เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

จีนแสดงจุดยืนหนุนการปรองดองไทย-กัมพูชา

ปักกิ่ง 14 ส.ค. – นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าววันนี้ว่า จีนแสดงการสนับสนุนไทยและกัมพูชาในการแก้ไขข้อพิพาทชายแดน และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือตามความต้องการของทั้งสองประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์สองฉบับว่า นายหวัง กล่าวว่าจีนสนับสนุนให้ประเทศไทยและกัมพูชาเสริมสร้างการเจรจา และหวังว่าทั้งสองประเทศจะสามารถสร้างความไว้วางใจร่วมกันและฟื้นฟูมิตรภาพระหว่างกันได้ นายหวังได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชาแยกกันนอกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ที่มณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ไทยและกัมพูชามีข้อขัดแย้งเหนือดินแดนชายแดนมานานหลายทศวรรษ และตกอยู่ในสถานการณ์ขัดแย้งนับตั้งแต่ทหารกัมพูชาเสียชีวิตจากการปะทะกันในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม การปะทะดังกล่าวได้ทวีความรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต ซึ่งถือเป็นการปะทะกันที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ ก่อนที่จะมีการประกาศหยุดยิงในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม นายหวังยังได้กล่าวถึงความพร้อมของจีนในการเร่งการก่อสร้างรถไฟจีน-ไทย ส่งเสริมให้บริษัทจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และสร้างความมั่นใจในเสถียรภาพของห่วงโซ่การผลิตและอุปทานในภูมิภาค เขายังได้กล่าวกับนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยว่า หวังว่าประเทศไทยจะให้การสนับสนุนด้านนโยบายและอำนวยความสะดวกแก่บริษัทจีนมากขึ้น ส่วนในการประชุมกับนายปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา นายหวังได้แสดงการสนับสนุนกัมพูชาในการรักษาเสถียรภาพทางการเมือง และกล่าวว่าจีนชื่นชมการปราบปรามการพนันออนไลน์และอาชญากรรมทางโทรศัพท์ในประเทศ เขายังแสดงความหวังว่ากัมพูชาจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดต่อไป เพื่อร่วมมือกับภูมิภาคในการต่อต้านกิจกรรมอาชญากรรมข้ามพรมแดน.-813.-สำนักข่าวไทย

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

“มทภ.2” ยันเกษียณ 30 ก.ย.นี้ ขอบคุณเสียงเชียร์ต่ออายุ

สาธิตเกษตร 14 ส.ค.- “มทภ.2” ย้ำไร้ขัดแย้งรัฐบาล ต่างฝ่ายทำหน้าที่ ยันเกษียณ 30 ก.ย.นี้ ขอบคุณเสียงเชียร์ต่ออายุ แจงสร้างตาข่ายชายแดน ป้องกันโดรนสังหาร พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี กัมพูชา นำตาข่ายกั้นโดรนว่า ถือเป็นยุทธวิธีที่ต่างฝ่ายต่างดำเนินการเพราะเราไม่รู้ว่า โดรน จะมาจากทิศทางไหน ฝ่ายเราก็กั้นเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันโดนสังหาร โดยทางฝ่ายกัมพูชากั้นในที่ตั้งฐานของเขา ในส่วนของเราก็ดำเนินการ และต้องขอบคุณประชาชนที่เราตาข่ายมามอบให้ เพื่อป้องกันโดยสังหาร พลโทบุญสิน ยังระบุว่าแม้ปัจจุบันกองทัพภาคที่ 2 ไม่ได้โพสต์รับบริจาคแล้ว แต่หากประชาชน นำสิ่งของมาให้ก็พร้อมที่จะรับไว้ พร้อมยืนยันว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ไม่ได้โทรศัพท์มาหา และลวดหนามหีบเพลงกองทัพก็ได้ครบแล้วขณะที่รัฐบาลก็สนับสนุนให้ ยังเป็นที่รู้กันว่า การจัดซื้อหากรอระเบียบราชการ มีความล่าช้า และในการสู้รบที่ผ่านมาเราสามารถยึดพื้นที่ได้ 11จุด จึงมีความจำเป็นต้องใช้และลวดหนามหีบเพลง จำนวนมาก เพื่อลดการลาดตระเวน แต่บางจุดก็จำเป็นต้องลาดตระเวน ป้องกันทหารกัมพูชารุกคืบยึดพื้นที่คืน อาจใช้โดรน รถกวาดทุ่นระเบิด ทั้งนี้หากประชาชนยังสนับสนุน นำมาให้เราก็ยินดี เพียงแต่ไม่ได้โพสต์ […]

“มทภ.2” ลั่นไม่พร้อมเปิดด่านชายแดน เปรย “ปิดยันเกษียณฯ”

