เกาหลีเหนือฟื้นป้อมยามชายแดนที่เคยรื้อออกไป
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แจ้งวันนี้ว่า เกาหลีเหนือได้ส่งทหารไปยังชายแดนด้านติดกับเกาหลีใต้ เพื่อสร้างป้อมยามขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากรื้อออกไปตามข้อตกลงลดความตึงเครียดทางทหารกับเกาหลีใต้เมื่อปี 2561
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แจ้งวันนี้ว่า เกาหลีเหนือได้ส่งทหารไปยังชายแดนด้านติดกับเกาหลีใต้ เพื่อสร้างป้อมยามขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากรื้อออกไปตามข้อตกลงลดความตึงเครียดทางทหารกับเกาหลีใต้เมื่อปี 2561
วอชิงตัน 15 พ.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเชื่อว่า จะมีข้อตกลงกับกลุ่มฮามาสเรื่องปล่อยตัวประกันที่จับไว้ในฉนวนกาซา แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ประธานาธิบดีไบเดนตอบข้อถามผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐเรื่องข้อตกลงปล่อยตัวประกันที่กลุ่มฮามาสลักพาตัวไปตั้งแต่บุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมว่า เขาได้สนทนากับผู้เกี่ยวข้องทุกวัน และเชื่อว่ากำลังจะมีข้อตกลงกับฮามาสเรื่องปล่อยตัวประกัน แต่จะไม่เปิดเผยในรายละเอียด ต่อข้อถามว่ามีสิ่งที่จะบอกครอบครัวตัวประกันหรือไม่ ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า โปรดรอก่อน รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ชาวอเมริกัน 9 คน และผู้มีถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐ 1 คนอยู่ในกลุ่มตัวประกัน 240 คนที่ถูกฮามาสลักพาตัวไป ทำเนียบขาวแถลงว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศได้หารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลเมื่อวันอังคารเรื่องความพยายามช่วยตัวประกัน และว่านายเบรตต์ แมคเกิร์ต ผู้ประสานงานสภาความมั่นคงแห่งชาติด้านตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือจะเดินทางไปภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกาตาร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานทางการเมืองของกลุ่มฮามาส เพื่อหารือเรื่องตัวประกัน.-สำนักข่าวไทย
มอสโก 27 ก.ค.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียประชุมสุดยอดกับผู้นำประเทศในแอฟริกาที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในวันนี้ ขณะที่ทวีปนี้เตรียมรับผลกระทบจากการที่รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงให้ยูเครนส่งออกธัญพืช รัสเซียกล่าวหาชาติตะวันตกว่า พยายามขัดขวางไม่ให้ประเทศในแอฟริกาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 2 หลังจากมีการประชุมสุดยอดครั้งแรกที่เมืองโซชิ ทางใต้ของรัสเซียในปี 2562 ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีปูตินเผยว่า ประธานาธิบดีจะกล่าวในสารต้อนรับผู้นำ 17 ประเทศที่จะมาร่วมประชุมสุดยอดเป็นเวลา 2 วันเริ่มตั้งแต่วันนี้ว่า เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับแอฟริกาได้พัฒนาไปสู่ระดับใหม่ในช่วงหลายปีมานี้ และรัสเซียต้องการจะพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไป ประธานาธิบดีปูตินจะกล่าวถึงวิสัยทัศน์ความสัมพันธ์รัสเซียและแอฟริกา และการสร้างระเบียบโลกใหม่ด้วย ส่วนในการประชุมสุดยอดคาดว่า ประเด็นหลักจะเป็นเรื่องที่รัสเซียไม่ต่ออายุข้อตกลงที่อนุญาตให้ยูเครนส่งออกธัญพืชผ่านทางทะเลดำไปยังตลาดโลก รวมถึงทวีปแอฟริกา ข้อตกลงนี้เปิดทางให้ยูเครนสามารถส่งออกธัญพืชประมาณ 33 ล้านตันออกจากท่าเรือยูเครนได้ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ช่วยให้ราคาอาคารโลกมีเสถียรภาพและเลี่ยงปัญหาขาดแคลนอาหาร รัสเซียพยายามให้ความมั่นใจกับประเทศในแอฟริกาว่า เข้าใจถึงความกังวลเรื่องนี้ และพร้อมจะส่งออกธัญพืชให้ประเทศที่ต้องการโดยไม่คิดเงิน ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐขอให้ผู้นำในแอฟริกากดดันรัสเซียให้คำตอบเรื่องการส่งออกธัญพืชที่หยุดชะงัก ซึ่งทำให้ประเทศยากจนตกอยู่ในภาวะวิกฤต.-สำนักข่าวไทย
