านสามกลุ่มเสนอชื่อคนของตัวเองทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี เพราะมีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งที่อาจต้องจัดขึ้นใหม่ในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่การประชุมรัฐสภาเมื่อคืนที่ผ่านมาองค์ประชุมไม่ครบ เพราะสภาชุดปัจจุบันแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ทำให้ภาวะสุญญากาศทางการเมืองยืดเยื้อต่อไปอีก ธนาคารกลางคีร์กิซสถานให้สถาบันการเงินที่ปิดไปตั้งแต่วันอังคารเปิดทำการอีกครั้งในวันนี้ ตามที่สมาคมธุรกิจเตือนว่า ประชากร 6.5 ล้านคนอาจขาดแคลนอาหาร หากธนาคารและสำนักงานสรรพากรยังคงปิดอยู่.-สำนักข่าวไทย

ปักกิ่ง 4 ก.ย.- จีนตำหนิผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติหรือยูเอ็นว่าแทรกแซงเรื่องของฮ่องกงและจีน กรณีกล่าวถึงกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่จีนใช้กับฮ่องกงว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อเสรีภาพของฮ่องกงและละเมิดพันธกฎหมายสากล โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงวันนี้ด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติลงโทษคนจำนวนน้อยมากแต่ปกป้องคนส่วนใหญ่ในฮ่องกง บางคนละเลยข้อเท็จจริงเหล่านี้แล้วให้ร้ายสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของจีนอย่างประสงค์ร้าย แทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างหยาบคาย ขอให้หยุดแทรกแซงเรื่องของฮ่องกงและจีนโดยทันที ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันคณะผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนยูเอ็นได้ออกจดหมายต่อสาธารณะ แจกแจงความเสียหายที่กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติได้ก่อไว้กับเสรีภาพที่ชาวฮ่องกงเคยมีและได้รับการบันทึกไว้ในข้อตกลงก่อนอังกฤษส่งมอบฮ่องกงกลับไปอยู่ภายใต้การปกครองของจีนในปี 2540 จดหมายระบุว่า กฎหมายฉบับนี้เป็นภัยร้ายแรงเพราะอาจละเมิดเสรีภาพพื้นฐานและกระบวนการคุ้มครอง ล่วงล้ำสิทธิที่จะแสดงความเห็นอย่างเสรี สิทธิที่จะแสดงออกและสิทธิที่จะชุมนุมอย่างสันติ ขอให้จีนพิจารณาทบทวนกฎหมายฉบับนี้ และแต่งตั้งผู้ทบทวนอิสระเพื่อทำให้กฎหมายมีความสอดคล้องกับพันธกรณีสากลของจีนในด้านสิทธิมนุษยชน คณะผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนยูเอ็นยังได้ชี้ถึงประเด็นถกเถียงที่สุดของกฎหมายนี้เรื่องการโอนคดีจากฮ่องกงไปจีนแผ่นดินใหญ่ว่า จะสั่นคลอนสิทธิที่จะได้รับการไต่สวนอย่างเป็นธรรม และเรื่องคำนิยามการก่อการร้ายให้ครอบคลุมไปถึงการทำลายทรัพย์สินว่า เลยเถิดจากที่ยูเอ็นนิยามการก่อการร้ายว่าเป็นการทำร้ายร่างกายร้ายแรงหรือถึงตายเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย