9 ทันโลก : อาชญากรสงครามกัมพูชา

29 ก.ค. – การที่กัมพูชาโจมตีไทย หลายครั้งเป็นที่ชัดเจนว่า เข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม รายงาน 9 ทันโลกวันนี้ พาไปติดตามที่มา ขอบเขตและขั้นตอนการดำเนินคดีกับอาชญากรสงคราม.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลไทยย้ำ ไม่มีทางที่จะใช้อาวุธชีวภาพในกัมพูชา

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาลไทยย้ำ ไม่มีทางที่จะใช้อาวุธชีวภาพในกัมพูชา เพราะเป็นการปะทะชายแดนเท่านั้น ชี้ข่าวจากเฟซบุ๊กปลอมเป็นความพยายามบิดเบือน สร้างความแตกแยกในภูมิภาค นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า จากกรณีสื่อมวลชนกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลโดยอ้างอิงจาก “เฟซบุ๊กแฟนเพจ” ซึ่งระบุว่าเป็นของกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และมีการกล่าวหาอย่างร้ายแรง ว่าไทยใช้อาวุธชีวภาพในการโจมตีในพื้นที่ชายแดนนั้น รัฐบาลขอปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวโดยสิ้นเชิง และคาดว่า เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นบัญชีปลอม และเป็นความพยายามอย่างชัดแจ้งในการบิดเบือนข้อเท็จจริง รัฐบาลยืนยันว่า การปฏิบัติการของกองทัพไทยอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention: CWC) และองค์การห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons: OPCW) ประเทศไทยไม่มีนโยบายหรือแนวปฏิบัติในการใช้หรือพัฒนาอาวุธชีวภาพหรืออาวุธต้องห้ามใดๆ ทั้งสิ้น การปะทะที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการป้องกันอธิปไตยตามแนวชายแดน มิใช่สงครามเต็มรูปแบบ และกองทัพไทยยังคงดำรงจริยธรรมทางการทหารอย่างสุภาพบุรุษเสมอมา ทั้งนี้ ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีสามารถตรวจจับสารพิษตกค้างหรือการใช้อาวุธต้องห้ามได้อย่างแม่นยำ ไม่สามารถปกปิดได้ในเวทีระหว่างประเทศ หากไทยใช้อาวุธชีวภาพจริง ย่อมมีการตรวจพบโดยองค์การสหประชาชาติและหน่วยงานด้านความมั่นคงทั่วโลกแล้ว รัฐบาลไทยขอเตือนประชาชนและสื่อมวลชนให้ใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการรับข้อมูลจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจที่ไม่มีการยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการ และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือบิดเบือนที่อาจบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมเน้นย้ำจุดยืนของไทยในการลดความตึงเครียดและผลักดันการเจรจาสันติภาพอย่างยั่งยืนในภูมิภาค.-314.-สำนักข่าวไทย

“มาริษ” ร่อนหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น”

ก.ต่างประเทศ 29 ก.ค.-“มาริษ” ส่งหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น” บอกต่อสายเพื่อนสนิทขอร่อนเอกสาร ยัน “กัมพูชา” ไม่จบ ยิงอีกรอบหลังจบเจรจา เปิดใจขอทุกคนไม่ต้องห่วง กต.ร่วมมือเต็มที่ปกป้องอธิปไตยไทยและบูรณภาพแห่งดินแดน ยัน “ไทย” เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ต้องกลัวสายตาโลก บอกนานาชาติชื่นชมพรึ่บ! นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยชี้แจงว่าหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างไทย-กัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงหลายกรอบความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นอนุสัญญาออตตาวา, อนุสัญญาเจนีวา, กฎหมายระหว่างประเทศ, การใช้ทุ่นระเบิดและการโจมตีพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ของประชาชน ซึ่งที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตนได้เข้าไปในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้พบผู้แทนระดับสูงของ UN และหลายประเทศ หารือในเรื่องที่เราดำเนินการแก้ไขทุกอย่างด้วยสันติวิธี และใช้ความอดทนอดกลั้นทั้งหมด ถึงแม้จะอดกลั้น แต่เราก็ยึดถือหลักสำคัญที่สุด คืออำนาจอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ เป็นอันดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน เราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศกฎหมาย, กฎบัตรสหประชาชาติ, กฎหมายอาเซียน, ความตกลงและความเป็นครอบครัวอาเซียนทุกประเทศ รวมทั้งประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ซึ่งก็พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นพยายามไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่อย่างไรก็ตาม เราถูกละเมิดอธิปไตย เราก็ต้องใช้สิทธิ์ตอบโต้ในสิ่งที่ประเทศไทยถูกละเมิดมาโดยตลอด นายมาริษ กล่าวว่า ภาพพจน์ของนานาประเทศที่ให้กับเรา ทำให้เราได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ คือความเป็นประเทศรักสงบ […]

ศบ.ทก. เรียกร้องกัมพูชาทำตามข้อตกลงหยุดยิงเคร่งครัด

ทำเนียบ 29 ก.ค.-ศบ.ทก. เรียกร้องกัมพูชาทำตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดและทันที พร้อมขอดูแลคนไทยในกัมพูชา เช่นเดียวกับไทยที่ดูแลคนกัมพูชา นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และโดยทันที และขอย้ำว่า การหยุดยิงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ในการดำเนินการขั้นต่อไปเพื่อนำไปสู่ สถานการณ์ที่ลดความตึงเครียดได้ ย้ำว่าฝ่ายไทยส่งทีมไปเจรจาเมื่อวานนี้ด้วยเจตนาย้ำจุดยืน ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางการรุกล้ำอธิปไตย การสูญเสียชีวิตทั้งทหารและพลเรือน ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เหตุการณ์กับระเบิดและการคุกคามยั่วยุต้องไม่เกิดขึ้นอีก และขอให้ฝ่ายกัมพูชาดูแลคนไทยในกัมพูชา ดังที่ประเทศไทยก็จะดูแลคนกัมพูชาในประเทศไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นการรักษาผลประโยชน์ของไทยต่อที่ประชุมเมื่อเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกัน ไทยยืนยันความพร้อมและความจริงใจในการหาทางออกร่วมกัน ในข้อยุติที่เห็นชอบกันทั้งสองฝ่าย เป็นความสำเร็จในขั้นต้นและเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ซึ่งจะนำมาซึ่งความสงบและปลอดภัยตามแนวชายแดน สำหรับกระทรวงการต่างประเทศ ขอย้ำจุดสำคัญในการเจรจาที่ได้มาซึ่งข้อตกลงหยุดยิง เป็นการรื้อฟื้น ให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาใช้กลไกการเจรจาทวิภาคี และเมื่อเช้าที่ผ่านมาเป็นที่น่ายินดีที่ได้มีการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการเกิดขึ้นแล้ว ระหว่างแม่ทัพภาคของทั้งสองฝ่าย และ จะมีการประชุม GBC ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ จากนั้น จะมีการประชุม JBC ในเดือนกันยายน จากนี้ไทยต้องการความสุจริตใจจากกัมพูชาในเรื่องของการโจมตีต่อพลเรือน ซึ่งการหยุดยิง จะต้องอยู่บนพื้นฐานกฎหมายระหว่างประเทศรวมถึงกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ในช่วงแรกของการปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิงมีความเปราะบาง สำหรับการหารือในรายละเอียดและขั้นตอนต่อไปในงานในพื้นที่จะติดตามและตรวจสอบการปฎิบัติเพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติต่อไป พร้อมขอขอบคุณประเทศต่างๆ […]

รัฐบาลแถลงยันกัมพูชาละเมิดข้อตกลง ยื่นประท้วง ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาลแถลงยืนยันไทยมีความจริงใจ-หยุดยิงตามข้อตกลง แต่กัมพูชากลับยิงใส่ทหารไทยหลายพื้นที่ จึงได้ประท้วงไปที่ ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน ขอประชาชนอย่าเพิ่งกลับบ้าน ให้รอผลยืนยันจากรัฐ พร้อมสดุดีวีรกรรมทหารกล้า ปกป้องอธิปไตยประเทศ-คุ้มครองประชาชน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี อ่านแถลงการณ์ความคืบหน้าการดำเนินการของรัฐบาลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลไทยมีความจริงใจ และใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะยุติสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเร็วที่สุด การเจรจาจนมีข้อตกลงหยุดยิงของทั้ง 2 ฝ่าย โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชน และยึดถืออำนาจอธิปไตยของประเทศเป็นสำคัญ รวมทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และทหารของชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความหวังร่วมกันของประชาคมโลกที่จะคืนสันติภาพแก่ประชาชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยเคารพต่อผลการหารือที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อหยุดยิงตามที่ได้แถลงร่วมกัน แต่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า กองกำลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยมีการใช้อาวุธยิงต่อกำลังฝ่ายไทยในหลายพื้นที่ ทำให้ทหารฝ่ายไทยต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาด และเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตยและชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ประท้วงไปยังประธานอาเซียน สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นสักขีพยานในการเจรจา เพื่อให้ได้รับทราบว่า การละเมิดข้อตกลงนี้เป็นเหตุจากการไม่ซื่อตรง และไม่จริงใจของกัมพูชาอย่างชัดเจน สถานการณ์ในขณะนี้ รัฐบาลมอบหมายให้ทุกเหล่าทัพตรึงกำลัง เพื่อรักษาอธิปไตย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ยินยอมให้อธิปไตยไทยถูกล่วงล้ำไม่ว่ากรณีใดๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงสายวันนี้ ได้มีการพูดคุยกันระหว่างแม่ทัพภาคของทั้ง 2 ประเทศ […]

Thai-Cambodia-Malaysia leaders holding hands

สื่อมาเลเซียเผยทั่วโลกยกย่องช่วยเจรจาไทย-กัมพูชา

กัวลาลัมเปอร์ 29 ก.ค.- สื่อทางการมาเลเซียรายงานว่า มาเลเซียได้รับการยกย่องและเป็นที่สนใจจากทั่วโลก กรณีเป็นคนกลางให้ไทยและกัมพูชาตกลงหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข เว็บไซต์สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซียรายงานวันนี้ว่า การที่นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมประสบความสำเร็จในการเป็นคนกลางให้เกิดการหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างไทยกับกัมพูชา ได้เรียกเสียงชื่นชมจากนานาชาติ และทำให้มาเลเซียอยู่ในความสนใจของประชาคมโลกด้วยเหตุผลที่ชอบแล้ว เบอร์นามาระบุว่า สื่อใหญ่ระดับโลกหลายแห่ง เช่น บีบีซีของอังกฤษ นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐ อัลจาซีราของกาตาร์ รอยเตอร์ของอังกฤษ เอพีของสหรัฐ และเอเอฟพีของฝรั่งเศส ล้วนรายงานข่าวอย่างให้ความสำคัญกับข้อตกลงสันติภาพที่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยที่เมืองปุตราจายาของมาเลเซีย หลังจากที่สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาดำเนินมาเป็นเวลา 5 วัน เบอร์นามาตั้งข้อสังเกตว่า แม้ว่ามีมหาอำนาจอย่างสหรัฐและจีนเข้ามาข้องเกี่ยว แต่บทบาทของมาเลเซียในฐานะประธานวาระปัจจุบันของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีความสำคัญในการป้องกันการเกิดวิกฤตมนุษยธรรมในวงกว้าง อันเกิดจากความขัดแย้งชายแดนที่เกิดขึ้นมายาวนานเป็นศตวรรษ และล่าสุดได้คร่าชีวิตผู้คนไม่กว่า 30 คน และมีผู้ต้องหนีภัยออกจากบ้านเรือนมากกว่า 300,000 คนภายในเวลาเพียง 5 วัน สื่อทางการมาเลเซียระบุด้วยว่า ความสำเร็จของนายกรัฐมนตรีอันวารได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวาง แม้แต่สหรัฐก็ยอมรับในความเป็นผู้นำของมาเลเซีย ด้วยการที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ขอบคุณ และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาเลเซียแสดงบทบาทสำคัญในการเจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระดับภูมิภาค ที่ผ่านมามาเลเซียเคยมีส่วนร่วมในความพยายามสร้างสันติภาพในจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซีย ภาคใต้ของไทย และภาคใต้ของฟิลิปปินส์.-814.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ อุบลฯ ฝากประชาชนในพื้นที่ตามข่าวสารจากแหล่งเชื่อถือได้

