นครปฐม 16 พ.ค. – ตำรวจเตรียมคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” ขออำนาจศาลฝากขัง พรุ่งนี้ (17 พ.ค.) พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังถูกกล่าวหายักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์
ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 06.30 น. นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด ประกอบด้วย ในวัดไร่ขิง 3 จุด และนอกวัดไร่ขิง 1 จุด เพื่อขยายผลค้นหาพยานหลักฐานในคดีที่พระธรรมวชิรานุวัตร หรืออดีตเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 ถูกกล่าวหาว่าทุจริตยักยอกเงินวัดไร่ขิง กว่า 300 ล้านบาท ไปเล่นการพนันออนไลน์
พื้นที่เป้าหมายสำคัญจุดแรกคือ กุฏิของอดีตเจ้าคุณแย้ม โดยเจ้าหน้าที่ได้อ่านหมายค้น มีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เป็นผู้รับหมายและนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เบื้องต้นมีการยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ รวมถึงเอกสารรายรับ-รายจ่าย 10 ลัง เกือบ 100 แฟ้ม ไปตรวจสอบ
“ไวยาวัจกร” วัดไร่ขิง ยันไม่พบความผิดปกติเงินวัดถูกโอนออกจากบัญชี
ขณะเดียวกันยังมีไวยาวัจกร และอดีตกำนันตำบลไร่ขิง พร้อมคณะครูอาจารย์โรงเรียนวัดไร่ขิง นำเอกสารมามอบให้เจ้าหน้าที่ และเข้าให้ถ้อยคำ ซึ่งคาดว่าเกี่ยวข้องกับคดี ทั้งนี้ ไวยาวัจกรดังกล่าวเป็นหนึ่งในผู้ที่อดีตเจ้าคุณแย้มเข้าพบผู้การผู้บัญชาการสอบสวนกลางเมื่อวันก่อนที่จะถูกให้ลาสิขาเมื่อคืนที่ผ่านมา
ภายหลังการเข้าให้ปากคำกับตำรวจสอบสวนกลางนานกว่า 3 ชั่วโมง ไวยาวัจกรวัดไร่ขิง ให้ข้อมูลว่าการเบิกจ่ายเงินของบัญชีวัด ต้องใช้อย่างน้อย 2 ใน 3 คน ที่สามารถเบิกจ่ายเงินคือ เจ้าอาวาส กับพระผู้ช่วยเจ้าอาวาสกว่า 10 รูป หรือไวยาวัจกร ที่มี 3 คน จะเป็นพยานในการเซ็นเบิกจ่ายแต่ละครั้ง แต่จะต้องมีการแนบใบสั่งจ่ายทุกครั้ง จะไม่มีการเซ็นลอย บางครั้งกรรมการวัดก็เป็นคนขอเบิก ซึ่งขั้นตอนก็เหมือนกัน เมื่อถามว่าในแต่ละครั้งมีการเบิกจ่ายเท่าไร ไวยาวัจกรบอกว่ามีตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้าน แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท หากมีการเบิกเกิน 2 ล้านบาท เจ้าหน้าที่วัดต้องรู้ เจ้าหน้าที่ธนาคารจะต้องโทรกลับมาตรวจสอบการเบิกจ่ายว่ายอดถูกต้องตามที่ต้องการเบิกหรือไม่ ทั้งนี้ ตนดูแลแค่ 4-5 บัญชีเท่านั้น แต่บัญชีวัดอื่นๆ มีกว่า 10 บัญชี
ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกผิดสังเกตหรือไม่ กับรายรับ รายจ่าย ยอดโอน ออกไปถึง 847 ล้านบาท ไวยาวัจกรบอกว่ารู้สึกไม่ผิดสังเกต เพราะหลังโควิดรายรับน้อยลงมาก แต่รายจ่ายมีมากขึ้น ส่วนเงินที่เก็บค่าเช่าแผงในงานประจำปี ที่เป็นหนึ่งในรายได้ของวัด (เงินทำบุญก็เป็นรายได้) ได้มาครั้งล่าสุด 10 กว่าล้านบาท ซึ่งวัดได้นำมาใช้จ่ายในการพัฒนาวัด
ตร.เผย “อดีตเจ้าคุณแย้ม” สารภาพไม่หมด-ไม่ตรงกับหลักฐาน
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้ข้อมูลว่า วันนี้เป็นการขยายผลตรวจค้น เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เน้นไปที่ ตรวจหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ เพื่อให้รู้ว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง โดยเฉพาะเว็บพนัน ส่วนภาพกล้องวงจรปิดที่อาจมีการย้ายไปก่อนหน้านี้ ยืนยันไม่กังวล สามารถตามกลับมาได้หมด ส่วนการสอบปากคำอดีตเจ้าคุณแย้ม เมื่อคืนแม้ให้ความร่วมมือดี แต่ยังไม่มากเท่าที่ควร เรียกว่ารับสารภาพแต่พูดไม่หมด มีบางส่วนที่ยังไม่ตรงกับพยานหลักฐาน เป็นการแบ่งรับแบ่งสู้มากกว่า ซึ่งวันนี้ต้องรอความชัดเจนก่อน
สอบปากคำคนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง
จากนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้เข้าสอบปากคำคนสนิทของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่ห้องประชุมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จ.นครปฐม หลังพบตัวขณะเปิดปฏิบัติการตรวจค้นวัด เบื้องต้นได้สอบปากคำในประเด็นรู้เห็นถึง การยักยอกเงินวัด ของอดีตเจ้าอาวาสไปเล่นพนันออนไลน์ การไหว้วานให้โอนเงินไปให้หญิงคนสนิทของอดีตเจ้าอาวาส หรือไม่ ซึ่งตำรวจพยายามชี้ให้เห็นว่าหากให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็จะกันไว้เป็นพยาน แต่หากไม่ให้ความร่วมมือ ตรวจพบว่ารู้เห็นและร่วมกันกับอดีตเจ้าคุณแย้ม ก็จะถูกดำเนินคดีด้วย แต่คนสนิทยังให้รายละเอียดไม่ครบถ้วน อาจจำเป็นต้องควบคุมตัวไปสอบขยายผลต่อที่กองปราบปราม
บรรยากาศที่วัดไร่ขิง ยังคงมีประชาชนเดินทางมาสักการะหลวงพ่อไร่ขิง องค์พระประธาน ที่ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ กันต่อเนื่อง แต่ไม่หนาแน่นนัก โดยชาวบ้านบางคนบอกว่าส่วนตัวรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาในองค์หลวงพ่อไร่ขิง ไม่ได้ศรัทธาในตัวบุคคล แต่หากเจ้าอาวาสวัดกระทำความผิดจริงก็ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนได้พูดแทนคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่ว่ารู้สึกใจสลาย เพราะศรัทธาในตัวเจ้าอาวาสมานาน เคยมาช่วยงานบุญที่วัดหลายครั้ง แต่ไม่เคยนึกมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ผบ.ตร.สั่งขยายผลไปถึงไวยาวัจกร พระรูปอื่น เอี่ยวเล่นพนันหรือไม่
ด้านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า จากการสอบปากคำอดีตเจ้าคุณแย้ม และ น.ส.อรัญญาวรรณ นายหน้าเว็บพนันและหญิงคนสนิท ทำให้คดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะหลักฐานเส้นเงินที่พบว่าเอาเงินจากวัดเข้าบัญชีส่วนตัว ก่อนโอนให้กับบุคคลอื่น ซึ่งไม่ใช่กิจของสงฆ์อย่างชัดเจน ประกอบกับผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจึงตั้งคณะทำงานขึ้นมาสางคดี มี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพราะผู้ต้องหาเป็นถึงอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และเป็นการกระทำความผิดในฐานะเจ้าพนักงาน ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ นอกจากนี้ยังสั่งการให้พนักงานสอบสวนขยายผลไปบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยเฉพาะผู้ใกล้ชิดผู้ต้องหา เช่น ไวยาวัจกร พระลูกวัด หรือคนสนิท
จ่อฝากขัง-ค้านประกัน “อดีตเจ้าคุณแย้ม”
การเข้าตรวจค้นวัดไร่ขิง เมื่อเช้าพบหลักฐานสำคัญเชื่อมโยงในการกระทำความผิดหลายรายการ จึงนำไปตรวจสอบ เพื่อประกอบสำนวนคดี และวันพรุ่งนี้ (17 พ.ค.) พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวอดีตเจ้าคุณแย้ม และ น.ส.อรัญญาวรรณ ไปขออำนาจศาลฝากขัง โดยในชั้นสอบสวนคัดค้านประกันตัว เนื่องจากมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก และเกรงไปเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน.-สำนักข่าวไทย