เบื้องหลังผลสำรวจรถ Tesla เสี่ยงอุบัติเหตุมากกว่ายี่ห้ออื่น

มีข้อมูลสร้างความกังวลให้กับผู้สนใจการขับขี่รถยนต์ BEV ยี่ห้อ Tesla เผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีรายงานพบว่าการขับขี่รถยนต์ Tesla ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากกว่าการขับรถยนต์ยี่ห้ออื่น ๆ


รายงานอุบัติเหตุจากรถยนต์ Tesla

ข้อมูลที่ถูกแชร์ตามสื่อต่าง ๆ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 นำมาจากการศึกษาโดย iSeeCars เว็บไซต์จำหน่ายรถยนต์มือสองที่พบว่า Tesla เป็นรถยนต์ยี่ห้อที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ตามมาด้วยรถยนต์จากค่าย Kia, Buick, Dodge และ Hyundai


อย่างไรก็ดี ผลสรุปดังกล่าวสร้างข้อโต้แย้งจากสื่อยานยนต์และ Fact Checker เนื่องจากปัญหาด้านความโปร่งใสของข้อมูลที่ใช้ในการคำนวณ

iSeeCars อธิบายว่า ข้อมูลดังกล่าวนำมาจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่รวบรวมโดยองค์กรบริหารความปลอดภัยบนท้องถนนของสหรัฐอเมริกา (NHTSA) นำมาเฉพาะรถยนต์รุ่นที่จัดจำหน่ายระหว่างปี 2018-2022 ที่เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย ในปี 2022

จากนั้นจึงนำข้อมูลระยะทางการขับรถยนต์มากกว่า 8 ล้านคันบนถนนในสหรัฐฯ ช่วงปี 2022 มาคำนวณกับยอดการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อหาสัดส่วนการเกิดอุบัติเหตุต่อระยะทางของรถยนต์แต่ละยี่ห้อ


ผลสรุปของ iSeeCars พบว่า Tesla เป็นรถยนต์ยี่ห้อที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด โดยทุก ๆ 1 พันล้านไมล์ รถยนต์ Tesla จะเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิต 5.6 ครั้ง

อย่างไรก็ดี ข้อมูลระยะทางรถยนต์ที่ iSeeCars ใช้คำนวณ เป็นข้อมูลที่ iSeeCars ประเมินขึ้นมาเอง และไม่เปิดให้สาธารณชนเข้าถึงข้อมูล จึงสร้างคำถามถึงความถูกต้องของสถิติที่ใช้คำนวณ

นอกจากนี้ เมื่อสื่อด้านยานยนต์นำข้อมูลระยะทางการขับของรถยนต์ที่ได้จากแหล่งอื่น ๆ มาคำนวณ กลับไม่พบว่ารถยนต์ Tesla มีสัดส่วนการเกิดอุบัติเหตุต่อระยะทางสูงสุดเหมือนที่ iSeeCars คำนวณ

ในขณะเดียวกัน เมื่อปี 2020 สถาบันประกันภัยเพื่อความปลอดภัยบนทางหลวงของสหรัฐฯ (IIHS) ได้เผยแพร่ 20 อันดับรถยนต์ที่นำไปสู่อุบัติเหตุที่ทำให้ผู้ขับขี่เสียชีวิต แต่ก็ไม่มีรถยนต์ Tesla ติดอันดับเลย

และปี 2024 IIHS ยังจัดให้ รถยนต์ Tesla รุ่น Model Y เป็นรถยนต์ที่มีความปลอดภัยแห่งปี

รายงานอุบัติเหตุจากผู้ขับรถยนต์ Tesla

รายงานจากสำนักข่าว Forbes เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พบว่าผู้ขับรถยนต์ Tesla มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุมากกว่าผู้ขับรถยนต์ยี่ห้ออื่น ๆ

ข้อมูลดังกล่าว นำมาจากการศึกษาโดย LendingTree บริษัทประกันภัยรถยนต์ ที่รวบรวมข้อมูลแบบสอบถามประกันภัยระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2024 ถึง 31 ธันวาคม 2024 จากผู้ใช้รถยนต์ 30 ยี่ห้อ

โดยพบว่า ผู้ขับรถยนต์ Tesla ทุก ๆ 1,000 ราย จะเกิดอุบัติเหตุ 26.67 ครั้ง ตามด้วย ผู้ขับรถยนต์ยี่ห้อ Ram และ Subaru ที่จะเกิดอุบัติเหตุ 23.15 ครั้ง และ 22.89 ครั้ง ตามลำดับ

แม้ข้อมูลดังกล่าว จะให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของผู้ขับมากกว่าความปลอดภัยของตัวรถยนต์ แต่มีการวิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ทำให้ผู้ขับรถยนต์ Tesla เกิดอุบัติเหตุบ่อย อาจมาจากความเชื่อมั่นเกินไปที่ผู้ขับมีต่อระบบช่วยเหลือการขับขี่ของ Tesla จนผู้ขับขาดความระมัดระวังจนนำไปสู่อุบัติเหตุ

หลังจาก Tesla เปิดตัวระบบ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือ Tesla Autopilot ในปี 2015 อุบัติเหตุจากการใช้ Tesla Autopilot ที่นำไปสู่การเสียชีวิตก็เกิดขึ้นหลังจากนั้นในเวลาไม่ถึง 1 ปี

การสอบสวนโดยองค์กรบริหารความปลอดภัยบนท้องถนนของสหรัฐอเมริกา (NHTSA) พบว่า อัตราการเสียชีวิตจากการใช้ Tesla Autopilot มีสัดส่วนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ สาเหตุมาจากระบบ ADAS มีข้อผิดพลาดในการตรวจจับรถยนต์คันอื่น ๆ บนถนน รวมถึงความละเลยของผู้ขับขณะใช้ Autopilot และปัญหาด้านการออกแบบ

ข้อมูลจนถึงเดือนตุลาคม 2024 มีรายงานอุบัติเหตุเล็กน้อยจากการใช้ระบบ Autopilot หลายร้อยครั้ง โดยอุบัติเหตุ 51 ครั้งนำไปสู่การเสียชีวิต ซึ่ง 44 ครั้งเกิดขณะที่ใช้ระบบ Full Self-Driving (FSD)

แม้ทาง Tesla จะแก้ปัญหาด้วยการเรียกคืนรถยนต์ Tesla ที่มีระบบ Autopilot และการอัพเดตซอฟต์แวร์ แต่อุบัติเหตุที่เกิดระหว่างการใช้ระบบ Autopilot ของ Tesla ก็ยังมีรายงานอย่างต่อเนื่อง

เดือนเมษายน 2024 เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ Tesla ชนกับรถยนต์ SUV กลางสี่แยกใกล้ ๆ กับเมืองลาสเวกัส โดยผู้ขับอ้างว่ารถยนตร์อยู่ในโหมด Full Self-Driving แต่รถกลับไม่ชะลอความเร็วเมื่อรถยนต์ SUV พุ่งเข้ามาจากมุมอับ

เดือนตุลาคม 2024 ผู้ขับรถยนต์ Tesla พุ่งชนรถตำรวจที่จอดระหว่างสอบสวนอุบัติเหตุบนถนน แม้จะมีการเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินและกั้นถนนแล้ว แต่ผู้ขับรถยนต์ Tesla ยอมรับว่ากำลังใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างที่รถยนต์อยู่ในโหมด Autopilot เช่นกัน

ก่อนหน้านี้มีคดีที่ยื่นฟ้อง Tesla โดยญาติของผู้ขับที่เสียชีวิตจากการใช้โหมด Autopilot ที่ศาลในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยอ้างว่าผู้ตายถูกโฆษณาเกินจริงของ Tesla ทำให้เชื่อว่าระบบ Autopilot และ Full Self-Driving มีความปลอดภัยเทียบเท่ากับการขับรถยนต์ด้วยตนเอง จนนำไปสู่ความสูญเสีย

https://www.snopes.com/news/2025/01/11/tesla-fatality-rates/
https://www.forbes.com/sites/stevebanker/2025/02/11/tesla-again-has-the-highest-accident-rate-of-any-auto-brand/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.ชี้แจงปมกัมพูชาประท้วงไทย ย้ำพื้นที่อยู่ในเขตไทย

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้แจงปมกัมพูชาประท้วงไทย ย้ำพื้นที่อยู่ในเขตไทย ไม่ใช่พื้นที่พิพาท กรณีกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ออกแถลงการณ์เมื่อ 20 ก.ย.68 ระบุว่า “กัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงและคัดค้านอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลไทย เกี่ยวกับเจตนาที่จะใช้กฎหมายภายในประเทศของไทยกับพลเมืองกัมพูชาในหมู่บ้านโจกเจย และหมู่บ้านไปรจัน ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย โดยมีรายละเอียดกล่าวหาฝ่ายไทยว่า ฝ่ายไทยอ้างสิทธิ์ใช้กฎหมายภายในประเทศกับพลเมืองกัมพูชาในพื้นที่พิพาท โดยการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวของไทยละเมิดพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติ (มาตรา 2(3) และ 2(4)) เป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ MOU 2000 ว่าด้วยการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบก ขัดต่ออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ขอเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรมที่บ่อนทำลายความพยายามลดความตึงเครียด ตามข้อตกลงหยุดยิง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงต่อกรณีนี้ว่า ฝ่ายไทยมีสิทธิและหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศกับบุคคลที่อยู่ในเขตดินแดนของไทย ซึ่งเป็นหลักการสากลที่ทุกประเทศยอมรับ และขอยืนยันว่า พื้นที่ที่ฝ่ายไทยอาจจำเป็นต้องดำเนินการก่อนนั้น ไม่ได้อยู่ในเขตของพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือน แต่อยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทยอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐ ส่วนเรื่องพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติ ในมาตรา 2(3) ที่ได้ระบุไว้ว่า “รัฐสมาชิกต้องระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยวิธีสันติ เพื่อไม่ให้สันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศตกอยู่ในอันตราย” นั้น ในความเป็นจริงกลับพบว่า ฝ่ายกัมพูชามักจะเป็นผู้ละเมิด อย่างกรณีการปลุกปั่น จัดฉาก […]

จับตาปลาย ก.ย. พายุถี่ขึ้น ลุ้นเคลื่อนเข้าไทย

กรุงเทพฯ 21 ก.ย.-กรมอุตุฯ เผยแนวโน้มการเกิดพายุถี่ขึ้นช่วงปลายเดือน ก.ย. ทั้งในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ ขณะเดียวกัน พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” แม้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งอิทธิพลต่อร่องมรสุมและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้หลายพื้นที่มีฝนเพิ่มขึ้น ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักและฝนตกสะสม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงปลายเดือนกันยายนนี้มีแนวโน้มเกิดพายุถี่ขึ้นบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 26–27 กันยายน มีโอกาสเกิดพายุลูกใหม่เพิ่มอีก แม้ขณะนี้ยังไม่มีทิศทางชัดเจนว่าจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยหรือไม่ แต่ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ปัจจุบัน พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) ยังคงเคลื่อนตัวอยู่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก แม้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ไทยโดยตรง แต่ส่งอิทธิพลต่อสภาพอากาศในประเทศ ทำให้ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขณะเดียวกันมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยก็มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนเพิ่มขึ้น และบางแห่งมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 21–27 กันยายน 2568 พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักและฝนตกสะสม ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก เช่น จันทบุรี ตราด รวมถึงภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เช่น แม่ฮ่องสอน […]

ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 21 ก.ย.-กรมอุตุฯ ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก จันทบุรี และตราด ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ […]

ตรึงกำลังเข้ม-รถจีโน่เข้าประจำการชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 20 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว นำรถจีโน่เข้าประจำการชายแดน เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ขณะที่น้ำใจชาวไทยหลั่งไหลสู่เจ้าหน้าที่ไม่ขาดสาย ส่วนที่จันทบุรี วางลวดหนามหีบเพลงตามจุดล่อแหลม.-สำนักข่าวไทย