ภูเก็ต 29 เม.ย. – แท็กซี่ป้ายเขียวขวางรถพยาบาล เปิดไซเรนขอทางแต่ไม่สนใจ ทำผู้ป่วยฉุกเฉินเสียชีวิตคารถ ล่าสุดตำรวจเรียกโชเฟอร์แท็กซี่แจ้งข้อหาแล้ว
ภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งเผยให้เห็นรถพยาบาลของโรงพยาบาลป่าตอง จ.ภูเก็ต เปิดไซเรนเพื่อนำส่งผู้ป่วย อายุ 77 ปี มีอาการหน้ามืด และมีประวัติโรคหัวใจ รีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างทางเจอกับรถแท็กซี่ป้ายเขียวอยู่เลนซ้ายสุด ไม่หลีกทางให้รถพยาบาลและไม่มีการชะลอแต่อย่างใด ทำให้เกิดเฉี่ยวชนกันบนถนนสายกมลา-ป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ช่วงบริเวณหาดกะหลิม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยบาลล่าช้า เบื้องต้นทีมแพทย์ฉุกเฉินพยายามทำซีพีอาร์แล้วแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา
ลูกสาวของผู้เสียชีวิต บอกว่าพ่อมีอาการหน้ามืดเป็นลมขณะดูคนงานเก็บสะตอ จึงเรียกรถฉุกเฉินมารับตัว ขณะเดียวกันมีการประสานกับรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลป่าตอง มารับช่วงต่อบริเวณถนนกมลา-ป่าตอง ขณะนำตัวพ่อขึ้นรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลยังมีชีพจร แต่ระหว่างทางเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น แท็กซี่ไม่หลบทางให้ จนช่วยชีวิตพ่อล่าช้า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อหรือแสดงความรับผิดชอบจากฝั่งคนขับแท็กซี่ และมาทราบว่า มีการแจ้งความประมาทร่วม ซึ่งตนตกใจว่าจะแจ้งข้อหานี้ได้อย่างไร ทั้งที่จริงรถแท็กซี่หรือรถคันอื่นๆ ที่ร่วมใช้รถใช้ถนน ต้องหลบทางให้รถฉุกเฉิน โดยเฉพาะมีการเปิดไซเรนขอทางแล้ว อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ และขอให้ทุกคนช่วยหลีกทางให้รถฉุกเฉิน เพราะเพียงไม่กี่วินาทีอาจเปลี่ยนเป็นโอกาสรอดชีวิตของใครหลายๆ คน

ทั้งนี้ ตำรวจจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้นแจ้งข้อหาคนขับรถแท็กซี่ ในความผิด “ขับขี่กีดขวางรถฉุกเฉินและละเมิดสิทธิผู้ป่วย” ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย