เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

ทบ.แจงหลักฐานชัดทุ่น PMN-2 เป็นของใหม่ จี้เขมรหยุดปฏิเสธ

28 ส.ค.- ทบ.ชี้แจงหลักฐานวางทุ่น PMN-2 เป็นของใหม่ ไม่ใช่ตกค้างจากสงคราม จี้กัมพูชาเคารพกติกาสากล หยุดปฏิเสธ หลังพบคลิป-ภาพชัด มีการวางทุ่น PMN-2 จริง จากกรณีเมื่อ 27 ส.ค. 68 ที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกมาปฏิเสธต่อเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด โดยระบุว่า กัมพูชายืนยันว่าไม่ได้มีการใช้หรือวางทุ่นระเบิดใหม่ และยังคงปฏิบัติตามพันธกรณีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาตอบโต้ว่า บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา จะมีผู้เกี่ยวข้องอยู่เพียงสองฝ่ายคือไทยและกัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมา มีเพียงฝ่ายไทยที่เป็นผู้ประสบเหตุมาโดยตลอด ประกอบกับเมื่อวันที่ 4 ส.ค.68 จากการสถาปนาความมั่นคงโดยหน่วยทหารช่าง บริเวณพื้นที่ภูมะเขือมีการตรวจพบทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งที่เตรียมไว้รอนำไปติดตั้ง และที่ติดตั้งแล้ว บริเวณแนววางกำลังเดิมของฝ่ายกัมพูชาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 68 มีการตรวจพบทหารกัมพูชา 2–3 นาย แต่งกายในลักษณะหน่วย BHQ ปฏิบัติการดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตกของเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย จึงได้ยิงขับไล่ไป เมื่อเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ […]

“มาริษ” แจงนานาชาติ ปมกัมพูชาละเมิดข้อตกลง

เจนีวา 28 ส.ค. – “มาริษ” รมว.ต่างประเทศ เดินสายชี้แจงนานาชาติที่เจนีวา กรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง ยืนยันไทยปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หารือกับนางสาวอิชิกาวะ โทมิโกะ ประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา และนางสาวแคโรลีน-เมลานี เรกิมบัล หัวหน้าสำนักงานกิจการลดอาวุธแห่งสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา และรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้ทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชาที่เป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา จากนั้นนายมาริษได้เข้าร่วมหารือกับสมาชิกรัฐภาคีโดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมจาก 14 ประเทศ ซึ่งในกลุ่มนี้มีประเทศผู้บริจาคแก่กัมพูชาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้วย นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่าประเทศเหล่านี้สนใจมาร่วมรับฟังสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนได้แสดงหลักฐานต่างๆ ที่ไทยประสบปัญหาของการละเมิดข้อตกลงของกัมพูชา การละเมิดอำนาจอธิปไตย ที่กัมพูชาเข้ามาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุด มีทหารไทยเหยียบกับระเบิดสังหารบุคคล ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ซึ่งตนได้ใช้โอกาสนี้ยื่นประท้วงและเรียกร้องให้รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ร่วมกันเรียกร้องให้กัมพูชามาชี้แจงในสิ่งที่เกิดขึ้นตามบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ถือเป็นโอกาสดีที่ตนได้ยื่นหลักฐานและข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการตามกลไกอนุสัญญาออตตาวา ทั้งนี้ประเทศที่เป็นสมาชิกของรัฐภาคีได้พูดชัดเจนและขอบคุณประเทศไทยที่ใช้ความยับยั้งชั่งใจที่ไม่ละเมิดกฎหมายร่วมประเทศและชื่นชมว่าเราตอบโต้โดยใช้มาตรการที่เหมาะสมทุกอย่าง -สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : “โล่มนุษย์” พฤติกรรมต้องห้ามเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม

27 ส.ค. – กรณีที่บ้านหนองจาน ชัดเจนว่า กัมพูชาได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศตามที่มีหลักฐานประจักษ์มากมาย ถือว่าผิดกฎหมายข้อใดบ้าง ติดตามจากรายงาน 9 ทันโลก. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” จ่อคุยวงใหญ่รัฐภาคี “ออตตาวา” โน้มน้าวกัมพูชากู้ทุ่นระเบิด

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เดินสายพบข้าหลวงใหญ่ยูเอ็น เจนีวา รายงานข้อเท็จจริง “กัมพูชา” ละเมิดสิทธิมนุษยชน-สังหารพลเรือน-ใช้ข่าวปลอมสร้างโฆษณาชวนเชื่อ จ่อคุยวงใหญ่รัฐภาคี “ออตตาวา” ให้โน้มน้าวกัมพูชากลับมากู้ทุ่นระเบิด-หยุดละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือต่อ นางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริง ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้เคยยื่นหนังสือได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติจัดส่งข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชาในอาณาเขตของประเทศไทยไปแล้ว เป็นไปตามพันธะกรณีภายในอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลหรืออนุสัญญาออตตาวา ขณะที่การเข้าพบรองข้าหลวงใหญ่ฯ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในวันนี้ เป็นการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของไทยในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านช่องทางทางการทูตตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรของสหประชาชาติ โดยได้ยื่นหลักฐานทั้งเอกสารและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ทราบว่ามีการปฏิบัติการที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยไม่สามารถยอมรับได้ ทั้งการโจมตีแบบไม่เลือกเป้า การโจมตีในเขตพื้นที่พลเรือน การใช้ทุนระเบิดสังหารบุคคล และการใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ ซึ่งขัดต่อข้อตกลงระหว่างประเทศหลายฉบับ โอกาสนี้ รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยเดินทางมาด้วยตัวเอง ทำให้สามารถพูดคุยสอบถามได้โดยตรง และเป็นการแสดงความจริงใจและจริงจังในการแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนตลอดแนวพรมแดนระหว่างไทยกับประเทศกัมพูชา นอกจากนั้นยังมีหนังสือตอบกลับเพื่อเน้นย้ำความสำคัญเกี่ยวกับการใช้การสื่อสารในทางโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) เพื่อสร้างความขัดแย้งในหมู่ประชาชน ทำให้เกิดความแตกแยกปลุกปั่นให้เกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ […]

มทภ.2 ประณามกัมพูชา หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

กทม. 27 ส.ค.- มทภ.2 ประณามกัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-อนุสัญญาออตตาวาไม่หยุด หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดข้อเท้าขาด 1 นาย ชี้ทุ่นระเบิดมีโครงสร้างพลาสติก เครื่องตรวจหาไม่เจอ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและอนุสัญญาออตตาวา ต่อเนื่อง หลังวันนี้ เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เนิน 350 ปราสาทตาควาย เป็นพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาวางกำลังหนาแน่น และมีทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ โดยวันนี้ทหารไทยออกลาดตระเวน ซึ่งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดตรวจหาไม่เจอ เนื่องจากทุ่นระเบิดดังกล่าวโครงสร้างเป็นพลาสติก คาดเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ เบื้องต้นได้ทำหนังสือประท้วงไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว และเตรียมกำหนดแผนทางการทหารต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : เปิดโปงอีก กัมพูชา-แหล่ง Sextortion

25 ส.ค. – กัมพูชาถูกเปิดโปงอาชญากรรมอีกด้านที่ร้ายแรงมาก โดยมีบทวิเคราะห์ว่าเรื่องนี้เกี่ยวโยงกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐด้วย จะเป็นเพราะเหตุใด และเป็นอาชญากรรูปแบบไหน ติดตามได้ในรายงาน 9 ทันโลกวันนี้ .-สำนักข่าวไทย

