Hun Sen presides over the inaugural joint Congress of the National Assembly and Senate

ฮุน เซน พูดเรื่องชายแดนต่อที่ประชุมร่วม 2 สภา

พนมเปญ 2 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาใช้โอกาสที่เป็นประธานเปิดการประชุมร่วมครั้งแรกระหว่างสมัชชาแห่งชาติและวุฒิสภาในวันนี้ แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุทหารกัมพูชาเสียชีวิตในเหตุยิงปะทะกับทหารไทยบริเวณชายแดนเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์รายงานว่า นายฮุน เซนประณามอย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้เร่งใช้ทุกวิถีทางปกป้องสิทธิและอธิปไตยของกัมพูชา เขากล่าวว่า หากแม้ไทยไม่เห็นด้วยที่จะนำเรื่องพื้นที่มอมเบ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาเมือนควายให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกตัดสิน กัมพูชาก็จะยังคงยื่นคำร้อง ควบคู่ไปกับการตอบโต้ในบางรูปแบบ ประธานวุฒิสภาหรือพฤฒสภาของกัมพูชายังได้เรียกร้องให้ทุกหน่วยงานและฝ่ายบริหารออกถ้อยแถลงแสดงความสนับสนุนแผนการของรัฐบาลที่จะนำประเด็นชายแดนเข้าสู่การตัดสินของศาลโลกในกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ เขาย้ำว่า พื้นที่พิพาทเป็นดินแดนของกัมพูชา และตั้งคำถามว่า เหตุใดไทยจึงเรียกร้องให้ถอนกำลังพลกัมพูชาออกจากดินแดนของกัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้.-814.-สำนักข่าวไทย

Chong Chom Customs House in Surin Province cr.Chong Chom Customs House

สื่อกัมพูชาเผยด่านในอุดรมีชัยเปิดตามปกติแล้ว

พนมเปญ 2 มิ.ย.-สื่อกัมพูชารายงานว่า จุดผ่านแดนกัมพูชา-ไทยในจังหวัดอุดรมีชัยหรืออุดรเมียนเจยได้เปิดทำการตามปกติแล้วตั้งแต่เช้าวันที่ 1 มิถุนายน ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเดินทางเข้าออกและแลกเปลี่ยนสินค้าได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า จังหวัดอุดรเมียนเจย ที่อยู่ทางตอนเหนือของกัมพูชา มีจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด 3 ด่านประกอบด้วย 1.ช่องจวม อำเภออัลลองเวงที่เชื่อมกับช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ 2.โอร์เสม็ด อำเภอสำโรงที่เชื่อมกับช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ และ 3.ช่องจุ๊บโกกี อำเภอบันเตียอ็อมบึลที่เชื่อมกับช่องสายตะกู อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ รายงานอ้างการเปิดเผยของผู้อำนวยการด่านช่องจวมว่า จุดผ่านแดนแห่งนี้เปิดทำการตามปกติ ไม่ได้ปิดตามที่มีข่าวลือ โดยเปิดให้ประชาชนสัญจรข้ามแดนได้ทุกวัน ส่วนการแลกเปลี่ยนสินค้ามีเฉพาะวันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์.-814.-สำนักข่าวไทย  

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

ทบ.โต้โพสต์ ‘ฮุน เซน’ อ้างศาลาตรีมุข เป็นพื้นที่กัมพูชา

กองทัพบก 1 มิ.ย. – ทบ. โต้โพสต์ ‘ฮุน เซน’ อ้างศาลาตรีมุข เป็นพื้นที่กัมพูชา ชี้เป็นแค่การกล่าวอ้าง ไม่มีผลเขตแดนจริง มองเป็นเรื่องปกติ ‘ฝ่ายกัมพูชา’ อ้างสิทธิบางพื้นที่ชายแดน เหตุแต่ละฝ่ายยึดหลักฐานอ้างอิงต่างกัน ย้ำใช้กลไก JBC ระบุเขตแดน ตามกฎกติกา-ข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายกำหนดร่วมกัน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงสื่อมวลชนได้ถามกรณีสมเด็จฮุน เซน โพสต์ข้อความและภาพถ่ายที่ศาลาตรีมุข สามเหลี่ยมมรกต โดยอ้างอิงว่าเป็นพื้นที่ของกัมพูชา ว่าเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้างสิทธิในบางพื้นที่บริเวณชายแดน เนื่องจากแต่ละฝ่ายต่างยึดถือตามหลักฐานอ้างอิงที่แตกต่างกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างทราบดีว่าเป็นเพียงการกล่าวอ้างกันไปมาเท่านั้น และยังไม่มีผลต่อพื้นที่เขตแดนจริง ทั้งนี้ ตามข้อตกลง ผู้ที่สามารถระบุเขตแดนระหว่างประเทศคือ คณะกรรมาธิการปักปันเขตแดน (JBC) ดังนั้น ฝ่ายไทยจึงเน้นการอยู่ร่วมกันในพื้นที่ ภายใต้กฎกติกาและข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้กำหนดร่วมกันเป็นสำคัญ ยืนยันว่าในทุกเหตุการณ์ที่ทหารฝ่ายไทยได้แสดงออก ล้วนเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ตามหลักกติกาสากล และได้เตรียมความพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ ยังต้องรอฟังผลการหารือในระดับ JBC ต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 พักค้างให้กำลังใจทหารประจำฐาน ขอให้เชื่อมั่นเราทำถูกแล้ว

สุรินทร์ 1 มิ.ย.- เคียงบ่าเคียงไหล่! “มทภ.2” พักค้างให้กำลังใจทหารประจำฐาน ‘ปราสาทตาเมือนธม’ ย้ำอย่าได้ประมาทในการทำหน้าที่ ขอให้เชื่อมั่นเราทำถูกแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้ (31 มิ.ย.) ที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ กำลังพลกองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำฐานปฏิบัติการพร้อมมอบข้าวสาร อาหารแห้ง และให้โอวาทแก่กำลังพล โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) ร่วมภารกิจ และพักค้างคืนที่ฐานปราสาทตาเมืองธม แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารทุกนายว่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดียิ่ง ยืนยันว่าพวกเราทำถูกต้องแล้ว พร้อมทั้งขอให้ทหารทุกนายตระหนักเสมอว่าระดับผู้บัญชาการทุกระดับ คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ อย่าได้ประมาท พร้อมจะเกิดอะไรได้ทุกเวลา ขอให้ติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา.-313.-สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” เผยคุย “สมเด็จฮุนเซน” แล้ว เชื่อเคลียร์กันจบ

เนชั่น 30 พ.ค.-“ทักษิณ” เผยคุย “สมเด็จฮุนเซน” แล้ว ปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา เชื่อเคลียร์กันจบ เหตุผู้ใหญ่ 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดี วอนอย่าเติมเชื้อไฟ ขอเปลี่ยนจากยิงกันให้มาเตะตะกร้อแทน ชี้พื้นที่เป็น No man’s land ต้องไม่มีผู้ครอบครอง ลดเหตุกระทบกระทั่ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า คิดว่าน่าจะเคลียร์กันจบแล้ว เพราะผู้ใหญ่ทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีคุยกันรู้เรื่อง และทางทหารก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเรื่องดังกล่าวเป็นการกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ ของทหารชั้นผู้น้อย ซึ่งมีกติกาที่ว่า เขตแดนที่ไม่ชัดเจน ไม่มีการปักปัน ใครจะอ้างสิทธิ์อย่างไรก็ให้ถอยออกไปก่อน หรือเป็น No man’s land ไม่มีผู้ที่ครอบครองหรือใช้สิทธิ์ ซึ่งก็จะไม่เกิดเหตุกระทบกระทั่งกัน เพราะการปักปันแดนของแต่ละประเทศทั่วโลก บางครั้งต้องใช้เวลานานเป็น 1000 ปี พูดคุยกันไม่จบ และบริเวณดังกล่าวก็ไม่มีอะไรเป็นพื้นที่ป่า ส่วนได้มีการพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา และประธานองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา แล้วหรือไม่นั้น นายทักษิณระบุว่า ทั้ง 2 […]

ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาชายแดน

กองทัพบก 30 พ.ค.-ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาพิพาทชายแดน ยันทหาร 2 ฝ่ายถอนกำลังจากจุดปะทะช่องบกแล้ว วอนประชาชนรับฟังข้อมูลสื่อหลัก ขอเชื่อมั่นทหารปกป้องอธิปไตยทุกตารางนิ้ว กองทัพบก ออกหนังสือแถลงการณ์ผลการเจรจาระหว่าง ผบ.ทบ.ไทย – ผบ.ทบ.กัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ 1.ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ และเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของทั้งสองประเทศ ที่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการพูดคุยเจรจาด้วยสันติวิธีในการหาข้อตกลงร่วมกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการรุกรานอธิปไตยหรือการหยิบยกประเด็นข้อขัดแย้งในอธิปไตยของกัมพูชาโดยเด็ดขาด การเจรจาครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ 2.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทยและกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ โดยปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้ตกลงที่จะเคลื่อนออกจากพื้นที่ ถือเป็นการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นพ้องในการใช้กลไกคณะกรรมการร่วมมือรักษาความ สงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน หรือ Reqional Border Committee (RBC) เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่อาจค้างคา และส่งเสริมกลไก JBC ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น […]