อุบลราชธานี 29 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 6 เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสียงปืนใหญ่สงบหลังเที่ยงคืน ประชาชนในศูนย์ผู้อพยพเริ่มคิดถึงบ้าน อยากให้เจรจาหาทางออกได้โดยเร็ว ด้านผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ยืนยันไม่เป็นความจริง กรณีมีกระแสข่าวเกิดเสียงปืนใหญ่ที่ช่องบก และโดรนไม่ทราบฝ่ายบินเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ช่วงเช้าที่ผ่านมา (29 ก.ค.) ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หลังจากเวลา 24.00 น. ไม่มีเสียงปืนใหญ่ดังในพื้นที่ บรรยากาศตลอดช่วงเช้ายังคงเงียบสงบ เนื่องจากทางอำเภอยังไม่ได้ให้ผู้อพยพเดินทางกลับเข้าพื้นที่ ยังคงให้ชุดผู้นำชุมชน รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น ประจำการในพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัย อีกทั้งยังต้องรอคำสั่งจากทางรัฐบาลและกองทัพเท่านั้น ส่วนที่ศูนย์อพยพแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ และทำตามระเบียบข้อปฏิบัติของศูนย์อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกไปข้างนอกที่จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจเช็กยอดประจำทุกวัน โดยตลอด 6 วันที่ผ่านมา ทางศูนย์จะอำนวยความสะดวก มีอาหารให้บริการครบ 3 มื้อ และมีบางส่วนเริ่มปรับตัวได้ เนื่องจากอยู่มาหลายวัน อีกทั้งยังคงติดตามข่าวสารการเจรจาของทหารในวันนี้ว่าจะจบลงอย่างไร เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน รวมถึงขาดรายได้ ขณะเดียวกันยังมีภาครัฐและเอกชน หลั่งไหลนำสิ่งของมามอบให้ผู้อพยพตามศูนย์ต่างๆ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ […]

“สรวงศ์” ชี้แบน “กัมพูชา” ร่วมซีเกมส์ ต้องใช้มติ คกก.

ทำเนียบ 29 ก.ค.-“สรวงศ์” ชี้การแบน “กัมพูชา” ไม่ให้ร่วมแข่งซีเกมส์ ต้องใช้มติคณะกรรมการซีเกมส์ที่จะมีการประชุม 21 ส.ค.นี้ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีการจัดการแข่งขันซีเกมส์ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ จะมีการบอยคอตเพื่อไม่ให้กัมพูชาเข้าร่วมการแข่งขันหรือไม่ ว่า ที่ได้รับทราบมาเป็นข้อท้วงติงจากประเทศสมาชิก โดยได้มีการพูดคุยกับนายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยและประธานมนตรีซีเกมส์ ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ และคงจะมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เมื่อถามย้ำว่า สามารถบอยคอตได้ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ทำไม่ได้โดยตัวอำนาจของประธานซีเกมส์ ส่วนคนที่แสดงความคิดเห็นมาในโซเชียลมิเดียตนก็เข้าใจ แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าทุกอย่างมีขั้นตอนในการทำงาน เราเองไม่มีอำนาจในการไปห้าม ซึ่งต้องเป็นมติของชาติสมาชิก เหมือนกับกรณีที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลแบนรัสเซียเหมือนช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ เมื่อถามย้ำว่า ต้องรอการหารือของชาติสมาชิกใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ใช่ ต้องพูดคุยในที่ประชุมคณะกรรมการซีเกมส์.-314.-สำนักข่าวไทย

ประณามกัมพูชาโจมตีสถานพยาบาล-ปชช.

รัฐสภา 29 ก.ค.- กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา ออกแถลงการณ์ภาษาไทยและอังกฤษ ประณามกัมพูชาโจมตีสถานพยาบาลและประชาชน วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ออกแถลงการณ์เรื่อง “ขอประณามการกระทำของรัฐบาลกัมพูชาต่อสถานพยาบาลและประชาชนผู้บริสุทธิ์” เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ระบุขอประณามอย่างรุนแรงต่อการเริ่มการปฏิบัติการทางทหารเต็มรูปแบบของรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 โดยมีการโจมตีสถานพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสุรินทร์ โรงพยาบาลกันทรลักษ์ และ รพ.สต. จำนวน 3 แห่ง ในเขตขายแดน ส่งผลให้ประชาชนพลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวาซึ่งย้ำว่า การโจมตีสถานพยาบาลและทีมแพทย์เป็นการข้ามเส้นความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง และละเมิดหลักจริยธรรมสากล เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดนต้องปิดบริการอย่างน้อย 19 แห่ง และลดบริการฉุกเฉินอีก 10 แห่ง มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมากกว่า 580 คน และเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวกว่า 300 แห่ง เพื่อรองรับประชาชนกว่า 93,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก […]

