คณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อ ถึงอุบลฯ ลุยพิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดน

ทำเนียบ 1 ส.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยคณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เดินทางถึงอุบลราชธานี เตรียมลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อเวลา 09.25 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า คณะผู้แทนทางการทูต ผู้ช่วยทูตทหารจาก 23 ประเทศ พร้อมด้วยสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศรวมกว่า 100 คน ได้เดินทางถึงจังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมลงพื้นที่แนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา การเดินทางในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและ ความโปร่งใสของรัฐบาลไทย ที่พร้อมเปิดพื้นที่ให้คณะทูตต่างประเทศและสื่อมวลชนได้เห็น ข้อเท็จจริงด้วยตนเอง และรายงานต่อประชาคมโลกอย่างเป็นธรรม โดยไม่ปิดบังหรือบิดเบือน คณะทูตต่างประเทศที่ลงพื้นที่ในวันนี้ ประกอบด้วย เอกอัครราชทูต 3 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ญี่ปุ่น และเมียนมา อุปทูต 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สปป.ลาว และอินโดนีเซีย ผู้แทนทางการทูตระดับต่าง ๆ จาก 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ […]

สสจ.ศรีสะเกษ เผย รพ.สต. เสียหาย 3 แห่ง จากเหตุปะทะชายแดน

ศรีสะเกษ 1 ส.ค. – นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เผยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เสียหาย 3 แห่ง จากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้หากผู้บาดเจ็บฝั่งกัมพูชาขอมารักษาที่ไทย ต้องรอทหารยินยอม นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยถึงความเสียหายที่เกิดจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณแนวชายแดนเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ ว่าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในพื้นที่ได้รับความเสียหาย 3 แห่ง ได้แก่ รพ.สต.บ้านโคก ต.ทุ่งใหญ่, รพ.สต.คำโปรย ต.ละลาย ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ส่วน รพ.สต.ชำเม็ง ต.เสาธงชัย อยู่ภายใต้การดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั้ง 3 แห่ง พบความเสียหายที่โครงสร้างอาคาร ได้แก่ ฝ้าเพดาน กระจก หลอดไฟ และส่วนของบ้านพักเจ้าหน้าที่บางส่วน โดยประเมินค่าความเสียหายเบื้องต้น รพ.สต.ชำเม็ง อยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท, รพ.สต.คำโปรย อยู่ที่ประมาณ 500,000 บาท ส่วน รพ.สต.บ้านโคก ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม ขณะที่ด้านการประสานงานจากฝั่งกัมพูชา […]

ส่งกลับวันนี้ 2 ทหารกัมพูชาบาดเจ็บ อีก 18 นายยังรอสอบสวน

ทำเนียบ 1 ส.ค.-รัฐบาลไทย เตรียมส่งตัวทหารกัมพูชาที่บาดเจ็บ 2 นาย กลับกัมพูชาวันนี้ ส่วนอีก 18 นาย ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบทางทหารและกฎหมายเข้าเมือง ย้ำ ชัดไทยดูแลตามหลักสากลและมนุษยธรรม ขอกัมพูชาหยุดบิดเบือน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตระเวนชายแดน และกองทัพภาคที่ 2 เตรียมส่งทหารกัมพูชาที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย กลับคืนสู่แผ่นดินกัมพูชา วันนี้ (1 ส.ค.) เวลา 10.30 น. ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ส่วนทหารกัมพูชาอีก 18 นาย ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ และจะดำเนินการนัดหมายการส่งตัวกลับประเทศกัมพูชาอีกครั้ง ทั้งนี้ ทหารกัมพูชาดังกล่าวเป็นทหารกัมพูชาที่รุกล้ำอธิปไตยของไทยในพื้นที่ช่องซำแต อ.กันทรลักษ์ จ. ศรีสะเกษ จำนวน 20 นาย ซึ่งไทยได้ควบคุมตัวไว้ โดยให้การดูแลตามหลักสากลและหลักมนุษยธรรม และจะส่งตัวทหารกัมพูชาที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน […]

Hybrid warfare (สงครามลูกผสม) ที่ “ไทยประมาทไม่ได้อีกต่อไป”