“สงคราม” เตือน ฝ่ายค้าน ปั่นกระแสยกเลิก MOU 43-44 เข้าทางกัมพูชา

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.-“สงคราม” เตือน ฝ่ายค้าน ปั่นกระแสยกเลิก MOU 43-44 เข้าทางกัมพูชา ชี้หากไม่ประเมินผลกระทบรอบด้าน อาจทำให้ไทยสูญเสียกลไกบังคับคู่กรณีนั่งโต๊ะเจรจาแก้ปัญหาเขตแดน เหน็บ น่าประหลาดใจที่กลุ่มการเมืองรับลูก ยกเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถูกคนกลุ่มเดิมขวาง จนประเทศเสียโอกาส นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านแสดงความจำนงต้องการให้มีการยกเลิก MOU43 และ MOU44 ว่า น่าแปลกใจที่ในระยะหลังๆ พรรคฝ่ายค้านมีท่าทีที่ตรงกันกับแกนนำรัฐบาลกัมพูชาในหลายๆ เรื่อง แม้ที่ผ่านมากลุ่มนักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พยายามเตือนแล้วว่าการยกเลิก MOU43 และ MOU44 อาจทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบในหลายมิติและจะสร้างปัญหาในอนาคต แต่พรรคฝ่ายค้านทั้งพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน ต่างออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องในการให้ยกเลิก MOU ทั้งสองฉบับ จนน่าประหลาดใจที่กลุ่มการเมืองของไทยไปรับลูกในทิศทางที่ฝ่ายกัมพูชาที่ต้องการเพื่อประโยชน์ในการปักปันเขตแดนของกัมพูชา “ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทุกฝ่ายรับทราบกันดีว่า หลายประเทศทั่วโลกต่างก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับที่ไทยและกัมพูชา เพราะทุกฝ่ายถือแผนที่กันคนละฉบับ แต่ก็ยังพบว่าแผนที่ของแต่ละฝ่ายนั้นมีความเหลื่อมทับซ้อนกันอยู่ และสิ่งที่หลายประเทศทั่วโลกทำกัน คือการเจรจาในลักษณะทวิภาคีเหมือนกัน เพื่อเป็นกลไกในการปักปันเขตแดนร่วมกัน การยกเลิก MOU43-44 โดยไม่ประเมินผลกระทบเชิงระบบที่รอบด้าน อาจทำให้ประเทศไทยสูญเสียกลไกบังคับให้คู่กรณีต้องนั่งโต๊ะคุยกันในการแก้ปัญหาเขตแดน และนอกจากกับกัมพูชาแล้ว ที่ผ่านมาไทยเองก็ได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันนี้กับเมียนมา ลาว มาเลเซีย […]

จ่ายเงินเยียวยาประชาชน​อุบลฯ จังหวัดแรกวันพรุ่งนี้​

ทำเนียบ 25 ส.ค.- ศบ.ทก.เผย​สำนักปลัดฯ สำนักนายก​รัฐมนตรี​ เตรียมจ่ายเงินเยียวยาประชาชน​อุบลราชธานี​​ จังหวัดแรก พรุ่งนี้​ (26 ส.ค.) พร้อมขออภัยเงินเยียวยาล่าช้า ชี้กัมพูชา​ยังละเมิดข้อตกลงหยุดยิงต่อเนื่อง​ หลังพบลอบวางทุ่นระเบิด กองทัพไทย-รัฐบาลพร้อมดูแลความมั่นคงของชาติ ยืนเคียงข้างประชาชนทุกสถานการณ์​ ขณะที่ “มาริษ” เดินหน้าฟ้องประชาคมโลก พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม​ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และ น.อ.กฤษณัส กาญจนกุล ผู้ช่วยเลขานุการ คณะทำงานบูรณาการระบบอากาศยานไร้คนขับ และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับกองทัพอากาศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ โดยพลเรือตรีสุร​สันต์ กล่าวว่า​ สถานการณ์บริเวณชายแดนในช่วงที่ผ่านมาถือว่าทั้งสองฝ่ายยังตรึงกำลังในฐานที่ตั้ง ไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวของกำลังที่สำคัญ ในช่วงเวลาดังกล่าวมีการตรวจพบการลักลอบวางทุ่นระเบิดของทหารหน่วย BHQ​ ของกัมพูชา ในพื้นที่อธิปไตยของไทย แม้ว่าฝ่ายไทยจะได้ผลักดันกลับไปแล้ว​ แต่ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าทางฝ่ายกัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของ GBC อย่างต่อเนื่อง​ โดยฝ่ายไทยยังคงดำรงการเข้าตรวจและระวังป้องกันกำลังของฝ่ายไทยเช่นกัน ขณะเดียวกันในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) มีการจัดการประชุม RBC วาระ 1 โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และภูมิภาคทหารที่ […]