ชายแดน อ.พนมดงรัก ยังไม่น่าวางใจ กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

สุรินทร์ 29 ก.ค. – ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ยังไม่น่าไว้วางใจ กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ได้ยินเสียงระเบิดช่วงเช้ามืดใกล้ปราสาทตาควาย ทหารปิดพื้นที่บางหมู่บ้าน ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องผ่านเข้าไป โดยเฉพาะใกล้กับปราสาทตาควาย พร้อมเปิด 7 ข้อตกลง กองทัพภาคที่ 2 หารือกัมพูชา ในพื้นที่ช่องจอม จ.สุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 ข้อตกลง วงหารือ “กองทัพภาค 2 – กัมพูชา”

29 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 หารือผู้บัญชาการทางทหารฝ่ายกัมพูชา ก่อนได้ข้อสรุปตกลงร่วมกัน 7 ข้อ พลตรี กิติศักดิ์ ถาวร โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 ได้พบปะกับผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ในพื้นที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ โดยได้หารือและมีข้อตกลงร่วมกัน 7 ข้อ ประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม การหารือดังกล่าวใช้เวลาเพียงไม่นาน ก่อนที่รถตู้ของผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ฝั่งไทย จะขับออกจากด่านช่องจอมไป -สำนักข่าวไทย

Trump's post on Thai-Cambodia agree on ceasefire

“ทรัมป์” ไฟเขียวเจรจาการค้าไทย -กัมพูชา

เอดินบะระ 29 ก.ค.- ผู้นำสหรัฐแสดงความยินดีที่ไทยและกัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิงทันที และได้สั่งการให้คณะเจรจาการค้าของสหรัฐเริ่มดำเนินการเจรจากับไทยและกัมพูชาอีกครั้ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ลงในทรูธโซเชียลขณะที่ยังอยู่ในสกอตแลนด์เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาได้สั่งการให้คณะเจรจาการค้าของสหรัฐกลับมาเจรจากับไทยและกัมพูชาได้อีกครั้ง  หลังจากที่ไทยและกัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกันได้เมื่อวานนี้ จากการเจรจากันที่มาเลเซียซึ่งมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีที่ขณะนี้ดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของอาเซียนเป็นเจ้าภาพและทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจา โดยมีทูตสหรัฐและจีนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย นายทรัมป์ระบุว่า ได้พูดคุยโทรศัพท์กับนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย และนายฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขอแจ้งว่าเขาได้สั่งการให้คณะเจรจาสหรัฐเริ่มการเจรจากับไทยและกัมพูชาอีกครั้ง ก่อนหน้านี้นายทรัมป์เคยขู่ไทยและกัมพูชาว่า จะไม่มีการเจรจาการค้าหากยังไม่หยุดยิง ขณะที่ไทยและกัมพูชาถูกสหรัฐตั้งกำแพงภาษีร้อยละ 36 เท่ากัน และสหรัฐยังเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของทั้งไทยและกัมพูชาด้วย นายทรัมป์ได้แสดงความยินดีกับทุกฝ่ายที่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้  นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า การยุติสงครามครั้งนี้สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้หลายพันคน ขณะนี้เขาได้ยุติสงครามไปแล้วหลายสงครามในเวลาเพียง 6 เดือน ซึ่งทำให้เขาภาคภูมิใจมากที่ได้เป็นประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ ด้านสื่อของกัมพูชารายงานว่า ในการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับฮุน มาเน็ตเมื่อคืนนี้  ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันถึงความจำเป็นที่จะต้องมีกลไกติดตามและตรวจสอบที่ชัดเจนเพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างครบถ้วนและยั่งยืน ซึ่งในประเด็นนี้ทรัมป์ยืนยันว่าสหรัฐจะเข้าร่วมในการติดตามการหยุดยิงและจะเดินหน้าทำงานต่อไปโดยใช้กลไกที่มาเลเซียจัดตั้งขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าการหยุดยิงจะประสบความสำเร็จ พร้อมกับแสดงความหวังว่าจะมีสันติภาพที่ยั่งยืนระหว่างไทยกับกัมพูชา.-816(814).-สำนักข่าวไทย

1 4 5 6 7 8 107
...