นักวิชาการแนะเร่งเจรจากัมพูชา ด้วยท่าทีชัดเจน

29 พ.ค. – อ.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ มองท่าทีผู้นำระดับสูงกัมพูชาที่แสดงออกผ่านเฟซบุ๊ก เป็นลักษณะการเมืองสองหน้า แนะไทยต้องเร่งทำความเข้าใจภายในประเทศ และข้อยุติที่ตรงกันต่อ MOU 44 จากนั้นควรเร่งเจรจากัมพูชา ด้วยท่าทีที่ชัดเจนและเข้มแข็งของผู้นำ.-สำนักข่าวไทย

ผลเจรจา “ทบ.ไทย-กัมพูชา” ถอนกำลังจากพื้นที่ขัดแย้ง

กองทัพบก 29 พ.ค.- เผยผลการเจรจา ผบ.ทบ.ไทย-กัมพูชา สามารถบรรลุข้อตกลงในการถอนกำลังออกจากพื้นที่ขัดแย้ง พร้อมใช้กลไก JBC ในระดับรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาในพื้นที่ชายแดน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันนี้ (29 พฤษภาคม 2568) เวลา 15.30 น. พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ เดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อพบปะหารือกับ พลเอก เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะฝ่ายกัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน ซึ่งในวันนี้เป็นการพบปะเจรจาต่อเนื่อง หลังจากที่ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชาได้พูดคุยผ่านทางระบบ VTC เมื่อวานนี้ (28 พ.ค. 68) โดยผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ และเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ ที่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการพูดคุยเจรจาด้วยสันติวิธี ในการหาข้อตกลงร่วมกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการรุกรานอธิปไตย หรือการหยิบยกประเด็นข้อขัดแย้งในอธิปไตยของกัมพูชาโดยเด็ดขาด การเจรจาครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ ส่วนกรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทยและกัมพูชา […]

Around 30 'Japanese' reportedly detained in Cambodia over scam allegations

กัมพูชารวบสแกมเมอร์ในปอยเปต

โตเกียว 29 พ.ค. – กัมพูชากวาดล้างแก๊งหลอกลวงออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ ในเมืองปอยเปต ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ และควบคุมตัวชาวญี่ปุ่นได้จำนวนหนึ่ง นายโยชิมาสะ มายาชิ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวตามปกติในวันนี้ว่า ทางการกัมพูชาได้แจ้งว่า ได้ควบคุมตัวคนสัญชาติญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งในระหว่างการกวาดล้างแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังตรวจสอบในรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ที่ถูกควบคุมตัว และจะดำเนินการอย่างเหมาะสมร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกัมพูชา เว็บไซต์บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค (NHK) รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า การจับกุมมีขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตำรวจได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นอาคารหลังหนึ่งในเมืองปอยเปต หลังได้รับเบาะแสว่าอาคารดังกล่าวถูกใช้เป็นที่ปฏิบัติการของแก๊งมิจฉาชีพ ในจำนวนผู้ที่ถูกจับกุมเป็นชาวญี่ปุ่นราว 30 คน  ทั้งหมดถูกส่งตัวไปยังกรุงพนมเปญแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แหล่งข่าวระบุด้วยว่า อาคารหลังดังกล่าวมีกำแพงล้อมรอบและมีคนเฝ้าอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันคนภายนอกเข้าไปตรวจสอบและป้องกันคนด้านในหลบหนีออกมา เอ็นเอชเครายงานเสริมว่า นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติจำนวนมาก รวมทั้งชาวญี่ปุ่น ถูกล่อลวงไปทำงานกับแก๊งอาชญากรรมทางภาคตะวันออกของเมียนมาและถูกบังคับให้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Hun Manet

