** เนื้อหานี้นำเสนอข้อเท็จจริงตามกรอบมาตรฐานของศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) **
17 กรกฎาคม 2568
เลข อย. มีกี่แบบ อยู่บนผลิตภัณฑ์ประเภทไหนบ้าง และจะต้องดูอย่างไร ตรวจสอบตรงไหน จึงจะรู้ได้ว่าเป็นของจริง ?
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
(สัมภาษณ์เมื่อ 7 กรกฎาคม 2568)
สแกนก่อนซื้อ! ถอดรหัส “เลข อย.” เครื่องหมายสำคัญที่ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องรู้
ในยุคที่สินค้าสุขภาพ ทั้งอาหารเสริม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ วางจำหน่ายเกลื่อนตลาด ตั้งแต่หน้าร้านในห้างสรรพสินค้าไปจนถึงโลกออนไลน์ที่เข้าถึงได้เพียงปลายนิ้วคลิก การเป็นผู้บริโภคที่ชาญฉลาดจึงไม่ใช่แค่การเลือกซื้อสินค้าจากคำโฆษณา แต่คือการรู้จักตรวจสอบความปลอดภัยเบื้องต้นด้วยตัวเอง และหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดที่เรามีก็คือ “เลข อย.” สัญลักษณ์ที่เปรียบเสมือนด่านแรกในการคัดกรองคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
อย. คือใคร และ “เลข อย.” สำคัญอย่างไร ?
อย. หรือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา คือหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้บริโภค มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลและตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ และวัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน
การที่ผลิตภัณฑ์ได้รับ “เลข อย.” หรือเลขอนุญาต ก็หมายความว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้ผ่านกระบวนการประเมินจาก อย. แล้วว่ามีคุณสมบัติถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด มีความปลอดภัย และมีคุณภาพมาตรฐานในระดับหนึ่ง จึงเป็นเครื่องหมายที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
ประเภทของเลข อย.
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า “เลข อย.” ไม่ได้มีรูปแบบเดียว แต่จะแตกต่างกันไปตามประเภทและความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ เช่น
- อาหาร : ผลิตภัณฑ์อาหารส่วนใหญ่ที่เราคุ้นเคยกันดี จะมีสัญลักษณ์ “อย.” นำหน้า ตามด้วยชุดตัวเลข 13 หลัก ซึ่งบ่งบอกข้อมูลสำคัญ เช่น จังหวัดที่ตั้งของสถานที่ผลิต หน่วยงานที่อนุญาต และลำดับที่ของผลิตภัณฑ์
- เครื่องสำอาง : ใช้ระบบ “เลขที่ใบรับจดแจ้ง” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ การควบคุมจึงไม่เข้มงวดเท่ากลุ่มยา
- ยา : จะมี “เลขทะเบียนตำรับยา” ซึ่งมักจะมีตัวอักษรภาษาอังกฤษนำหน้า เช่น A, C และจะระบุสรรพคุณที่ได้รับอนุญาตไว้อย่างชัดเจน การควบคุมจะเข้มงวดที่สุดเพราะส่งผลต่อชีวิตโดยตรง

ผลิตภัณฑ์ไหนบ้างที่ “ต้องมี” เลข อย. ?
โดยหลักการแล้ว ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผลิตเพื่อการค้าและมีการกระจายสินค้าในวงกว้างจำเป็นต้องขออนุญาตจาก อย. ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น
- อาหารและเครื่องดื่มที่บรรจุในภาชนะปิดสนิท
- สินค้าที่วางขายในร้านสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต
- ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์
- สินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศทุกชนิด
ข้อยกเว้น : สำหรับอาหารที่ปรุงสดใหม่และขายตรงให้ผู้บริโภคหน้าร้าน เช่น ร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ที่ผู้ซื้อรู้จักผู้ขายโดยตรง ไม่จำเป็นต้องมีเลข อย.
วิธีตรวจสอบ “เลข อย.” ง่าย ๆ ใน 1 นาที
ในยุคที่มิจฉาชีพสามารถปลอมแปลงเลข อย. ได้ การมีเลขบนฉลากอาจยังไม่เพียงพอ โชคดีที่การตรวจสอบนั้นทำได้ง่ายกว่าที่คิด
- เปิดเว็บเบราว์เซอร์ (เช่น Google) แล้วค้นหาคำว่า “ตรวจสอบเลข อย.”
- เข้าสู่เว็บไซต์ของ อย. ที่ปรากฏขึ้นมา (โดยปกติจะเป็นเว็บไซต์ oryor.com)
- มองหาเมนูสำหรับตรวจสอบผลิตภัณฑ์ และกรอกชุดตัวเลขที่พบบนฉลากลงไป
- ระบบจะแสดงข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นทะเบียนไว้ ให้เราตรวจสอบว่า ชื่อผลิตภัณฑ์, ประเภท, และข้อมูลผู้ผลิต ตรงกับสินค้าที่เราถืออยู่ในมือหรือไม่
หากข้อมูลที่ปรากฏตรงกัน ก็สามารถมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้ขึ้นทะเบียนกับ อย. จริง การสละเวลาตรวจสอบเพียงเล็กน้อยก่อนตัดสินใจซื้อ คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ปลอดภัย หรือการถูกหลอกลวงจากคำโฆษณาเกินจริงได้
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์
เรียบเรียงโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส
ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : เบื้องหลังเลข อย.
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter