วปอ. 19 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ซัดกัมพูชาไร้มารยาท หลังทหารป่วนคณะสังเกตการณ์ช่องอานม้า เผยถก RBC นำวาระจีนเสนอเป็นตัวกลางช่วยเจรจาเก็บกู้ทุ่นระเบิด หากกัมพูชาไม่ตอบรับจะฟ้องชาวโลก เห็นด้วยรัฐบาลฟ้อง “ฮุนเซน” ผิดอาชญากรสงคราม เตรียมรวบรวมหลักฐานส่งตำรวจ-อสส.
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีทหารกัมพูชายั่วยุ คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน ที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานีนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เป็นปกติของการปฎิบัติของทหารเขมร เป็นการประท้วงทางสัญลักษณ์ เพราะจุดนั้นเป็นพื้นที่ที่เราแย่งชิง และไทยยืนยันเป็นเส้นเขตแดนของไทย
ส่วนการกระทำที่เกิดขึ้นต่อหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ จะส่งผลอะไรหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 มองว่า เรื่องนี้ฝ่ายกัมพูชาจะเสียมากกว่า ไม่มีมารยาท
เมื่อถามว่า การประชุม RBC ครั้งนี้จะมีการพูดคุยพื้นที่ช่องอานม้า ที่กัมพูชารุกล้ำเข้ามาตั้งร้านค้าด้วยหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่าเ รื่องช่องอานม้าเป็นเรื่องเดิม ที่ต้องคุยในภาพรวมอยู่แล้วตลอดแนวชายแดน ถ้าเราควบคุมพื้นที่ตรงไหนก็ต้องอยู่ตรงนั้น และจะไม่ให้กัมพูชาเข้ามาใช้ประโยชน์อีก เพราะมันผิดหลักการ MOU เนื่องจากพื้นที่ที่อยู่ใกล้เส้นเขตแดน จะไม่ให้มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ เพราะการปักปันเขตแดนยังไม่แล้วเสร็จ
ส่วนไทยมีอำนาจในการหรือถอนสิ่งปลูกสร้างของกัมพูชาที่ช่องอานม้าหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เราพยายามให้ทางกัมพูชาเป็นฝ่ายรื้อออกไปเอง
ส่วนที่กัมพูชาพยายามแอบอ้างว่าสิ่งปลูกสร้างตรงนั้น เป็นบ้านเรือนของชาวกัมพูชา แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า กัมพูชารุกล้ำมานานแล้ว เป็นสิ่งที่ไทยประสงค์ให้เขาออกไปเช่นกัน
เมื่อถามว่าการเกิดเหตุแบบนี้จะส่งผลต่อการประชุม RBC หรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า คงไม่ เป็นเรื่องปกติที่เข้าใจกันได้ โดยการประชุม RBC จะประชุมตามกรอบที่หน่วยเหนือกำหนดให้ ซึ่งแม่ทัพของทั้งทั้ง 2 ประเทศจะคุยกัน
ส่วนผลการหารือ RBC ในพื้นที่ของกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ที่ทางกัมพูชาไม่ตอบรับการจัดการทุ่นระเบิด คิดว่าในส่วนของการพูดคุยของกองทัพภาคที่ 2 จะเป็นลักษณะใด พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เห็นว่าทางประเทศจีนจะเข้ามาเป็นตัวกลาง ขอความร่วมมือทั้ง 2 ประเทศ ให้เก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่เราจะใส่ไปในการพูดคุย RBC
เมื่อถามว่าทางกัมพูชาจะยอมฟังประเทศจีนหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ถ้าไม่ฟัง ไทยก็จะชี้แจงให้ชาวโลกรู้ ว่าเขมรไม่ยอมรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด
ส่วนที่กัมพูชาออกมาระบุไทยพยายามจัดฉากเรื่องหุ้นระเบิด ทางกองทัพหลักฐาน ที่จะพิสูจน์เรื่องนี้หรือไม่ ว่าทุ่นระเบิดเป็นของกัมพูชา แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ก็เราไม่ได้ใช้ เพราะทุ่นระเบิดเป็นอาวุธที่ค่ายสังคมนิยมใช้ ซึ่งไม่มีใช้ในไทย และเราเคารพอนุสัญญาออตตาวาอยู่แล้ว เรื่องนี้เข้าใจอยู่แล้วว่าใครเป็นคนวาง เราเข้าใจบุคลิกของประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว
ส่วนการพูดคุย RBC ในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 จะมีข้อตกลงแตกต่างกันหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ก็คล้ายกัน เพราะเป็นแนวเส้นเขตแดนเดียวกัน มีพื้นที่ติดกัน ส่วนใหญ่ข้อหารือก็จะคล้ายกัน
”เรื่องทุ่นระเบิด เขาวางเอง เขาก็ปฏิเสธเองอยู่แล้ว คงไม่มีใครยอมรับ เรื่องนี้เราจึงพยายามเข้าสู่ที่ประชุม เพื่อให้เป็นไปตามหลักสากล จะได้เก็บกู้ร่วมกัน โดยองค์กรสากลที่เป็นกลาง”
เมื่อถามว่า การประชุม RBC จะยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา หรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า คงไม่ได้เอาเข้าที่ประชุม ถ้าสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายไปในทางที่ดี เราก็คงยังไม่มีการคุยกันเรื่องนี้
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับรั้วลวดหนามในขณะนี้ เราควรวางรั้วลวดหนามในบริเวณชายแดนยาวเลยหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ตนก็เห็นด้วย แต่ว่ารั้วที่วางระหว่างประเทศ หากจะให้เกิดความเรียบร้อย ทั้งสองฝ่ายต้องเข้าใจตรงกัน มิฉะนั้นหากฝ่ายหนึ่งวาง ฝ่ายหนึ่งรื้อ และฝ่ายหนึ่งประท้วง มันก็จะไม่จบ จะต้องมีการหารือในระดับรัฐบาล ว่าแนวเส้นเขตแดนที่เราตกลงกันได้ มีอยู่จุดใดบ้าง แล้วจึงดำเนินการ เช่นนั้นถึงจะเรียบร้อย
เมื่อถามว่า ฝ่ายกัมพูชามีการมาแอบรื้อบ้างหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ส่วนใหญ่จะเป็นการวางรั้วลวดหนามตามปกติ ในแนวทางป้องกันของฝ่ายทหารไทย ยังไม่มีการรื้ออะไรเกิดขึ้น
เมื่อถามว่า ที่แม่ทัพกล่าวว่าสถานการณ์ขณะนี้อาจจะมีการสู้รบกันใหม่เกิดขึ้นในความเป็นไปได้ 50:50 มีปัจจัยใดที่จะส่งผลให้เกิดการสู้รบขึ้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ปัจจัยหลักขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้นำกัมพูชา
เมื่อถามย้ำว่า ในวันนี้เขามีความพร้อมที่จะรบกับไทยแล้วหรือไม่ พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า “ถ้าเขาพร้อม เราพร้อมอยู่แล้ว”
เมื่อถามต่อว่า ปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เกิดการรบครั้งใหม่ อาจมาจากการที่ไทยเตรียมดำเนินการฟ้องร้องกัมพูชาในข้อหาอาชญากรสงคราม รวมทั้งกรณีที่สร้างความสูญเสียต่อพื้นที่พลเรือนของไทยหรือไม่ พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เป็นสิทธิของเราอยู่แล้ว และตนก็เห็นด้วยตามแนวทางปฏิบัติของทางรัฐบาล โดยให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการยื่นฟ้องในส่วนที่เกี่ยวข้องตามหลักสากล ยืนยันว่าต้องปฏิบัติ
ส่วนจะเป็นปัจจัยที่ทำให้การพูดคุยกันยากขึ้นหรือไม่นั้น มองว่า ในทางกลับกันทางกัมพูชาก็ยื่นฟ้องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในประเด็นพื้นที่พิพาท 4 แห่ง ดังนั้นไทยก็จะยื่นฟ้องในประเด็นนี้เช่นกัน เนื่องจากมีหลักฐานในทางกายภาพชัดเจน
เมื่อถามว่า ทางกองทัพจะส่งหลักฐานให้กับตำรวจภูธรภาคที่ 3 เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการสูงสุดพิจารณา เอาผิด 2 ผู้นำกัมพูชาด้วยหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า ใช่ และกองทัพภาคที่ 2 พร้อมสนับสนุนหลักฐานอยู่แล้ว เพื่อดำเนินการตามกระบวนการ เพื่อนำไปดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด
ส่วนกรณีทหารที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต กองทัพภาคที่ 2 จะเป็นผู้แทนในการดำเนินคดีฟ้องร้องให้ด้วยหรือไม่ พล.ท.บุญสิน บอกว่า จะดำเนินการในฝ่ายทหารที่เราทำได้ในกรอบของกฎหมาย เช่นการดูแลสิทธิต่างๆ ตามแนวทางเมื่อมีการปะทะกัน ระหว่างทหารทั้งสองประเทศ
ส่วนที่ปรากฏข่าวว่า กัมพูชาพยายามใช้มวลชนเป็นโล่มนุษย์ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เท่าที่ทราบคือ หมู่บ้านที่ทางกองกำลังกัมพูชาใช้เป็นฐานที่ตั้ง มีประชาชนอยู่อย่างหนาแน่น เขาก็อาจจะใช้มวลชนที่อยู่ในพื้นที่นั้นเข้ามาสร้างสถานการณ์ ซึ่งเชื่อว่าทางกองทัพภาคที่ 1 ก็คงจะมีวิธีในการรับมืออยู่แล้ว ส่วนพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 เราไม่ให้เข้าอยู่แล้ว แบบในพื้นที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี โดยยืนยันว่า ไม่มีการให้ประชาชนกัมพูชาล้ำเข้ามาในพื้นที่ชายแดนไทย -สำนักข่าวไทย