ปารีส 18 ก.ค.- นักวิเคราะห์มองว่า การที่รัสเซียไม่ต่ออายุข้อตกลงระเบียงส่งออกทะเลดำที่เปิดทางให้ยูเครนส่งออกธัญพืชมากกว่า 32 ล้านตันตลอดปีที่ผ่านมา จะส่งผลทันทีน้อยมาก แต่ในระยะยาวจะทำให้ตลาดตึงเครียดและอาหารมีราคาแพงขึ้น นักวิเคราะห์ของอากริเทล (Agritel) บริษัทบริการข้อมูลตลาดการเกษตรคาดว่า ปี 2566-2567 ยูเครนน่าจะส่งออกข้าวสาลีลดลง 6 ล้านตัน และส่งออกข้าวโพดลดลง 10 ล้านตัน การที่ตลาดมีปฏิกิริยาน้อยมากต่อการไม่ต่ออายุข้อตกลงส่งออกธัญพืชที่มีผลตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.2565 ถึงวันที่ 17 ก.ค.2566 ส่วนหนึ่งเพราะซีกโลกเหนือกำลังอยู่ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว จึงต้องรอให้สิ้นฤดูจึงจะเห็นผลชัดเจน ด้านนักวิเคราะห์ของพลองทูเออ เอต์ แอสโซซิเอส์ (Plantureux & Associes) บริษัทค้าสินค้าโภคภัณฑ์มองว่า ตลาดคาดการณ์เรื่องนี้อยู่แล้ว และในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รัสเซียได้ลดจำนวนเจ้าหน้าที่ตรวจตราเรือที่ล่องผ่านช่องแคบบอสฟอรัส ทำให้การขนส่งธัญพืชของยูเครนล่าช้า อย่างไรก็ดี ฟาร์ม ฟาวน์เดชัน (Farm Foundation) หน่วยงานวิชาการด้านการเกษตรชี้ว่า แม้ว่าขณะนี้ตลาดโลกไม่ขาดแคลนข้าวสาลี แต่การปิดระเบียงส่งออกธัญพืชที่ทะเลดำจะทำให้อาหารมีราคาแพงขึ้น กระทบต่อความมั่นคงด้านอาหาร และแม้ว่าสหภาพยุโรปหรืออียูได้ให้ยูเครนลำเลียงธัญพืชผ่านเส้นทางทางบกและทางแม่น้ำของยุโรปแล้วราวครึ่งหนึ่งนับตั้งแต่เกิดสงคราม ปัญหาคืออียูมีศักยภาพในการนำธัญพืชปริมาณมากนี้ส่งออกต่อได้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 19 พ.ค.- สหรัฐและไต้หวันสรุปการเจรจาเรื่องข้อตกลงทางการค้าเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันแล้ว ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนกำลังตึงเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐว่า ความสำเร็จนี้เป็นก้าวสำคัญของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐกับไต้หวันให้แข็งแกร่ง โดยได้บรรลุข้อตกลงแรกภายใต้ความริเริ่มสหรัฐ-ไต้หวัน เรื่องการค้าในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นความริเริ่มที่มุ่งส่งเสริมการค้าด้วยการลดขั้นตอนศุลกากร ปรับปรุงกระบวนการด้านกฎระเบียบ และกำหนดมาตรการต่อต้านการทุจริตระหว่างกัน ข้อตกลงแรกจะเปิดทางให้ธุรกิจอเมริกันสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังไต้หวันและผู้บริโภคชาวไต้หวันได้มากขึ้น ขณะเดียวกันจะสร้างกระบวนการด้านกฎระเบียบที่โปร่งใสและคล่องตัวมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การลงทุนและโอกาสทางเศรษฐกิจในทั้ง 2 ตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อมหรือเอสเอ็มอี ด้านโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ของไต้หวัน แถลงว่า ประธานาธิบดีให้การรับรองข้อตกลงนี้ และมุ่งหวังที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐมากยิ่งขึ้นไปอีก ข้อตกลงนี้จะเป็นกรอบให้แก่การทำข้อตกลงการค้าของไต้หวันกับประเทศอื่น ๆ และจะทำให้ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกมากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย
โคลัมโบ 22 มี.ค.- ประธานาธิบดีศรีลังกาเตือนว่า ศรีลังกาจะต้องพบกับความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจมากขึ้นอีกจากการดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดอย่างเคร่งครัดเพื่อกอบกู้ฐานะการคลัง หลังจากบรรลุข้อตกลงรับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ประธานาธิบดีรานิล วิกรมสิงเห แถลงต่อรัฐสภาในวันนี้ว่า ข้อตกลงกับไอเอ็มเอฟเป็นจุดเริ่มต้นการฟื้นฟูประเทศที่เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเมื่อปี 2565 อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้เป็นเพียงก้าวแรกของการปฏิรูปโครงสร้างที่จะเป็นการเดินทางที่ยาวนานและยากลำบากมากยิ่งขึ้น ศรีลังกาจะต้องก้าวข้ามด้วยความรอบคอบและกล้าหาญ โดยมีเป้าหมายเดียวคือการกอบกู้เศรษฐกิจประเทศ ประธานาธิบดีวิกรมสิงเหกล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลจะดำเนินการหลังจากนี้คือ การขึ้นภาษี เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟที่กำหนดให้ต้องลดภาระการชำระหนี้ต่างประเทศลงให้ได้ครึ่งหนึ่งจากปี 2565 ที่สูงเป็นประวัติการณ์ถึงร้อยละ 9 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) และจะรับภาระหนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจสำคัญเพื่อให้เป็นที่สนใจของนักลงทุน ตามที่ไอเอ็มเอฟต้องการให้ศรีลังกาจำหน่ายรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน รวมถึงศรีลังกาแอร์ไลน์ที่เป็นสายการบินแห่งชาติ และออกกฎหมายปราบปรามการทุจริตอย่างเข้มงวด ด้านสหภาพแรงงานในศรีลังกาคัดค้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัดด้วยการนัดหยุดงานในภาคสาธารณสุขและการขนส่งเมื่อสัปดาห์ก่อน และเตือนว่าจะมีการเคลื่อนไหวต่อไปอีก.-สำนักข่าวไทย
ไทเป 21 มี.ค.- รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของเยอรมนีลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีกับไต้หวันในวันนี้ นับเป็นรัฐมนตรีเยอรมนีคนแรกที่เยือนไต้หวันในรอบ 26 ปี นางเบตทีนา ชตาร์ก-วาตซิงเงอร์ รัฐมนตรีศึกษาธิการของเยอรมนีลงนามข้อตกลงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติของไต้หวันหรือเอ็นเอสทีซี (NSTC) ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรกของการเยือนไต้หวัน เธอกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่เป็นรัฐมนตรีเยอรมนีคนแรกที่มาเยือนไต้หวันในรอบกว่า 2 ทศวรรษ เป็นการเยือนเพื่อส่งเสริมความร่วมมือบนพื้นฐานของค่านิยมประชาธิปไตย ความโปร่งใส การเปิดกว้าง การต่างตอบแทน และเสรีภาพทางวิทยาศาสตร์ ด้านประธานเอ็นเอสทีซีกล่าวว่า การเยือนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนตามปกติ ข้อตกลงที่ลงนามในวันนี้ครอบคลุมเรื่องการร่วมวิจัยในหลายด้าน เช่น เซมิคอนดักเตอร์หรือชิป เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) รัฐมนตรีเยอรมนีมาเยือนไต้หวันหลังจากคณะตัวแทนระดับสูงของรัฐสภาเยอรมนีเพิ่งมาเยือนเมื่อ 2 เดือนก่อน ขณะที่กระทรวงต่างประเทศของเยอรมนีแถลงยืนยันเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เยอรมนียึดมั่นในนโยบายจีนเดียวเรื่องการมีความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างเป็นทางการกับจีน แต่ขณะเดียวกันก็ยังรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและใกล้ชิดกับไต้หวัน.-สำนักข่าวไทย
โซล 21 มี.ค.- เกาหลีใต้ยืนยันว่า จะดำเนินการเพื่อฟื้นข้อตกลงแบ่งปันข่าวกรองทางทหารกับญี่ปุ่น หลังจากที่ผู้นำ 2 ประเทศประชุมสุดยอดครั้งแรกในรอบ 12 ปี เมื่อสัปดาห์ก่อน กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า เกาหลีใต้ได้แจ้งญี่ปุ่นด้วยเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรเรื่องการตัดสินใจฟื้นข้อตกลงความมั่นคงทั่วไปของข้อมูลทางทหาร (GSOMIA) เป็นการยืนยันตามที่มีรายงานข่าวช่วงสุดสัปดาห์ว่า ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้ได้กล่าวกับนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นระหว่างพบกันที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นว่า เกาหลีใต้ต้องการฟื้นข้อตกลงปี 2559 ให้กลับมาเป็นปกติอย่างสมบูรณ์ ข้อตกลงนี้เปิดทางให้เกาหลีใต้และญี่ปุ่นแบ่งปันความลับทางทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ แต่เกาหลีใต้ได้ขู่จะฉีกข้อตกลงในปี 2562 ในช่วงที่ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศตกต่ำจากข้อพิพาททางการค้าและเรื่องญี่ปุ่นบังคับใช้แรงงานชาวเกาหลีสมัยสงคราม ประธานาธิบดียุนต้องการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น โดยยกเรื่องความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีเป็นเหตุผลหลัก แม้ว่ามีกระแสคัดค้านอย่างหนักในประเทศ รวมถึงอดีตแรงงานทาส ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ว่า เสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องทางการเมือง รัฐบาลญี่ปุ่นได้แสดงความเสียใจและขอโทษในประเด็นที่เป็นเรื่องทางประวัติศาสตร์มาแล้วหลายครั้ง.-สำนักข่าวไทย
อิสลามาบัด 10 ก.พ.- คณะตัวแทนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) เดินทางออกจากปากีสถานแล้วในวันนี้ โดยที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงความช่วยเหลือทางการเงินกับรัฐบาลปากีสถานที่จะช่วยปกป้องเศรษฐกิจปากีสถานไม่ให้พังทลาย คณะตัวแทนของไอเอ็มเอฟเดินทางถึงปากีสถานเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อเดินหน้าการเจรจากับรัฐบาลที่หยุดชะงักมาหลายเดือน ไอเอ็มเอฟแถลงว่า มีความคืบหน้าพอสมควรเรื่องมาตรการเชิงนโยบายที่จะแก้ไขความไม่สมดุลภายในและภายนอกปากีสถาน ทั้ง 2 ฝ่ายจะหารือทางออนไลน์ในเร็ว ๆ นี้เพื่อให้ได้ข้อสรุปเรื่องรายละเอียดการปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้ ด้านนายอิสฮัก ดาร์ รัฐมนตรีคลังของปากีสถานแถลงหลังจากคณะตัวแทนของไอเอ็มเอฟเดินทางกลับในเช้าวันนี้ว่า การเจรจาได้ข้อสรุปด้วยดี และไอเอ็มเอฟได้นำเสนอร่างบันทึกนโยบายที่เห็นพ้องกันอย่างกว้าง ๆ ให้แก่รัฐบาลแล้ว เศรษฐกิจปากีสถานตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เนื่องจากเผชิญวิกฤตเรื่องดุลการชำระเงิน อันเป็นผลจากการที่มีหนี้ต่างประเทศในระดับสูง ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองเต็มไปด้วยวุ่นวาย และสถานการณ์ความมั่นคงเลวร้ายลง อัตราเงินเฟ้อพุ่งทะยาน เงินรูปีปากีสถานอ่อนค่า และไม่มีเงินนำเข้าสินค้าแล้ว ธนาคารกลางปากีสถานแจ้งว่า เหลือทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศเพียง 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 97,585 ล้านบาท) นับจนถึงวันศุกร์ที่แล้ว ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ของปากีสถานกล่าวถึงเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟในการปล่อยเงินกู้จำนวน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 40,380 ล้านบาท) ว่า ยากเกินกว่าที่จะคาดคิดได้ ซึ่งหมายถึงเรื่องที่ไอเอ็มเอฟต้องการให้ปากีสถานปรับขึ้นฐานภาษีที่ต่ำมาก ยกเลิกการยกเว้นภาษีให้ภาคการส่งออก ขึ้นราคาน้ำมัน ไฟฟ้า และก๊าซที่ต่ำกว่าความเป็นจริง คงปริมาณเงินดอลลาร์สหรัฐของธนาคารกลางให้มีความยั่งยืนด้วยการขอความสนับสนุนจากพันธมิตรอย่างซาอุดีอาระเบีย จีน […]