•เหตุผล? ที่ทำให้กัมพูชากล้าละเมิดข้อตกลงหยุดยิงกับไทย•ความสัมพันธ์ “กัมพูชา” กับ “จีน-สหรัฐฯ” ได้เปรียบกว่าไทย จริงหรือ ?•สงครามข้อมูลข่าวสาร ไทยแพ้? กัมพูชาชนะ? สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา นับตั้งแต่วันที่กัมพูชาเปิดฉากยิงกระสุนนัดแรกเข้ามายังฝั่งไทย เช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ก็เกิดการปะทะกัน สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตพลเรือนไทย ทหารไทย บ้านเรือน โรงพยาบาล โรงเรียนไทยจำนวนมาก นำมาซึ่งการเจรจาหยุดยิงถึง 2 ครั้ง 2 ระดับ แต่ก็ยังมีเสียงปืนและระเบิดจากฝั่งกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ท่ามกลางการเข้ามาของ 2 ประเทศมหาอำนาจ “จีน – สหรัฐฯ” ที่มีส่วนร่วมคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งทั้งไทย-กัมพูชา ในฐานะมิตรประเทศ แต่ก็มีความเคลื่อนไหวทางการทหารที่สำคัญระหว่างสหรัฐกับกัมพูชา เพื่อรื้อฟื้นการซ้อมรบประจำปีที่ระงับไปหลายปี นับเป็นความท้าทายที่ไทยในฐานะพันธมิตรชาติหนึ่งของสหรัฐต้องจับสัญญาณเรื่องนี้ให้ถูกต้อง รองศาสตราจารย์ ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายกสมาคมภูมิภาคศึกษา ประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ในบทสัมภาษณ์พิเศษกองบรรณาธิการข่าววิทยุ สำนักข่าวไทย ให้คำจำกัดความสถานการณ์เวลานี้ ว่า เป็น “ Hybrid […]

“มาริษ” ยันไทยไม่เสียเปรียบกัมพูชาในเวทีนานาชาติ

ก.ต่างประเทศ 31 ก.ค.-“มาริษ” ยันไทยไม่เสียเปรียบกัมพูชาในเวทีนานาชาติ และไม่ได้นิ่งนอนใจเฟคนิวส์ฝั่งกัมพูชา สั่งทูตเดินหน้าแจงทุกกรอบทุกเวที บอกนำทูตต่างประเทศลงดูพื้นที่ชายแดนช้า ห่วงความปลอดภัย ชี้ไปเร็ว ไม่ถือว่าชนะ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงยืนยัน จากสถานการณ์ปัญหาไทย-กัมพูชา ไทยไม่ได้เสียเปรียบ เพราะการชี้แจงอยู่ในกรอบของสหประชาชาติ เราได้ย้ำจุดยืนตั้งแต่ต้น ว่าเรายึดมั่นในสันติวิธีและกฎหมายระหว่างประเทศ กรอบกฎบัตรของอาเซียน แม้มีความพยายามนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC แต่ไม่ได้ออกข้อมติใดๆ และพูดว่าเป็นเรื่องของการเจรจาในระดับทวิภาคีไม่ต้องเอากลับมาในกรอบของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมทั้งการที่กัมพูชา พยายามพูดปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาในเวทีที่ปัญหาอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ก็ไม่ได้รับการบรรจุเรื่องนี้ในสเตทเมนท์ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าแม้มีความพยายามบิดเบือนจากกัมพูชาในเวทีต่างๆ แต่กระทรวงการต่างประเทศก็ไม่ได้อยู่นิ่ง เดินหน้ามาตรการทางการทูตโดยเร่งชี้แจงกับประเทศต่าง ๆ ทั้งกรอบทวิภาคี ภาคีในเวทีระหว่างประเทศทั้งหลาย ทั้งดำเนินการจากส่วนกลาง และการดำเนินการ ผานสถานทูตสถานกงสุญใหญ่ทั่วโลก ตั้งแต่เกิดกรณีการรุกราน เช่น ในเรื่องของ UNSC การวางทุ่นระเบิดสังหาร การโจมตีพลเรือน ในฝั่งไทย และประณามไปแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า เมื่อเช้าได้พบกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ซึนตนได้พูดให้เห็นถึงภาพต่าง ๆ ในการพบกันกับผูนำกัมพูชาที่มาเลเซีย และบอกว่าเราต้องการเห็นการหยุดยิงที่ไม่มีเงื่อนไข และหยุดยิง เด็ดขาดตามที่ตกลงกัน ซึ่งเรื่องนี้ต้องได้รับความจริงใจจากกัมพูชา […]

ทบ.แจงปม “ปราสาทตาควาย” ยึดไม่ได้ 100% เจอสนามทุ่นระเบิด BM-21 จ่อยิง

31 ก.ค.- ทบ.แจงปมทหารไทยยึด “ปราสาทตาควาย” ไม่ได้ 100% ไม่ใช่ตัวชี้วัดแพ้ชนะ แต่ได้พื้นที่มากกว่าก่อนปะทะ ลั่นยึดเนิน 350 จุดสูงข่มไม่ได้ เจอสนามทุ่นระเบิด BM-21 จ่อยิงหากเคลื่อนกำลังไปตัวปราสาทฯ ชี้ทีมโฆษก ทบ. ไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาลก่อนเจรจาหยุดยิงถึงสถานการณ์หน้างาน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่การปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดมีเพียงปราสาทตาควายที่เดียว มีข้อจำกัด หากจะพูดถึงการควบคุมพื้นที่ เราสามารถควบคุมได้ตามแผน ตามเป้าหมายทางการทหารที่ได้วางไว้ โดยพื้นที่ปราสาทตาควาย ถือเป็นความพยายามสุดท้ายของทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก่อนถึงเวลาหยุดยิง ยอมรับว่า ปัจจุบันเราไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ 100% เพียงแต่เราได้พื้นที่ควบคุมเพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะมีการปะทะ จะเห็นว่าปัจจุบันเราควบคุมพื้นที่ได้ด้วยการใช้อาวุธยิง ซึ่งลักษณะการวางกำลังบริเวณปราสาทตาควายจะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ที่เป็นจุดสำคัญทางการทหาร ไม่ใช่ตัวปราสาทตาควาย เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ แต่เดิมหากเราวางกำลังประจำอยู่ที่ปราสาทตาควาย จะเป็นความไม่ปลอดภัยในเรื่องของการใช้อาวุธจากฝ่ายตรงข้าม เราจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของการคุมพื้นที่ ห้วงสุดท้ายสำหรับการใช้กำลัง เราพยายามกระทำต่อเป้าหมายจุดสูงข่ม คือ เนิน 350 ซึ่งอาจจะมองว่าอยู่ในฝั่งของประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นจุดสำคัญที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติทางทหาร จึงเป็นความสำคัญสูงสุดที่เราจะต้องยึดที่หมายนี้ให้ได้ แต่เวลามีให้เราไม่เพียงพอ ซึ่งอย่างน้อยเราก็สามารถควบคุมพื้นที่ส่วนรวมด้วยอาวุธ ทั้งนี้ เนิน 350 เป็นพื้นที่วางกำลังของทหารกัมพูชา […]

ประธานมนตรีซีเกมส์ ยันแบนนักกีฬากัมพูชา ผิดกฎไอโอซี

31 ก.ค. – “บิ๊กแนต” ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ยืนยันการแบนนักกีฬาไม่ให้เดินทางมาแข่งขันซีเกมส์ ผิดกฎโอลิมปิกสากล และไทยเสี่ยงต่อการถูกแบนในมหกรรมกีฬาอื่นๆ เสียเอง นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และประธานมนตรีซีเกมส์ เปิดเผยกับทีมข่าวกีฬาสำนักข่าวไทยว่า จากกรณีกระแสข่าวไทยไม่สามารถแบนหรือบอยคอตทีมชาติกัมพูชา เพื่อไม่ให้เดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคมนี้ นายชัยภักดิ์ ยืนยันว่า ตนเองในฐานะคนไทย มีความรู้สึกบอบช้ำไม่น้อยกว่าคนไทยทุกคน และไม่มีความเอนเอียงไปทางกัมพูชา แต่ให้ความสำคัญกับการแยกบทบาทของบุคลากรกีฬาออกจากการเมืองอย่างสิ้นเชิง พร้อมเน้นถึงกฎบัตรโอลิมปิกสากลว่าประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพไม่สามารถกีดกันหรือห้ามชาติสมาชิกเข้าร่วมการแข่งขันได้ เพราะหากมีการละเมิดกฎดังกล่าวจะมีผลเสียต่อไทยเป็นอย่างมาก เช่น การถูกประณามในเวทีนานาชาติ และการห้ามส่งนักกีฬาไทยเข้าร่วมกันแข่งขันในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งสิ่งที่ไทยทำได้ หากกัมพูชายืนยันจะส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน คือการสื่อสารอย่างเป็นทางการ ถึงความห่วงใยกับความเหมาะสมในการเดินทางมา ท่ามกลางสถานการณ์ความเปราะบางทางอารมณ์ของคนทั้ง 2 ชาติ นอกจากนี้ นายชัยภักดิ์ยังยกกรณีตัวอย่างถึงการจัดการแข่งขันโอลิมปิก ท่ามกลางวิกฤติของสงครามรัสเซียกับยูเครน โดยเจ้าภาพสามารถขอมติจากประเทศสมาชิกทำการแบนประเทศคู่ขัดแย้งได้ แต่ยืนยันว่าไม่สามารถแบนนักกีฬาไม่ให้ลงทำการแข่งขันได้.-สำนักข่าวไทย

ทบ.พาผู้ช่วยทูตทหารลงชายแดน เน้นสื่อสารข้อมูลเชิงคุณภาพ

กองทัพบก 31 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยทูตทหารและเอกอัครราชทูตหลายชาติ สนใจลงพื้นที่สำรวจความเสียหายชายแดนไทย มั่นใจแม้ไปหลังกัมพูชา แต่เกิดผลประจักษ์มากกว่า ว่าใครละเมิดข้อตกลงโจมตีพลเรือน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการพาผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่ชายแดน เพื่อดูความเสียหายที่เกิดขึ้น จากการกระทำของกัมพูชา ว่า ตอนนี้ยอดของผู้ช่วยทูตทหารยังไม่นิ่ง ซึ่งการพาผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่อยู่ในแผนของกองทัพบกอยู่แล้ว โดยจะดำเนินการด้วยความรอบคอบเพราะต้องการเน้นเรื่องคุณภาพในการสื่อสารและเชื่อว่ามีสื่อมวลชนต่างประเทศให้ความสนใจรวมทั้งตัวแทนจากต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทยซึ่งอยู่ในหน่วยงานราชการเช่นผู้ช่วยทูตทหารที่ให้ความสนใจ ช่วงนี้มีจำนวนมากกว่าจะนัดหมายได้อาจต้องใช้เวลาขอให้สื่อมวลชนอย่าพุ่งเป้าเรื่องความเร็วอย่างเดียว แต่เราเน้นองค์ประกอบของการสื่อสารได้จำนวนมาก โดยบุคคลที่กองทัพบกเชิญไปมีบทบาทในการสื่อสารข้อมูลเชิงคุณภาพที่เกี่ยวกับภาพลักษณ์ของประเทศไทย ทั้งข้อมูลทหารและรัฐบาล เพื่อให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง ไม่เหมือนกับที่กัมพูชาพยายามบิดเบือน โดยเราจะให้ข้อเท็จจริงที่กัมพูชาปฏิบัติกับพลเรือนไทย ซึ่งมีความเสียหายของโรงพยาบาลถึง 20 แห่ง ทั้งนี้ อาจจะพาไปได้ไม่ครบทุกจุด แต่จะมีการแบ่งกลุ่มการลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะไปทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล และดูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ดังนั้นในช่วงหนึ่งวันจะสื่อสารให้เห็นภาพรวม เพื่อให้เห็นข้อมูลในเชิงประจักษ์ ไม่ใช่การพูดลอยๆ สำหรับผู้นำคณะต่างประเทศลงพื้นที่นำโดย พลโท อานุภาพ ศิริมณฑล รองเสนาธิการทหารบก ทั้งนี้นอกจากผู้ช่วยทูตทหารแล้ว ยังมีเอกอัครราชทูต ซึ่งประสานผ่านทางกระทรวงต่างประเทศมา รวมถึงสำนักข่าวต่างประเทศที่อยู่ในไทยอย่างน้อย 10 สำนักขึ้นไป ส่วนกรณีที่กัมพูชานำคณะสื่อและผู้ช่วยทูตทหารต่างชาติ ลงพื้นที่ชายแดนตรงข้ามช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี […]