Hun Manet in Cambodia passing law to revoke citizenship of people convicted of treason

กัมพูชาผ่าน กม.ถอนสัญชาติ “คนขายชาติ”

พนมเปญ 25 ส.ค.- รัฐสภากัมพูชาผ่านร่างกฎหมายเพิกถอนสัญชาติผู้ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาขายชาติ เป็นกฎหมายที่กลุ่มสิทธิวิจารณ์ว่า จะเป็นการปิดปากชาวกัมพูชาอย่างเลวร้าย เอเอฟพีรายงานว่า กฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบในวันนี้ด้วยมติเอกฉันท์จากสมาชิกสมัชชาแห่งชาติหรือสภาผู้แทนราษฎรของกัมพูชาทั้งหมด 120 คนที่เข้าร่วมการลงมติ ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กฎหมายนี้จะให้อำนาจทางการเพิกถอนสัญชาติกัมพูชาของพลเรือนที่กระทำการคบคิดกับต่างชาติ อันนำมาซึ่งการทำลายอธิปไตย บูรณภาพทางดินแดน และความมั่นคงแห่งชาติ ขณะที่รอยเตอร์รายงานว่า กฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ 120 คน จากทั้งหมด 125 คน ข้อมูลตามวิกิพีเดียระบุว่า สมาชิกสมัชชาแห่งชาติกัมพูชาประกอบด้วยสมาชิกจากพรรคประชาชนกัมพูชาหรือซีพีพี (CPP) 120 คน และจากพรรคฟุนซินเปก 5 คน กฎหมายนี้จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา ก่อนที่ประมุขแห่งรัฐจะลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายในเดือนตุลาคม นายซอร์ ซกคา รัฐมนตรีมหาดไทยของกัมพูชาเรียกร้องก่อนการลงมติให้สมาชิกสมัชชาผ่านร่างกฎหมายนี้ โดยอ้างว่า กัมพูชากำลังเผชิญภัยคุกคามจากคนทรยศกลุ่มเล็ก ๆ ที่ทำงานตามคำสั่งของประเทศไทย ขณะที่นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและประธานพรรคซีพีพีกล่าวเมื่อปลายเดือนมิถุนายนว่า กัมพูชาจำเป็นต้องดำเนินการกับประชาชนที่เข้าข้างต่างชาติ พันธมิตรกลุ่มสิทธิ 50 กลุ่มออกแถลงการณ์เตือนเมื่อวานนี้ว่า กฎหมายนี้จะสร้างความหวาดกลัวอย่างเลวร้ายให้แก่เสรีภาพในการแสดงออกของพลเรือนชาวกัมพูชาทั้งมวล และเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับอย่างยิ่งที่จะปล่อยให้มีความเป็นไปได้ที่จะมีการนำกฎหมายข้อความกำกวมเช่นนี้มาใช้เล่นงานประชาชนด้วยสาเหตุทางชาติพันธุ์ การแสดงความเห็นทางการเมือง และการเคลื่อนไหว องค์การนิรโทษกรรมสากลวิพากษ์วิจารณ์เมื่อเดือนกรกฎาคมว่า เป็นการละเมิดกฎหมายสากลอย่างร้ายแรง และเกิดขึ้นในช่วงที่ทางการกัมพูชาล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการปกป้องความเป็นอิสระและความซื่อสัตย์ของระบบศาลในประเทศ กฎหมายนี้เอื้อให้รัฐบาลกัมพูชามีพฤติกรรมเผด็จการต่อไปโดยไร้การตรวจสอบ […]

1 2 3 4 5 120
...