โตเกียว 9 ก.พ.- ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์จะพบกับนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิกะของญี่ปุ่นที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นในวันนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ หนึ่งในนั้นคือการลงนามข้อตกลงด้านกลาโหม ประธานาธิบดีมาร์กอสไปเยือนญี่ปุ่น หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วฟิลิปปินส์ได้ประกาศข้อตกลงให้สหรัฐเข้าถึงฐานทัพในฟิลิปปินส์เพิ่มอีก 4 แห่ง เขากล่าวก่อนออกเดินทางว่า การเยือนครั้งนี้มีความสำคัญต่อการกระชับความเป็นหุ้นส่วนกับประเทศใหญ่ในภูมิภาคนี้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมโลกที่มีความท้าทาย เขาต้องการร่วมมือกับญี่ปุ่นในด้านการเกษตร พลังงานหมุนเวียน การปรับเปลี่ยนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐาน กลาโหม และความมั่นคง แหล่งข่าวคาดว่า จะมีการลงนามข้อตกลงกัน 7 ฉบับ และว่าประธานาธิบดีมาร์กอสจะเข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นในช่วงบ่ายวันนี้ ฟิลิปปินส์และญี่ปุ่นกำลังอยู่ระหว่างหารือข้อตกลงการเข้าถึงต่างตอบแทนหรืออาร์เอเอ (RAA) ที่จะเปิดทางให้แต่ละฝ่ายสามารถส่งทหารไปประจำการในดินแดนของอีกฝ่ายเพื่อฝึกอบรมและปฏิบัติการอื่น ๆ ญี่ปุ่นลงนามข้อตกลงลักษณะนี้กับอังกฤษและออสเตรเลียไปเมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็ดี นักวิชาการในฟิลิปปินส์คาดว่า ในการเยือนครั้งนี้ผู้นำฟิลิปปินส์และญี่ปุ่นจะยังไม่บรรลุข้อตกลงนี้ทันที แต่น่าจะเห็นพ้องกันเรื่องมาตรการเร่งการประจำการทหารเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ สาเหตุที่ไม่รีบร้อนเพราะตระหนักดีกว่า อาจทำให้จีนไม่พอใจจากการตั้งกลุ่มในเอเชียเพื่อปิดล้อมจีน ลักษณะคล้ายกับองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตแห่งเอเชีย.-สำนักข่าวไทย
ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ จะพิจารณาเรื่องระงับการใช้ข้อตกลงทางทหารปี 2561 ที่สร้างเขตกันชนทางทะเลกับเกาหลีเหนือ หากเกาหลีเหนือยังคงล่วงล้ำดินแดนของเกาหลีใต้อีก
บรัสเซลส์ 18 ธ.ค.- คณะผู้เจรจาของสหภาพยุโรปหรืออียู บรรลุข้อตกลงในช่วงเช้ามืดวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เรื่องการยกเครื่องตลาดการค้าคาร์บอนของอียู ซึ่งเป็นเครื่องมือดำเนินนโยบายหลักของอียูในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน สาธารณรัฐเช็กในฐานะประธานอียูและประธานคณะมนตรียุโรปวาระปัจจุบันแถลงว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยให้อียูบรรลุเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคส่วนหลักของเศรษฐกิจ และสร้างหลักประกันว่าประชาชนและผู้ประกอบรายย่อยที่เป็นกลุ่มเปราะบางที่สุดจะได้รับการสนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ แถลงการณ์ระบุว่า คณะผู้เจรจาถกเถียงกันนานกว่า 30 ชั่วโมงตั้งแต่วันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นจนสามารถตกลงกันว่า จะเพิ่มเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซในภาคเศรษฐกิจที่อยู่ภายใต้ระบบซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซยุโรปของอียู (EU ETS) เป็นร้อยละ 62 ภายในปี 2573 จากเดิมที่ตั้งเป้าลดลงร้อยละ 55 ภายในปี 2573 จากระดับการปล่อยในปี 2533 และจะตั้งกองทุนสภาพภูมิอากาศทางสังคมเพื่อช่วยให้ครัวเรือน ผู้ประกอบการรายย่อย และผู้ใช้บริการขนส่งสามารถรับมือกับผลกระทบด้านราคาที่จะเพิ่มขึ้นจากตลาดการค้าคาร์บอน ข้อตกลงเบื้องต้นนี้จะต้องได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากรัฐสภายุโรปและคณะมนตรียุโรปจึงจะมีผลบังคับใช้.-สำนักข่าวไทย