สาธิตเกษตร 14 ส.ค.- “มทภ.2” ลั่นไม่พร้อมเปิดด่านชายแดน เปรย “ปิดยันเกษียณฯ” เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ระดับภาค พร้อมระวัง ‘ทุ่นระเบิด’ ปรับแนวทางลาดตระเวน ใช้เครื่องมือพิเศษช่วย ลั่นไทยไม่ถอนกำลัง-อาวุธ ตรึงชายแดน ย้ำ ‘ปราสาทตาควาย’ เป็นของไทย ต้องหาวิธีนำกลับมา พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์กรณีประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) ระหว่างแม่ทัพภาคที่ 2 และ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหาร ฝ่ายกัมพูชา ว่า เขาตอบรับแล้วในช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ จะมีการประชุมฝ่ายเลขานุการ โดยก็จะมีการหารืออีกครั้งว่ามีประเด็นใดบ้าง สำหรับสถานที่หารือจะเป็นแนวเขตชายแดนฝั่งไทยเพื่อความสบายใจ 2 ฝ่าย ส่วนการประชุมอาร์บีซีจะมีการพูดคุยถึง 11 พื้นที่ที่ฝ่ายไทยควบคุมไว้หรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เราก็ควบคุมอยู่ ไม่ถอนทหาร และเราก็อยู่ตรงนั้น ถึงได้มีคำว่าลวดหนาม และใช้จำนวนมาก พร้อมกันนี้ พล.ท.บุญสิน ยันยืนว่าพื้นที่ปราสาทตาควายเป็นของไทยอยู่ แต่ก็ต้องหาวิธีนำกลับมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ทั้งทางระหว่างประเทศและภายในประเทศ […]

“สุรเดช” แนะรัฐยกเลิกข้อตกลง GBC หลังกัมพูชาละเมิดทำทหารไทยขาขาด

กทม.13 ส.ค.-“สุรเดช” แนะรัฐบาลยกเลิกข้อตกลงเวที GBC หลังเขมรละเมิดข้อตกลง ทำทหารไทยต้องขาขาดอีก บอกจากนี้ต้อง ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ ไล่บี้ ก.ต่างประเทศ ต้องแอ๊คชั่นฟ้องนานาประเทศให้เร็วกว่านี้ นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์กรณีมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดซ้ำอีกนายขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสูญเสียขา 1 นายว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความจริงใจของกัมพูชาไม่มีแล้ว เขาพยายามที่จะละเมิดข้อตกลงมาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้สิ่งที่เราไปตกลงมาในการประชุม GBC ก็ควรจะยกเลิก เพราะคุยมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ได้มีผลอะไรเลย และเรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศควรจะมีแอ็คชั่น โดยเร็ว ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศดำเนินการช้ามาโดยตลอด ดังนั้นต้องรีบแจ้งไปยังนานาประเทศโดยเร็วถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลงอีกแล้ว และถือว่าเรามีความชอบธรรมที่จะต้องปกป้องตัวเอง และปกป้องอธิปไตยของเรา ดังนั้นข้อตกลงต่างๆ ก็จะต้องยกเลิกไป เพราะกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ทางกองทัพประกาศรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงผ่านเพจกองทัพ นายสุรเดช กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่ากรณีดังกล่าว เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาล ล่าช้าและไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร ตนไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลต้องรอให้ทหารมาเปิดรับบริจาคเอง เพราะรัฐบาลมีงบฉุกเฉิน และสามารถอนุมัติได้อยู่แล้ว ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเพราะรัฐบาลล่าช้า ทางกองทัพก็เลยต้องมาขอรับบริจาค “ส่วนตัวคิดว่าการเจรจา เราต้องยกเลิกทั้งหมด ข้อตกลง 13 ข้อเราไม่ต้องคุยแล้ว ต่อไปนี้ต้องตาต่อตา […]

กต. จ่อเชิญทูต 50 ประเทศผู้บริจาคกรอบออตตาวาพิสูจน์ข้อเท็จจริงทุ่นระเบิด

กทม. 13 ส.ค.- ผู้ช่วย รมต.กต. เผยเตรียมเชิญทูต 50 ประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา ชี้แจง 15 ส.ค.นี้ ก่อนพาลงพื้นที่ 16 ส.ค. พิสูจน์ข้อเท็จจริง ชี้เหตุทุ่นระเบิดเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า สะท้อนกัมพูชาไม่จริงใจแก้ปัญหา ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ลั่น กต.จะดำเนินการทูตอย่างถึงที่สุด นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่พลกองร้อยทหารพรานรวม 7 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องจุบตะโมก ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประท้วงไปยังฝั่งกัมพูชา และเร่งดำเนินการประท้วงตามช่องทางทางการทูตที่เกี่ยวข้องแล้ว และในวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคมนี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะเชิญผู้แทนทางการทูตจากกว่า 50 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วยประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับฟังการบรรยายสรุปในเรื่องดังกล่าว จากนั้นในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะผู้แทนทางการทูตดังกล่าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้รับทราบข้อเท็จจริงจากผู้ปฏิบัติในพื้นที่โดยตรง ซึ่งที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ […]