ผู้นำกัมพูชาส่งสารกรณีช่องบก

โตเกียว 29 พ.ค.- นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ได้โพสต์ข้อความถึงประชาชน กรณีการปะทะกันบริเวณพรมแดน โดยเรียกร้องให้อยู่ในความสงบ ไม่แตกตื่นและรับฟังข่าวสารที่ถูกต้อง นายฮุน มาเนต โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า แม้จะมีภารกิจในต่างประเทศ แต่ความรับผิดชอบต่อความมั่นคงของชาติและการบังคับบัญชากองทัพ รวมถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับการส่งกำลังทหาร ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา โดยได้รับรายงานอย่างต่อเนื่องถึงการติดต่อกับฝ่ายไทยเพื่อควบคุมไม่ให้สถานการณ์ลุกลาม เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่มีเจตนารุกราน แต่ก็สงวนสิทธิในการป้องกันการรุกราน นอกจากนั้นเขายังได้ร้องขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ไม่ตื่นตระหนกจากข้อมูลที่ไม่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องที่แพร่กระจายอยู่ และเรียกร้องไม่ให้ปัญหานี้ลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ โพสต์บนโซเชียลมีเดียแบบเต็มของนายฮุน มาเนต ระบุดังนี้ :  “ข่าวการยิงปะทะกันระหว่างทหารกัมพูชาและไทยบริเวณชายแดนบริเวณสามเหลี่ยมมรกตเมื่อวานนี้ รวมถึงการระดมกำลังทหารและอาวุธหนักไปยังชายแดนในช่วงที่นายกรัฐมนตรีไม่อยู่ในประเทศ ได้ก่อให้เกิดความกังวลในหมู่ประชาชน รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ชายแดนว่า สงครามจะปะทุหรือไม่ ใครจะเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ หรือสั่งเคลื่อนกำลังพลเมื่อนายกรัฐมนตรีอยู่ต่างประเทศ ผมขอรับรองให้ชาวกัมพูชามั่นใจว่า แม้ผมจะอยู่ที่ญี่ปุ่นและมีกำหนดการประชุมเต็มรูปแบบ แต่การบังคับบัญชาและลำดับชั้นของการปฏิบัติการทางทหารที่สำคัญ เช่น การเคลื่อนกำลังพล ยังคงอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของผมอย่างเต็มที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมได้รับรายงานความคืบหน้าทั้งหมดที่ชายแดนอย่างต่อเนื่องจากรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการกองทัพบก รวมถึงผลของการสื่อสารกันระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทย ที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการยกระดับความตึงเครียดและฟื้นคืนความสงบและความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ระหว่างกองกำลังแนวหน้าของเรา ยิ่งไปกว่านั้น การตัดสินใจสำคัญใด ๆ รวมทั้งการระดมกำลังทหารและอาวุธไปยังชายแดน ต้องได้รับการอนุมัติหรือคำสั่งโดยตรงจากผม ผมไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งด้วยอาวุธระหว่างกองกำลังทหารจากทั้งสองฝ่าย ที่จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศหรือประชาชนของเรา […]

Chong Bok map with black border

สมาคมสื่อไทย-กัมพูชาขอโซเชียลเช็คข่าวชายแดน

พนมเปญ 29 พ.ค. – สมาคมผู้สื่อข่าวกัมพูชา (The Club of Cambodia Journalists – CCJ) และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (Thai Journalists Association -TJA) เรียกร้องสื่อโซเชียลตรวจสอบแหล่งข่าวก่อนเผยแพร่เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา CCJ และ TJA ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมว่า จากการร่วมกันติดตามสถานการณ์พบว่า ในช่วงที่ผ่านมาการเผยแพร่ข่าวของสื่อบางประเภท โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ ต่างนำเสนอข้อมูล รวมไปถึงเผยแพร่เนื้อหาที่เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยไม่มีแหล่งข่าวอ้างอิงที่ถูกต้องชัดเจน การกระทำดังกล่าวส่งผลให้เกิดความสับสน และข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้รับการเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางในทั้งสองประเทศ สมาคมผู้สื่อข่าวกัมพูชา และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีความวิตกกังวลว่า การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารซึ่งไม่มีที่มาที่ไป อาจจะยิ่งเป็นการโหมกระพือข้อมูลผิด ๆ และทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกันมากขึ้น สมาคมผู้สื่อข่าวกัมพูชา และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จึงได้ประชุมกันเป็นการเร่งด่วนเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เพื่อหารือถึงการรายงานข่าวที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน โดยขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนของทั้ง 2 ประเทศ พึงใช้ความระมัดระวัง และงดเว้นการนำเสนอ ตีพิมพ์ หรือแพร่ภาพกระจายเสียงข้อมูลใด ๆ […]

1 2 3 4 5 6 76
...