กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย

โฆษกรัฐบาล ยันภาพและคลิปรื้อถอนลวดหนาม-ปลดธงชาติไทย เป็นข่าวปลอม

ทำเนียบ 15 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล ยันภาพและคลิปรื้อถอนลวดหนาม-ปลดธงชาติไทย เป็นข่าวปลอม ชี้เขมรทำคอนเทนต์บนโซเชียลเบี่ยงเบนกระแสภายในประเทศ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ศบ.ทก. ได้รับรายงาน ข้อมูลจากสื่อออนไลน์ เรื่องทหารกัมพูชาปลดธงชาติและรื้อลวดหนามในพื้นที่จุ๊บตะโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกองทัพบกร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ปรากฏเหตุการณ์หรือการปฏิบัติใด ๆ ของทหารกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้าง รั้วลวดหนามที่กองทัพบกติดตั้ง อยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่มีความเสียหายใดๆ หากมีการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จริง จะต้องมีการเข้าดำเนินการตอบโต้จากฝ่ายไทย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย ภายใต้มาตรการรักษาความมั่นคงอย่างเข้มงวด อีกทั้งจากการตรวจสอบยังพบว่า เสาธงที่ปรากฏในภาพไม่ได้มีอยู่จริงในพื้นที่ที่กล่าวอ้าง “เรื่องนี้เป็นเฟคนิวส์ที่ทางกัมพูชาสร้างขึ้นเพื่อหลอกคนในประเทศตัวเองว่าสามารถยึดพื้นที่คืนจากประเทศไทยได้ พวกเขาพยายามบิดเบือนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ และลดกระแสกดดันจากสังคมภายในประเทศ จากการที่ฝ่ายไทยสามารถยึดพื้นที่จากทหารกัมพูชาได้จำนวน 11 พื้นที่ หลังการสู้รบที่ผ่านมา ขณะนี้ทางกัมพูชาออกข่าวปลอมมากมายออกมา ขอให้ประชาชนตรวจสอบที่มาที่ไปก่อน และให้รับฟังข้อมูลอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองทัพเท่านั้น” นายจิรายุ กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย

ภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์

กทม. 15 ส.ค.-“ทบ.-ทภ.2” ยืนยันภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์ คาดฝ่ายกัมพูชาทำคอนเทนต์สร้างกระแส ให้เห็นว่าไม่ยอมฝ่ายไทย เตรียมประท้วงขัดข้อตกลง “จีบีซี” แม่ทัพภาค 2 ยันทุกอย่างอยู่ที่เดิม เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีคลิปทหารกัมพูชาอ้างถึงการรื้อลวดหนามหีบเพลงใกล้ฐานปฏิบัติการซำแต ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า อาจจะเป็นการทำภาพวิดีโอ เพื่อนำเสนอให้คนกัมพูชาเห็นการปฏิบัติการตอบโต้ไทยตามแนวชายแดน แต่หลายอย่างไม่ได้ตรงกับพื้นที่จริง อาจจะเป็นเรื่องของการใช้กราฟิกในเรื่องของสีธง ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ตรงนั้น มุ่งหวังสร้างขวัญกำลังใจกับฝ่ายกัมพูชามากกว่า เพื่อแสดงท่าทีว่าได้ทำอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลวดหนาม หรือธง ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน เมื่อดูจากสภาพแวดล้อม ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการอ้างถึง “อาจจะมาทำเป็นลักษณะของการทำคอนเทนต์ ให้คนกัมพูชาเห็นว่ามีปฏิกิริยาที่ไม่เอารั้วลวดหนาม ไม่ใช่ภาพที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย ยืนยันไม่ใช่ภาพจริงที่เขาอ้างถึง ส่วนการละเมิดข้อตกลงจีบีซี ในเรื่องการบิดเบือนข่าวสารนั้น เราก็คงต้องประท้วงและแสดงให้เห็นว่าไม่ควรเกิดขึ้น” พล.ต.วินธัย ระบุ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพอ้างว่าเป็นการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จุ๊บตะโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ประจำปราสาทตาเมือนธม ยืนยันว่าไม่ปรากฏเหตุการณ์หรือการปฏิบัติใดๆ ของทหารกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้าง ทั้งนี้ […]

ไทยย้ำกัมพูชาละเมิดทุกกฎกติกา วางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

กระทรวงการต่างประเทศ 15 ส.ค.- กต. เชิญคณะทูตกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ชี้ “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ลอบวางทุ่นระเบิดสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า จงใจละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ขอผู้บริจาคสนับสนุนกัมพูชา ดำเนินทุกทางให้กัมพูชาหยุดวางทุ่นฯ อย่างไร้มนุษยธรรม พร้อมโชว์ทุ่นระเบิด PMN-2 ของกัมพูชา เก็บกู้ที่ช่องโดนเอาว์-กฤษณา และจุ๊บตาโมก กระทรวงการต่างประเทศ เชิญคณะทูตกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์การใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา โดยมีผู้เข้าร่วม 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ ในจำนวนนี้ยังมีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชาเข้าร่วมรับฟังด้วย โดยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดการบรรยายผ่านบันทึกวิดีทัศน์ เนื่องจากอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 และเข้าร่วมการหารือกับประเทศสมาชิก ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ […]

เปิดกำหนดการพาทูตลงพื้นที่ดูผลกระทบทุ่นระเบิดกัมพูชา

กระทรวงการต่างประเทศ 15 ส.ค.- ผู้ช่วย รมต.กต.เปิดกำหนดการพาทูต ภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ดูผลกระทบจากทุ่นระเบิดของกัมพูชา พรุ่งนี้ (16 ส.ค.) ย้ำ เสียใจกัมพูชาไม่ตอบรับเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบคอลเซ็นเตอร์ในวง GBC นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ บรรยายสรุปแก่คณะทูตกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เกี่ยวกับเหตุการณ์การใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ต่อเอกอัครราชทูต อุปทูตรักษาการชั่วคราว ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูต ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร และองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา โดยย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ไม่ใช่เพียงเพราะประเด็นด้านความมั่นคง แต่ยังเป็นประเด็นด้านมนุษยธรรมที่ต้องให้ความสำคัญและดำเนินการด้วยความเร่งด่วนที่สุด เพราะชายแดนไทย–กัมพูชา เป็นพื้นที่เดียวที่ยังคงได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดดังกล่าว และประเทศไทยได้ยื่นข้อเสนอให้กัมพูชาดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดน ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (Extraordinary General Border Committee หรือ GBC ไทย-กัมพูชา) สมัยวิสามัญ ระหว่างวันที่ 4–7 สิงหาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ แต่กัมพูชาไม่ได้ยอมรับต่อข้อเสนอดังกล่าว แม้จะมีผลลัพธ์เชิงบวกจาการประชุมดังกล่าวในการหยุดหยิงอย่างเคร่งครัด งดการเสริมกำลังและงดเว้นการกระทำใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ รวมถึงการปฏิบัติการทางทหารและการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือน ตลอดจนปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด แต่ประเทศไทยมีความเสียใจที่กัมพูชา […]

กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ก.ต่างประเทศ 15 ส.ค.-กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เผย 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดแล้ว 5 ครั้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเป็นทุ่นใหม่ ไม่ใช่มรดกสงคราม ย้ำไทยมุ่งใช้กลไกทวิภาคี แก้ปมชายแดน จี้หยุดบิดเบือนเฟกนิวส์ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังการบรรยายสรุปแก่คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านทุ่นระเบิดว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ (15 ส.ค.) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พหารไทยหลายท่านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน และเพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ โดยได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าร่วม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้กล่าวเปิดผ่านวิดีโอคลิป เนื่องจากขณะนี้ท่านติดการกิจอยู่ระหวางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่เมืองอันหนิง ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับจีน หลังจากนั้นเป็นการบรรยายของนายรัศม์ […]

กต.เชิญทูตออตตาวา รับฟังปมกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิด

15 ส.ค. – ก.ต่างประเทศ เชิญทูตออตตาวา รับฟังบรรยายสรุปปมกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิด โดยมีตัวแทนจาก 41 ประเทศเข้าร่วม ย้ำ 6 ประเด็น ให้กัมพูชาร่วมเก็บกู้ระเบิด-ใช้กลไกทวิภาคี รมว.ต่างประเทศ ชี้กัมพูชาจงใจละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ด้านแม่ทัพภาค 2 ยันเคลียร์พื้นที่ปลอดภัย พร้อมรับคณะทูตฯ .-สำนักข่าวไทย

ครอบครัวทหารพรานเหยียบระเบิดประณามเขมร

บุรีรัมย์ 15 ส.ค. – ครอบครัวทหารพรานชาวบุรีรัมย์ที่เหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวนปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ประณามกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา เผยอยากให้ทางการไทยมีมาตรการป้องกันทหารไทยไม่ให้บาดเจ็บล้มตายอีก ที่บ้านโคกไม้แดง ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ สิบเอก ธีรพล เพียขันที อายุ 47 ปี สังกัดทหารพรานจู่โจมที่ 2610 ที่เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนปราสาทตาเมือนธม ทำให้ขาซ้ายขาด ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล มีชาวบ้านมาให้กำลังใจครอบครัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนางสาคร อายุ 78 ปี แม่ของสิบเอก ธีรพล ที่เป็นห่วงสภาพจิตใจของลูกชาย เพราะต้องสูญเสียอวัยวะ แต่ด้วยร่างที่ไม่อำนวยจึงไม่สามารถเดินทางไปเยี่ยมลูกชาย ทำได้เพียงสอบถามอาการจากลูกสาวและลูกสะใภ้ที่ไปเยี่ยมเท่านั้น แม่ได้แต่ภาวนาให้ลูกปลอดภัย ตอนนี้อยากเห็นหน้าลูกชายมาก แม้ครอบครัวจะภูมิใจที่สิบเอก ธีรพล จะทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินอย่างชายชาติทหาร แต่เสียใจที่ต้องมาสูญเสียอวัยวะ เพราะการไม่รักษาสัจจะของกัมพูชา จึงอยากให้ทางการไทยมีมาตรการป้องกันไม่ให้ทหารไทยต้องบาดเจ็บและล้มตายอีก พร้อมประณามผู้นำและทหารกัมพูชาที่แอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด จนทำให้ทหารไทยที่ออกลาดตระเวนต้องบาดเจ็บหลายครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ไทยโต้กัมพูชา เรียกร้องหยุดละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-หยุดใช้ทุ่นระเบิด

กทม. 14 ส.ค.-ไทยโต้กัมพูชา เรียกร้องหยุดละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และหยุดใช้ทุ่นระเบิด พร้อมย้ำปฏิบัติต่อเชลยศึกตามหลักสากล จากกรณีมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เว็บไซต์ Fresh News รายงานว่า พลโท มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ออกมาแถลง เรียกร้องให้ไทยเคารพข้อตกลง 13 ข้อ และปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 คน ที่ถูกไทยควบคุมตัวอยู่นั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ฝ่ายไทยขอเรียกร้องกลับไปยังกัมพูชาให้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดด้วย โดยเฉพาะหยุดการใช้อาวุธทุ่นระเบิดสังหารบุคคลต่อฝ่ายไทย และหยุดการเผยแพร่ข่าวสารที่บิดเบือน รวมถึงหยุดการเพิ่มเติมกำลังทหารบริเวณแนวชายแดน ซึ่งขณะนี้ผ่านไปแล้ว 15 วันเช่นกัน ส่วนกรณีเรื่องการควบคุมเชลยศึก ฝ่ายกัมพูชาอาจไม่เข้าใจหลักปฏิบัติในระบบสากล ยืนยันว่าการปฏิบัติของฝ่ายไทยเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรมสากล อีกทั้งก่อนหน้านี้คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ได้เข้าเยี่ยมเชลยศึกทหารกัมพูชา 18 นาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีความน่ากังวลใด ๆ จึงขอเรียกร้องให้กัมพูชาเคารพข้อตกลงหยุดยิง และปฏิบัติตามแนวทางทั้ง 13 ข้อให้ครบถ้วน รวมทั้งยึดมั่นในหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา […]

กัมพูชาพาคณะผู้ตรวจการณ์ลงพื้นที่สระแก้ว กล่าวหาไทยปิดเส้นทาง

สระแก้ว 14 ส.ค.-กัมพูชาพาคณะผู้ตรวจการณ์ 7 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนสระแก้ว กล่าวหาฝ่ายไทยปิดเส้นทางหมู่บ้านในเขตแดนไทย ฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิง วันที่ 14 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อช่วงเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา กองทัพกัมพูชาได้จัดคณะลงพื้นที่พร้อมคณะผู้ตรวจการณ์ชั่วคราว (Initial Observation Team-IOT) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจาก 7 ประเทศสมาชิก ได้แก่ บรูไน, อินโดนีเซีย, ลาว, เมียนมา, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เดินทางไปยังพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในจังหวัดสระแก้ว เพื่อทำการตรวจสอบและประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในระยะหลัง เส้นทางการตรวจสอบ คณะได้ลงพื้นที่ 2 จุดหลัก คือ1.จุดผ่านแดนบ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว2.จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ทั้งสองจุดเป็นพื้นที่ติดแนวเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา และมีหลักเขตแดนปรากฏชัดเจน สิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาชี้ให้ดูกองทัพกัมพูชาได้นำคณะผู้ตรวจการณ์ไปดูยางรถยนต์เก่าและลวดหนามหีบเพลงที่ฝ่ายไทยติดตั้งไว้บริเวณแนวชายแดน โดยอ้างว่าเป็นการปิดกั้นเส้นทางเข้า-ออกของหมู่บ้านชาวกัมพูชาฝั่งตน ซึ่งพวกเขากล่าวหาว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศ ข้อเท็จจริงจากฝ่ายไทยแหล่งข่าวฝ่ายไทยยืนยันว่า พื้นที่ที่กัมพูชากล่าวถึงนั้นอยู่ในเขตแผ่นดินไทยตามหลักเขตแดนอย่างชัดเจน การวางยางรถยนต์และลวดหนามเป็นการปฏิบัติภายในอธิปไตยของไทย เพื่อรักษาความมั่นคงและควบคุมการเข้าออกพื้นที่ชายแดน ไม่ได้เป็นการละเมิดข้อตกลงใด […]

คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนลงพื้นที่กัมพูชา

พนมเปญ 14 ส.ค. – คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนในฝั่งกัมพูชาเป็นเวลา 3 วัน ขณะที่รัฐบาลกัมพูชายังคงเดินหน้ากล่าวหาว่าไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง วันนี้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของอาเซียน ซึ่งประกอบด้วยทูตทหารของ 7 ชาติอาเซียนนำโดยมาเลเซียได้เดินทางลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในฝั่งกัมพูชาเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 16 สิงหาคมเพื่อติดตามสถานการณ์หลังมีข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม และความตกลงจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา พื้นที่ที่คณะผู้สังเกตการณ์ลงไปสำรวจได้แก่จังหวัดพระตะบอง จังหวัดบันเตียเมียนเจย และจังหวัดพระวิหาร และในวันเดียวกันนี้นายเพ็ญ โบนา หัวหน้าทีมโฆษกรัฐบาลกัมพูชาแถลงว่าเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดจะไม่เกิดขึ้นถ้าฝ่ายไทยเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างครบถ้วนด้วยการคงกำลังทหารเอาไว้เท่าเดิมและยุติการเคลื่อนไหวของกำลังพลทั้งหมด รวมทั้งหยุดการลาดตระเวน นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่าไทยใช้เหตุการณ์เรื่องทุ่นระเบิดมาหลอกลวงประชาคมโลกเพื่อปกปิดเรื่องการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง หลังจากเมื่อวานนี้นายเพ็ญ โบนา บอกว่ากัมพูชากำลังดำเนินการเก็บกู้และทำลายทุ่นระเบิดซึ่งเป็นของเก่าตกค้างตั้งแต่สมัยสงครามในอดีต และไม่มีการฝังทุ่นระเบิดใหม่เพิ่มเติม.-816.-สำนักข่าวไทย

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

1 3 4 5 6 7 118
...