“จิรายุ” เรียกร้องรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เร่งสอบกัมพูชาละเมิดข้อตกลง

ทำเนียบ 13 ส.ค.-รัฐบาล ระบุ “เพ็ญโบนา” โทรโข่งเขมรหลังออกแถลงการณ์ปฏิเสธแถว่ากับระเบิดไม่ใช่ของกัมพูชา ด้าน “จิรายุ” ย้อนถามเมื่อบอกว่าไม่ใช่ แล้วทำไมจึงไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิง 7 ส.ค. เรื่องข้อตกลงเก็บกวาดทุ่นระเบิด พร้อมเรียกร้องให้รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เร่งสอบเส้นทางการเงินผู้ซื้อและผู้ขาย รู้แน่เขมรมีกี่หมื่นลูก นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวถึงกรณีนายเพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา แถลงในวันนี้ (13 สิงหาคม 2568) ตอบโต้กรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยยังปฏิเสธหน้าตายว่า กัมพูชาไม่เคยมีและวางทุ่นระเบิดใหม่ และปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวาอย่างเคร่งครัด นั้น นายจิรายุ กล่าวว่า การที่รัฐบาลกัมพูชาออกมาโต้แย้งในประเด็นนี้ ก็ยิ่งทำให้เห็นถึงความไม่จริงใจและเป็นการโกหกรายวัน เพราะหากเป็นอย่างที่โฆษกรัฐบาลกัมพูชาพูดนั้น เหตุใดกัมพูชาจึงไม่รับข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่7สิงหาคม 2568 ประเทศมาเลเซีย ที่ไทยยื่นข้อเสนอสำคัญ 2 ข้อ คือ1.เรื่องการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ค้ามนุษย์ และข้อที่2.ให้มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพราะข้อที่ 2 นี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าขัดแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาพูดในวันนี้ อย่างสิ้นเชิงเพราะถ้าตนเองไม่ได้เป็นผู้วางกับระเบิด เหตุใดจึงไม่รับข้อตกลงนี้ นายจิรายุ กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ขอให้เปิดประชุมเร่งด่วนเพื่อพิจารณากรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลงสนธิสัญญาดังกล่าวในเรื่องของกับระเบิดบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียใดๆอีก […]

“มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็น เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 13 ส.ค.- “มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็นอ้างไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้ เชื่อยูเอ็นเข้าใจ เผยคุยมิตรประเทศ บอก พฤติกรรมเขมรวางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เร่งประชุมร่วมรัฐภาคี-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บหลักฐานให้คณะทำงานดูข้อมูลจริงจากพื้นที่ ขอช่วยผลักดันเขมรร่วมวงเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ทำตามอนุสัญญาออตตาวา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิงว่า เป็นการกล่าวอ้าง ซึ่งตนยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจน ของกัมพูชาว่าเราละเมิดตรงไหน ในขณะที่ทางกัมพูชาเองใช้วิธีที่ไม่จริงใจต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยั่วยุด้วยสงครามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ โอกาสในการมาฝังลูกระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยมีหลักฐานที่ชัดเจน ที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามความตกลงหยุดยิงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามการที่กัมพูชาส่งหนังสือไปถึงยูเอ็น ทางฝ่ายยูเอ็นก็ไม่ได้มีการเปิดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจง เลขาธิการสหประชาชาติไปในทุกโอกาส และทุกกรณีที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของอนุสัญญาออตตาวา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือผลักดันในเรื่องนี้ไปถึง ทูต ญี่ปุ่น ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานของรัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา 3 ฉบับและอีกหนึ่งฉบับก็กำลังจะส่งตามไป เพื่อกดดันหรือผลักดันให้รัฐภาคี ดำเนินตามมาตรการ อนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบขอข้อมูลหลักฐาน ที่ชัดเจนซึ่งตรงนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพได้ร่วมมือกันอย่างดี และสนับสนุน […]

“อนุดิษฐ์” จี้เร่งฟ้อง ICC เอาผิดกัมพูชาลอบวางระเบิด

กล้าธรรม 13 ส.ค.- “อนุดิษฐ์” จี้รัฐบาลเร่งฟ้อง ICC เอาผิด “กัมพูชา” ลอบวางระเบิดทำทหารไทยสูญเสียขาแล้ว 5 นาย มั่นใจละเมิดอนุสัญญาออตตาวาชัดเจน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม(กธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทำให้ตั้งแต่เดือน ก.ค.68 จนถึงวันนี้ ทหารไทยสูญเสียขาไปแล้วถึง 5 นาย ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างที่จะระบุได้ชัดเจน ว่า ประเทศไทยเราไม่ได้เป็นคนวางกับระเบิดไว้แน่นอน เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เห็นจะมีทหารเขมรไปเหยียบเลยสักคน โดยกัมพูชาจะดูตามพื้นที่ที่เราลาดตระเวน และอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีทหารปฏิบัติภารกิจ แอบเข้ามาวางกับระเบิดไว้ เลยทําให้ทหารไทยหยียบกับระเบิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “รัฐบาลต้องเร่งดําเนินการนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฟ้องร้องต่อนานาชาติ เพราะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนอนุสัญญาออตตาวาของฝ่ายกัมพูชาอย่างชัดเจน และสามารถที่จะเอาเรื่องดังกล่าวขึ้นสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ผมเชื่อว่า รัฐบาลและกองทัพคงจะมองประเด็นนี้อยู่ และก็ไม่น่าจะละเลย อย่างไรก็ตามควรสื่อสารกับพี่น้องประชาชนว่าอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากัมพูชาพยายามจะใช้โดรนมาเพื่อสกัดกั้นการวิ่งขึ้นของเครื่องบินเอฟ16 ในกรณีที่อาจจะมีการสู้รบกันในอนาคตนั้น น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ข้อมูลตรงนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะว่าความเร็วของเครื่องบินรบอย่างเอฟ 16 คงไม่มีใครสามารถบังคับให้โดรนมาเจอกันได้ทั้งตอนออกตัว หรือจะอยู่กลางอากาศก็ตาม […]

ทบ.โต้กลับกัมพูชา ย้ำหลักฐานชัด ทุ่น PMN-2 เพิ่งลักลอบติดตั้ง

13 ส.ค.- กองทัพบกโต้กัมพูชาปฏิเสธเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด ย้ำมีหลักฐานชัดเป็นทุ่น PMN-2 ที่เพิ่งลักลอบติดตั้ง เรียกร้องยุติการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง–อนุสัญญาออตตาวา จากกรณี พล.ท. มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงปฏิเสธเหตุการณ์ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิด เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 บริเวณปราสาทตาเมือนธม ซึ่งส่งผลให้กำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บสาหัส พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า “ฝ่ายไทยยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชายังคงมีทุ่นระเบิดอยู่ในครอบครองจำนวนมาก และได้ลักลอบนำมาวางในพื้นที่ต่าง ๆ ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อมุ่งทำร้ายฝ่ายไทย ทั้งที่กัมพูชาเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และได้ให้สัตยาบันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 แต่กลับนำมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบอย่างละเอียดของฝ่ายไทย พบว่าทุ่นระเบิดที่ใช้ในเหตุครั้งนี้เป็นชนิด PMN-2 ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่พบในหลายพื้นที่ที่กัมพูชาลักลอบติดตั้งเพื่อทำร้ายกำลังพลไทยมาโดยตลอด ข้ออ้างของกัมพูชาว่าพื้นที่ดังกล่าวยังคงมีวัตถุระเบิดตกค้างจากสงครามในอดีต เป็นเพียงการปฏิเสธที่ขาดน้ำหนัก เนื่องจากหลักฐานเชิงประจักษ์ในทุกจุดเกิดเหตุชี้ชัดว่า พื้นที่โดยรอบบริเวณที่เกิดการเหยียบทุ่นระเบิดจะพบการวางทุ่นระเบิด PMN-2 อีก 3–5 ลูก ในสภาพที่เพิ่งถูกติดตั้งใหม่อย่างชัดเจน ทั้งที่หากเป็นทุ่นเก่าจากสงครามในอดีต จะเป็นชนิดอื่น ไม่ใช่ทุ่นระเบิดแบบ PMN-2 ฝ่ายไทยจึงขอเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อสาธารณะ ทั้งที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้รับฟังข่าวสาร […]

กต.ประณามกัมพูชา “ไม่สุจริตใจ” ลอบใช้ทุ่นระเบิดเกิดเหตุซ้ำซาก

12 ส.ค.- กต.ออกแถลงการณ์ “รัฐบาลไทย” ประณามอย่างรุนแรงที่สุด “กัมพูชา” ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้ เกิดเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากพฤติกรรม “ไม่สุจริตใจ” ขัดกฎบัตรสหประชาชาติ-อนุสัญญาออตตาวา เรียกร้องยุติการกระทำทันที จ่อประท้วง “เลขายูเอ็น-ออตตาวา” พร้อมเรียกร้องผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวจากอาเซียน พิจารณาอย่างถี่ถ้วน กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ เรื่องการประท้วงต่อเหตุการณ์ครั้งที่ 4 ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

1 4 5 6 7 8 118
...