รัฐบาลยันยังไม่มีฝ่ายใดยึด “ปราสาทตาควาย”

ทำเนียบ 31 ก.ค.- “จิรายุ” โฆษกรัฐบาล ยันยังไม่มีฝ่ายใดยึดครอง “ปราสาทตาควาย” ทหารทั้งสองฝ่ายควบคุมพื้นที่คนละด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่ากองทัพบกแถลงกรณีกระแสข่าวว่าไทยสูญเสียการควบคุม “ปราสาทตาควาย” ให้แก่กัมพูชา ว่าไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันว่าทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชายังไม่มีฝ่ายใดยึดครองปราสาทดังกล่าวได้ เนื่องจากข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลอยู่ในขณะนี้ ทำให้ทหารของทั้งสองฝ่ายควบคุมพื้นที่คนละด้านของโบราณสถาน ซึ่งฝ่ายไทยยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงและเคารพกติกาสากลอย่างเคร่งครัด โดยไม่มีการดำเนินการทางทหารในพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรม ก่อนการประชุม ศบ.ทก. เวลา 09.20 น. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการ ศบ.ทก. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ย้ำถึงข่าวลือและข้อมูลบิดเบือนที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง ว่าเป็นเพียงกระแสที่พยายามปลุกปั่นความเข้าใจผิดในสังคม พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากกองทัพหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งจะเป็นแหล่งข่าวที่ถูกต้องและเป็นทางการ ล่าสุด กองทัพภาคที่ 2 ยังยึด “เนิน 350” บริเวณปราสาทตาควายไม่ได้ เหตุหยุดยิงก่อน แต่ทหารไทย – กัมพูชา วางกำลังประกบห่างตัวปราสาทฯ 50 เมตร ล่าสุดกองทัพภาคที่ 2 แถลง ว่า […]

ร้องทุกฝ่ายปฏิบัติตามกรอบความตกลงระหว่างประเทศเคร่งครัด

รัฐสภา 31 ก.ค.- กมธ.กฎหมาย ประณามการกระทำ ‘กัมพูชา’ ละเมิด ‘อนุสัญญาออตตาวา-เจนีวา-ธรรมนูญกรุงโรม’ พร้อมเรียกร้อง ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกรอบความตกลงระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ย้ำ ความจำเป็น การเจรจา-ความโปร่งใส-กลไกความรับผิด เพื่อสร้างความสมานฉันท์-สันติภาพอย่างยั่งยืนในพื้นที่ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ แถลงแสดงความเสียใจต่อผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นอย่างยิ่ง และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทุกท่าน และขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่ทวีความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา คณะกรรมาธิการฯ ประณามการกระทำใด ๆ ที่คุกคามชีวิตของพลเรือนและละเมิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ คณะกรรมาธิการซึ่งมีหน้าที่ติดตามการปฏิบัติตามหลักนิติธรรม และพันธกรณีระหว่างประเทศของประเทศไทย เห็นสมควรบันทึกและตอบสนองต่อการละเมิดที่บั่นทอนสันติภาพ เสถียรภาพ และสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ทหารให้รับบาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบกับระเบิดในพื้นที่ห้วยบอน อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้กับระเบิด ซึ่งกัมพูชาเป็นประเทศภาคี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 อากาศยานไร้คนขับของกัมพูชาได้บินล้ำเข้ามาในน่านฟ้าไทยบริเวณปราสาทตาเมือน ก่อนที่เวลา 18.20 น. กำลังพลกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเจ้าใส่ฐานทหารไทย […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

1 2 3 4 5 107
...