ชัวร์ก่อนแชร์: วัคซีนโควิดทำให้สตรีใน US และ UK แท้งลูก 1,500 คน จริงหรือ?

6 กันยายน 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Science Feedback (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ

บทสรุป:


  1. เป็นการบิดเบือนตัวเลขเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์จากวัคซีนให้เกินจริง
  2. ไม่สามารถยืนยันได้ว่าการแท้งทั้งหมดเป็นผลจากวัคซีน
  3. งานวิจัยในหลายประเทศยืนยันว่าวัคซีนโควิด 19 ปลอดภัยต่อสตรีมีครรภ์

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข่าวปลอมเผยแพร่ในสหรัฐอเมริกาผ่าน Instagram ของ แชนนอน โครเนอร์ นักจิตวิทยาคลินิก ที่อ้างว่าการฉีดวัคซีนโควิด 19 เป็นสาเหตุให้สตรีมีครรภ์ในสหราชอาณาจักรแท้งลูก 920 ครั้ง และสตรีมีครรภ์ในสหรัฐอเมริกาแท้งลูก 571 ครั้ง

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


แหล่งข้อมูลที่ แชนนอน โครเนอร์ ใช้ในการกล่าวอ้าง มาจาก True Defender เว็บไซต์ที่ถูกกล่าวหาเรื่องการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิด, วิทยาศาสตร์ปลอม และการรายงานข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ

ข้อมูลใน Instagram อ้างอิงตัวเลขการแท้งลูกจาก Yellow Card และ VAERS ซึ่งเป็นระบบรายงานเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์จากวัคซีนในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าจำนวนการแท้งลูกที่กล่าวอ้างไม่ตรงกับรายงานทั้งจาก Yellow Card และ VAERS

ข้อมูลของ Yellow Card ระบุว่า ระหว่างรวบรวมข้อมูลช่วงเดือนธันวาคม 2020 ถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2021 มีการแจ้งเหตุแท้งลูกหลังรับวัคซีนโควิด 19 ในสหราชอาณาจักรทั้งสิ้น 178 ครั้ง ไม่ใช่ 920 ครั้งตามที่กล่าวอ้าง

ส่วนข้อมูลของ VAERS พบการแจ้งเหตุแท้งลูกหลังรับวัคซีนโควิด 19 ในสหรัฐอเมริการวม 395 ครั้ง ไม่ใช่ 571 ตามที่กล่าวอ้างเช่นกัน

รายงานอาการข้างเคียงจากวัคซีนโควิด 19 ที่รวบรวมโดย Yellow Card และ VAERS ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นสาเหตุจากวัคซีนโควิด 19 ทั้งหมด เนื่องจากเป็นรายงานที่ผู้รับวัคซีนสามารถแจ้งอาการข้างเคียงได้โดยไม่ต้องพิสูจน์ว่ามีสาเหตุจากวัคซีนหรือไม่

หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ยืนยันว่า รายงานอาการข้างเคียงเบื้องต้นเหล่านี้ ไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าวัคซีนไม่ปลอดภัยสำหรับสตรีมีครรภ์และทารกในครรภ์

หลายประเทศเริ่มจัดให้สตรีมีครรภ์อยู่ในกลุ่มประชากรที่ควรได้รับวัคซีนโควิด 19 เป็นอันดับต้นๆ หลังพบว่าสตรีมีครรภ์เป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการป่วยหนักจากการติดเชื้อโควิด 19

จากการเก็บสถิติของ CDC ระหว่างเดือนมกราคม 2020 ถึง ตุลาคม 2020 พบว่า ในบรรดาผู้หญิงที่ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 400,000 คน มีอยู่ 5.7% ที่เป็นผู้ติดเชื้อที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งสตรีมีครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด 19 มีความเสี่ยงต้องเข้ารับการรักษาตัวในห้องฉุกเฉิน, ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าผู้หญิงทั่วไป

สาเหตุที่สตรีมีครรภ์ไม่ได้รับการแนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิด 19 ในระยะแรก เนื่องจากไม่มีสตรีมีครรภ์ร่วมทดลองวัคซีนโควิด 19 ทำให้ไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยของสตรีมีครรภ์ที่เพียงพอ

กระทั่งผลวิจัยเบื้องต้นในกลุ่มสตรีมีครรภ์จำนวน 3,900 คนที่เผยแพร่เมื่อปลายเดือนเมษายน 2021 ยืนยันว่าไม่พบปัญหาด้านความปลอดภัยกับสตรีมีครรภ์ที่รับวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA ทำให้ CDC เริ่มแนะนำให้ผู้หญิงที่เตรียมตัวจะมีบุตรเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้ในที่สุด

มีหลายประเทศที่เริ่มแนะนำให้สตรีมีครรภ์เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทั้งสหราชอาณาจักร, เบลเยี่ยม, อิสราเอล โดยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา รัฐเซา เปาโลของประเทศบราซิล ประกาศให้สตรีมีครรภ์ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้ทุกคน

ข้อมูลอ้างอิง:

https://healthfeedback.org/claimreview/no-increased-risk-of-miscarriage-from-covid-19-vaccines-or-other-safety-concerns-for-pregnant-women-or-their-babies/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พิธีสืบพระชะตาหลวง

รัฐบาลจัดยิ่งใหญ่ พิธีสืบพระชะตาหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

รัฐบาลจัดพิธีสืบพระชะตาหลวงและพิธีแห่ไม้ค้ำโพธิ์หลวง อย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

เรือใบคาตามารันพร้อม 38 ชีวิต ล่มทะเลภูเก็ต

เรือใบคาตามารันล่ม ขณะนำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 38 ชีวิต ออกไปดำน้ำบนเกาะราชา จ.ภูเก็ต ล่าสุดทุกคนได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งปลอดภัย

น้ำค้างแข็ง

หนาวสะท้าน จ.เลย แม่คะนิ้งเกาะหลังคารถ-ยอดหญ้า

หนาวสะท้าน จ.เลย แม่คะนิ้งเกาะหลังคารถ-ยอดหญ้า ขณะที่พื้นราบหนาวไม่แพ้กัน อุณหภูมิลดเหลือ 6-7 องศาฯ ส่วนที่พิษณุโลก บ้านร่องกล้า อุณหภูมิยอดหญ้าลบ 2 องศาฯ และที่บึงกาฬ ความหนาวกระทบวิถีชาวบ้าน ลมแรงทำไฟไหม้บ้าน