ชัวร์ก่อนแชร์: ประโยชน์ 6 ประการจากไวน์แดง จริงหรือ?

21 กันยายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลไม่ถูกต้องเกี่ยวกับประโยชน์ของการดื่มไวน์แดงเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยอ้างถึงประโยชน์ต่อสุขภาพ 6 ประการที่จะได้รับจากไวน์แดง ทั้งป้องกันโรคหัวใจ เบาหวาน เพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย ช่วยในการนอนหลับ ลดความอ้วน และทำให้ผิวพรรณดูดี


บทสรุป :

นอกจากประโยชน์ของไวน์แดงต่อสุขภาพจะไม่ชัดเจนแล้ว ผลเสียจากการได้รับแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่องยังเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งอีกด้วย

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


ด้านการป้องกันโรคหัวใจ – ไม่ชัดเจน

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Mayo Clinic ระบุว่าในไวน์แดงมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL) กำจัดไขมันเลว (LDL) ต้านการเกิดลิ่มเลือด ซึ่งช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ

อย่างไรก็ดี ข้อดีของการดื่มไวน์แดงส่วนใหญ่มาจากการศึกษาแบบสังเกต (Observational Study) ที่อธิบายความสัมพันธ์มากกว่าหาสาเหตุของเรื่องที่ศึกษา ต่างจากการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (Randomized Controlled Trial) ที่ให้คำตอบที่ชัดเจนมากกว่าและมีอคติจากการวิจัยที่น้อยกว่า

ดร.เคนเนธ มูคามาล อายุรแพทย์จากศูนย์การแพทย์ Beth Israel Deaconess Medical Center มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ระบุว่า ประโยชน์ของไวน์แดงและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น ๆ ต่อการป้องกันโรคหัวใจ มาจากผลวิจัยที่ไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ

ป้องกันโรค – ไม่ชัดเจน

ข้อมูลจากสมาคมเบาหวานแห่งสหรัฐอเมริกา (ADA) ระบุว่า ในไวน์แดงมีกรดเอลลาจิก (Ellagic acid) ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและภาวะความไวต่ออินซูลินได้ดีขึ้น มีส่วนป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 หากดื่มในปริมาณไม่มาก แต่การดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับยารักษาโรคเบาหวาน เช่นการใช้อินซูลินและยากระตุ้นการหลั่งอินซูลิน อาจเพิ่มความเสี่ยงจากภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ

ระยะหลังมีการโฆษณาอาหารเสริมจากกรดเอลลาจิกว่ามีคุณสมบัติป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและโรคมะเร็ง ซึ่งภายหลังองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ออกคำสั่งห้ามการโฆษณาอาหารเสริมจากกรดเอลลาจิกว่ามีคุณสมบัติรักษามะเร็ง เนื่องจากไม่มีผลวิจัยยืนยันได้ว่ากรดเอลลาจิกสามารถป้องกันหรือรักษามะเร็งได้

นอนหลับดี – จริง/เท็จบางส่วน

สาเหตุที่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้นอนหลับได้ง่าย เพราะฤทธิ์การกดประสาทของแอลกอฮอล์

แต่งานวิจัยที่ตีพิม์ทางวารสาร Handbook of Clinical Neurology เมื่อปี 2018 พบว่า การดื่มสุราในปริมาณมากและต่อเนื่องจะรบกวนวงจรการนอนหลับในเวลากลางคืน

แม้ความเมาจากสุราจะช่วยให้หลับในตอนแรก แต่เมื่อแอลกอฮอล์ผ่านกระบวนการสันดาปในร่างกาย จะเปลี่ยนเป็นสารกระตุ้นที่ขัดขวางการหลับลึก

งานวิจัยพบว่าผู้ที่มีโรคติดสุราเรื้อรังจะมีปัญหาด้านการนอนเรื้อรังด้วย ซึ่งจะส่งผลแม้แต่ในช่วงที่หยุดดื่มสุราไปแล้ว และมีส่วนทำให้กลับมาติดสุราอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนี้ ไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางชนิดยังมีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะ ที่ทำให้การนอนในตอนกลางคืนขาดช่วงได้เช่นกัน

แก้หนาว – จริง/เท็จบางส่วน

งานวิจัยปี 2000 ที่ตีพิมพ์ทางวารสาร European Society of Cardiology พบว่าสารเอทานอล (Ethanol) ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วยให้หลอดเลือดแดงที่ต้นแขนขยายตัว ทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น ลดอาการหนาวบริเวณผิวหนัง

อย่างไรก็ดี การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจไม่ใช่การคลายหนาวที่แท้จริง

งานวิจัยปี 1994 ที่ตีพิมพ์ทางวารสาร Journal of Wilderness Medicine พบว่า แอลกอฮอล์ทำให้ความสามารถในการปรับตัวต่ออุณหภูมิในร่างกายลดลง และยับยั้งการสั่นของกล้ามเนื้อซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการสะสมความร้อนของร่างกาย

ลดความอ้วน – จริง/เท็จบางส่วน

มีความเชื่อผิด ๆ ว่าการดื่มไวน์ช่วยลดความอ้วน หลังมีการเผยแพร่งานวิจัยของ ดร. ลู่ หว่อง มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ที่เผยแพร่ทางวารสาร Archives of Internal Medicine เมื่อปี 2010 ซึ่งเป็นการสังเกตการลดน้ำหนักของผู้หญิงวัยกลางคนเป็นเวลา 13 ปี แล้วพบว่า ผู้หญิงที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีน้ำหนักเกิน 43% ส่วนผู้หญิงที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 15-30 กรัมต่อวันมีน้ำหนักเกิน 33%

อย่างไรก็ดี งานวิจัยดังกล่าวไม่มีการแยกชนิดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงไม่อาจสรุปได้ว่าผลเกิดจากการดื่มไวน์หรือไม่ และการมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นช้ากว่าของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ไม่อาจสรุปได้ว่าการดื่มไวน์มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักหรือไม่

ผิวหน้าดี – ไม่จริง

มีการอ้างว่า การดื่มไวน์จะทำให้ผู้ดื่มดูดี เพราะกล้ามเนื้อผิวหน้าจะผ่อนคลายและแก้มจะมีสีแดงอ่อน ๆ

แม้เป็นจริงที่ว่าแอลกอฮอล์จะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายจากฤทธิ์ในการกดประสาท แต่อาการหน้าแดงหลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แท้จริงแล้วคือปฏิกิริยาที่เรียกว่า Alcohol Flush Reaction

คนที่มีอาการหน้าแดงหลังจากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อย เป็นสัญญาณของการเกิดอาการ Alcohol Flush Reaction ที่เกิดขึ้นเมื่อตับของคนผู้นั้นไม่มีเอนไซม์ ALDH2 ที่ช่วยในการขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย นำไปสู่อาการ หน้าแดง คอแดง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เมาค้าง แน่นหน้าอก หัวใจเต้นเร็ว บางรายที่อาการรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

นอกจากนี้ ยังพบว่าชาวเอเชียตะวันออกมีอาการ Alcohol Flush Reaction บ่อยกว่าชาวตะวันตก

ความเสี่ยงโรคมะเร็ง

นอกจากประโยชน์ต่อสุขภาพจะไม่ชัดเจนแล้ว ผลเสียจากการได้รับแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่องคือการเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง

ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าสารเอทานอล (Ethanol) เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะมีศักยภาพเป็นสารก่อมะเร็ง ไม่ว่าจะมาในรูปแบบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพแค่ไหน หรือมีราคาแพงเพียงใด ก็เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งตามปริมาณแอลกอฮอล์ที่ร่างกายได้รับ

นอกจากนี้ ผู้หญิงยังมีความเสี่ยงจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงมีปริมาณน้ำในร่างกายน้อยกว่าผู้ชาย ทำให้การเจือจางแอลกอฮอล์ในร่างกายทำได้น้อยกว่า และทำให้แอลกอฮอล์อยู่ในร่างกายได้นานกว่า เพิ่มความเสี่ยงการทำลายสมองและอวัยวะส่วนต่าง ๆ เพิ่มความเสี่ยงความดันเลือดสูงและโรคหลอดเลือดตีบตัน

ส่วนผู้ชายที่อายุมากว่า 65 ปี ก็มีคำแนะนำให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 1 ดริ๊งก์ต่อวันเท่ากับผู้หญิง เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น การเผาผลาญแอลกอฮอล์จะทำได้ช้าลง ขณะที่ประโยชน์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะได้ลดลงแล้ว ความเสี่ยงของโรคจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็จะมีสูงขึ้นอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.snopes.com/fact-check/red-wine-health-benefits/
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/heart-disease/in-depth/red-wine/art-20048281
https://www.health.harvard.edu/blog/is-red-wine-good-actually-for-your-heart-2018021913285
https://ifh.rutgers.edu/highlight/modern-myths-of-aging-red-wine-and-the-truth-behind-the-french-paradox/
https://www.mdanderson.org/publications/focused-on-health/red-wine-health-benefits-facts-and-myths.h23-1591413.html
https://www.who.int/europe/news/item/04-01-2023-no-level-of-alcohol-consumption-is-safe-for-our-health

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย