Swab แยงจมูกหาเชื้อบ่อย ๆ อันตรายจริงหรือไม่ ?

ในยุคที่มีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 สูงขึ้นทุกวัน การ Swab ตรวจหาเชื้อเมื่อมีความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่คนที่เสี่ยงบ่อยก็ต้อง swab บ่อย จนกระทั่งมีการระบาดของข้อมูลเท็จเกิดขึ้น และสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนอย่างมาก โดยเฉพาะคำกล่าวอ้างที่ระบุว่า การ Swab เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต


คำกล่าวอ้าง

มีคลิป / ข้อความ ที่ระบุว่าการ swab จมูกบ่อย ๆ  จะทำให้เนื้อเยื่อเพดานจมูกพัง เชื้อโรคเข้าสู่สมอง และระบบประสาทเสียหาย โดยมีใจความหลักดังนี้

  • การ Swab จมูกทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่สมอง
  • สารเคมีที่นำมาฆ่าเชื้อไม้ Swab เป็นสารก่อมะเร็ง
  • การ swab ทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในผู้ใหญ่
  • การ Swab ทำลายระบบประสาทต่าง ๆ เช่น ระบบประสาทรับกลิ่น
  • การตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR เชื่อถือไม่ได้


ข้อความที่แชร์กันบน Facebook

บทสรุปหลังตรวจสอบ

❌ ข้อมูลไม่เป็นความจริง อย่าแชร์ ❌

  • วันที่ตรวจสอบ: 17 มกราคม 2565
  • ตรวจสอบโดย: ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท
  • คลิปอ้างอิง: https://youtu.be/iX96_Et1RBg

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับนายแพทย์ศุภกิจ  ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับคำกล่าวอ้างข้างต้น  และพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยมีคำอธิบายเพื่อหักล้างคำกล่าวอ้างดังนี้


คำอธิบายข้อเท็จจริง

การ Swab จมูกบ่อย ๆ ไม่อาจทำให้ไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรีย เข้าสู่สมองได้

  • โดยหลักแล้ว สมองมีกลไกที่สามารถป้องกันไม่ให้สาร หรือเชื้อโรคที่มากับระบบไหลเวียนเลือดทะลุเข้ามาได้ ซึ่งเราเรียกมันว่า Blood-brain barrier เพราะฉะนั้นการแหย่จมูกจะไม่มีผลกระทบอะไรกับสมองหรือระบบไหลเวียนเลือดใด ๆ เลย และระบบ Blood-brain barrier จะยังทำงานได้อย่างปกติดี

สารเคมีที่นำมาฆ่าเชื้อไม้ Swab ไม่ได้ก่อมะเร็ง และไม่ได้ทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร

  • อุปกรณ์ทางการแพทย์ส่วนใหญ่ รวมถึงไม้ Swab จะได้รับการฆ่าเชื้อด้วยแก๊ส ethylene oxide ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้กันมายาวนาน และจะไม่ตกค้างอยู่บนอุปกรณ์หลังจากฆ่าเชื้อ ซึ่งการจะก่อมะเร็งได้นั้น ผู้ป่วยจะต้องสูดดมแก๊สเข้าไปโดยตรง ไม่ใช่ผ่านการสัมผัสหรือใช้อุปกรณ์นั้น ๆ แต่อย่างใด นอกจากนี้ ปริมาณในการใช้สาร ethylene oxide ยังถูกควบคุมให้อยู่ในปริมานที่ไม่สามารถทำอันตรายต่อมนุษย์ได้ มิฉะนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำออกมาใช้

การ Swab ไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ กับระบบประสาท

มีการเตือนอย่างแพร่หลาย ว่าให้ระวังการ Swab จมูกบ่อย ๆ เพราะจะไปทำลายระบบประสาทรับกลิ่น เส้นประสาท Trigeminal และยังส่งผลกระทบกับระบบ Limbic อีกด้วย ทั้งนี้ นายแพทย์ศุภกิจยืนยันว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่เป็นความจริง

  • ประสาทรับกลิ่น: เป็นเพียงบริเวณเล็ก ๆ ที่มีพื้นที่ประมาณ 2-5 ตารางเซนติเมตร ซึ่งอยู่บริเวณด้านบนของโพรงจมูก แต่ตามหลักการแล้ว ตำแหน่งในการ Swab คือโพรงหลังจมูก (Nasopharyngeal) ซึ่งจะอยู่ด้านใน และถึงแม้จะมีโอกาสที่จะแยงไปโดนบ้าง ก็ยังคงไม่เป็นอะไร เพราะตัวประสาทรับกลิ่นเอง มีเซลล์ที่คอยปกป้องตัวมันไว้โดยธรรมชาติเพื่อไม่ให้ไม้แยงจมูกไปสัมผัสโดยตรง เพราะฉะนั้น ตราบใดที่ไม่ได้ Swab ผิดวิธีจนทำให้เกิดการบาดเจ็บที่รุนแรงจนกระทั่งเลือดออก โอกาสที่ประสาทรับกลิ่นจะได้รับผลกระทบจะแทบไม่มีเลย
  • เส้นประสาท Trigeminal: ถือเป็นคู่ที่ 5 จากเส้นประสาทในสมองของคนเรา ที่มีทั้งหมด 12 คู่ ซึ่งเส้นนี้จะสัมพันธ์กับการรับความรู้สึกจากบริเวณใบหน้า และจะไม่สามารถเปิดออกมาตรงบริเวณโพรงจมูกให้ไม้ swab แยงเข้าไปโดนได้แต่อย่างใด
  • ระบบ Limbic: ข้อมูลที่อ้างว่าการ Swab บ่อย ๆ จนทำให้จมูกระคายเคืองจะส่งผลกระทบไปทั้งระบบ Limbic นั้น เป็นการเชื่อมโยงที่ไม่เกี่ยวข้องกัน เนื่องจากระบบ Limbic เป็นระบบที่อยู่ในสมองด้านล่างร่วมกับทาลามัส ซึ่งเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมพฤติกรรม ความทรงจำ และการเรียนรู้ การแยงจมูกจึงไม่มีทางกระทบกับระบบในส่วนนี้เลย

การแยงจมูกด้วยวิธี RT-PCR ถือเป็นวิธีมาตรฐานสากลในปัจจุบัน

  • การตรวจแบบแยงจมูก (Nasopharyngeal) คือการตรวจเก็บสิ่งส่งตรวจที่อยู่หลังโพรงจมูก โดยการแหย่เข้าไปให้ลึกจนชนผนังด้านหลัง ซึ่งถือเป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายตามสถาบันต่าง ๆ รวมถึงองค์การอนามัยโลก และถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีการพัฒนาให้ตรวจหาเชื้อแบบใช้น้ำลาย (Deep Throat Saliva) ได้ก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยังคงยืนยันว่า ควรใช้แค่เป็นทางเลือกไว้สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเก็บสิ่งส่งตรวจจากหลังโพรงจมูกได้ เช่น เด็กเล็ก ๆ คนที่มีปัญหาความผิดปกติของโพรงจมูก หรือคนที่ต้องตรวจบ่อยมากจนเกินไป เนื่องจากมีผลการทดลองขอกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ชี้ว่า การตรวจหาเชื้อแบบแยงจมูกด้วยวิธี RT-PCR สามารถพบเชื้อได้มากกว่าการตรวจแบบน้ำลายนั่นเอง

ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท

ให้ความรู้โดย: นายแพทย์ศุภกิจ  ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

เรียบเรียงบทความโดย: ชณิดา ภิรมณ์ยินดี


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

งานวันเด็ก

วันเด็กทั่วไทยคึกคัก สร้างความสุขและรอยยิ้ม

ผู้ใหญ่ใจดี ทั้งภาครัฐ เอกชน หลายหน่วยงานทั่วประเทศ จัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ ร่วมสนุก สร้างรอยยิ้มเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2568

ดับไฟป่าดงพญาเย็น

ระดมกำลังดับไฟป่า ป่าสงวนแห่งชาติ “เขาลอย” ต่อเนื่อง

กรมป่าไม้ – กรมอุทยานฯ – อบต. พญาเย็น ระดมกำลังดับไฟป่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “เขาลอย” ต่อเนื่อง โดยปฏิบัติการทั้งทางภาคพื้นและใช้ ฮ. ทิ้งน้ำดับไฟ

นั่งเก้าอี้นายกฯ

ทำเนียบคึกคัก! “น้องพอร์ช” นั่งเก้าอี้นายกฯ คนแรก

ทำเนียบคึกคัก! วันเด็กแห่งชาติ “น้องพอร์ช” วัย 3 ขวบ มาจากเมืองกาญจน์ ตื่นเที่ยงคืน เกาะรั้วทำเนียบตี 3 นั่งเก้าอี้นายกฯ คนแรกสมใจ