ชัวร์ก่อนแชร์: วัคซีนโควิดปนเปื้อนเนื้อเยื่อตัวอ่อนมนุษย์จากการทำแท้ง จริงหรือ?

20 กุมภาพันธ์ 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ผ่านทางสื่อในสหรัฐอเมริกาในปี 2022 เมื่อบุคลากรทางการแพทย์ 16 รายที่ทำงานอยู่ในรัฐนิวยอร์ก ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อคัดค้านนโยบายบังคับให้บุคลากรทางการแพทย์ในนิวยอร์กต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ทุกคน โดยมีข้อยกเว้นแค่เหตุผลทางการแพทย์ แต่ไม่รับพิจารณาการปฏิเสธวัคซีนด้วยเหตุผลทางศาสนา โดยมองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิทางความเชื่อของบุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากมีการอ้างว่า วัคซีนโควิด-19 มีส่วนประกอบของเนื้อเยื่อตัวอ่อนมนุษย์ที่เกิดจากการทำแท้ง การฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงไม่ต่างจากการสนับสนุนการทำแท้งซึ่งผิดหลักความเชื่อทางศาสนา


บทสรุป :

  1. วัคซีนโควิด-19 ชนิดไวรัล เวกเตอร์ ผลิตจากไวรัสที่เพาะเลี้ยงในเซลล์เนื้อเยื่อตัวอ่อนมนุษย์
  2. วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ไม่ได้ผลิตจากไวรัสที่เพาะเลี้ยงในเซลล์เนื้อเยื่อตัวอ่อนมนุษย์
  3. วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ใช้เซลล์เนื้อเยื่อตัวอ่อนมนุษย์เพื่อทดสอบประสิทธิผลของวัคซีนเท่านั้น
  4. วัคซีนโควิด-19 ทุกชนิด ไม่มีส่วนประกอบของเซลล์เนื้อเยื่อตัวอ่อนมนุษย์อยู่ในวัคซีน
  5. มีวัคซีนหลายชนิดที่พัฒนาจากเซลล์เนื้อเยื่อตัวอ่อนมนุษย์ รวมถึงวัคซีนโรคหัดเยอรมันที่กำหนดให้บุคลากรทางการแพทย์ในนิวยอร์กต้องฉีดมานานแล้ว

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

การยกเลิกการปฏิเสธวัคซีนด้วยเหตุผลทางศาสนาในนิวยอร์ก


ช่วงเดือนสิงหาคมปี 2021 รัฐนิวยอร์กออกนโยบายบังคับให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ทุกคน โดยมีข้อยกเว้นด้วยเหตุผลทางการแพทย์และเหตุผลทางศาสนา

กระทั่ง 8 วันให้หลัง องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ผ่านการรับรองวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Pfizer-BioNTech แบบเต็มรูปแบบ หน่วยงานสาธารณสุขของนิวยอร์กจึงปรับเปลี่ยนนโยบายการฉีดวัคซีนสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ใหม่ โดยจำกัดข้อยกเว้นทางการแพทย์ให้แคบลง และห้ามการปฏิเสธวัคซีนด้วยเหตุผลทางศาสนาโดยสิ้นเชิง

นิวยอร์ก ถือเป็น 1 ใน 3 รัฐของสหรัฐฯ รวมกับรัฐเมนและรัฐโรด ไอแลนด์ ที่กำหนดนโยบายบังคับให้บุคลากรทางการแพทย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 และห้ามการปฏิเสธด้วยเหตุผลทางศาสนา

นโยบายดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 16 ราย ที่มองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิทางความเชื่อ และได้ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อให้ทางการนิวยอร์กล้มเลิกคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนกับบุคลากรทางการแพทย์ โดยอ้างว่าวัคซีนโควิด-19 มีเนื้อเยื่อตัวอ่อนมนุษย์ที่เกิดจากการทำแท้งเป็นส่วนประกอบในการผลิตวัคซีน

อย่างไรก็ดี ข้ออ้างการมีเนื้อเยื่อตัวอ่อนมนุษย์อยู่ในวัคซีนโควิด-19 ไม่เป็นความจริง มีแค่การใช้เซลล์จากตัวอ่อนมนุษย์ในการทดลองวัคซีนหรือใช้ระหว่างกระบวนการผลิตวัคซีนเท่านั้น ไม่มีเซลล์จากตัวอ่อนมนุษย์เป็นส่วนประกอบในวัคซีนโควิด-19 ที่ฉีดให้กับประชาชนแต่อย่างใด

ความสำคัญของเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์กับการผลิตวัคซีน

การนำเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์มาเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ เพื่อใช้ในการวิจัยหรือผลิตยาและวัคซีน เป็นวิธีการที่วงการแพทย์ใช้กันมาเป็นเวลานานหลายทศวรรษ

เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ 2 ชนิดที่ใช้พัฒนาวัคซีนมากที่สุดได้แก่ WI-38 เซลล์เนื้อเยื่อปอดจากตัวอ่อนมนุษย์เพศหญิงวัย 3 เดือน เกิดจากแม่ชาวสวีเดนที่จงใจทำแท้งเมื่อปี 1963 โดยต่อมา WI-38 ได้กลายเป็นเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาทฤษฎีชีววิทยาระดับโมเลกุล และอยู่เบื้องหลังการพัฒนาวัคซีนหลากหลายชนิด ทั้งวัคซีนที่ป้องกันโรคจากอะดีโนไวรัส, โรคหัด, โรคหัดเยอรมัน, โรคคางทูม, โรคอีสุกอีใส, โรคโปลิโอ, โรคไวรัสตับอักเสบเอ และโรคพิษสุนัขบ้า

เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์อีกชนิดคือ MRC-5 เซลล์เนื้อเยื่อปอดจากตัวอ่อนมนุษย์เพศชายวัย 14 สัปดาห์ เกิดจากแม่ชาวสหราชอาณาจักรที่แท้งลูกเมื่อปี 1966 เป็นเซลล์ตัวอ่อนที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาวัคซีนโรคไวรัสตับอักเสบเอ, โรคอีสุกอีใส, และโรคโปลิโอ

ข้อมูลจากโรงพยาบาล Children’s Hospital of Philadelphia ยืนยันว่า แม้เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์จะใช้เพื่อพัฒนาวัคซีนหลากหลายชนิด แต่วัคซีนที่ผลิตจากเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ที่เพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ จะไม่มีเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์เป็นส่วนประกอบของวัคซีน เนื่องจากวัคซีนจะผ่านการทำให้บริสุทธิ์ก่อนนำมาใช้เสมอ

เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์กับวัคซีนโควิด-19

วัคซีนโควิด-19 ที่มีความเชื่อมโยงกับเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์มากที่สุด ได้แก่วัคซีนชนิดไวรัล เวกเตอร์ ซึ่งใช้อะดีโนไวรัสที่สร้างจากเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ที่เพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ

วัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Johnson & Johnson ใช้ไวรัสที่เพาะเลี้ยงจากเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ที่ชื่อว่า PER.C6 เซลล์จอประสาทตาจากตัวอ่อนมนุษย์วัย 18 สัปดาห์ ได้มาจากแม่ที่แท้งลูกเมื่อปี 1985 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเซลล์ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาวัคซีนที่ใช้อะดีโนไวรัสเป็นไวรัล เวกเตอร์ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990’s

ส่วนวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท AstraZeneca ใช้เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ที่ชื่อว่า HEK-293 เซลล์ไตจากตัวอ่อนมนุษย์ที่ได้มาจากแม่ที่แท้งลูกเมื่อปี 1973 โดยต่อมาได้กลายเป็นเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ที่ใช้ในการวิจัยหรือผลิตวัคซีนและยารักษาโรคอย่างแพร่หลาย

วัคซีน mRNA ใช้เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ในการทดลองประสิทธิภาพวัคซีนเท่านั้น

ส่วนวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ทั้ง The Pfizer/BioNTech และ Moderna ถือว่ามีความเชื่อมโยงกับเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์น้อยกว่าวัคซีนชนิดไวรัล เวกเตอร์ เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ใช้ mRNA ของไวรัสแทนการใช้ไวรัสเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน จึงไม่มีการนำไวรัสไปเพาะเลี้ยงในเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์แต่อย่างใด มีแค่การนำวัคซีนไปทดลองกับเซลล์ HEK-293T เพื่อยืนยันว่าวัคซีน mRNA สามารถเปลี่ยน mRNA เป็นโปรตีนหนามของโควิด-19 ได้จริง

นอกจากนี้ ยังมีการใช้เซลล์ HEK-293T เพื่อผลิตอนุภาคเทียม (Pseudovirus) ของไวรัสโควิด-19 เพื่อทดสอบระดับแอนติบดีในสัตว์ทดลองที่ได้รับวัคซีน mRNA อีกด้วย

อเลสซอนดรา สไปเดล นักวิทยาศาสตร์สาขาวัสดุชีวภาพ สถาบัน Karolinska Institute จากประเทศสวีเดน อธิบายกับนิตยสาร National Geographic ว่า จุดประสงค์ของการนำเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์มาใช้ทดสอบวัคซีน mRNA คือรับประกันว่าวัคซีน mRNA สามารถนำมาใช้ป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้จริง

ศาสนากับวัคซีนที่พัฒนาจากเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์

ในมุมมองของศาสนาคริสต์ ทั้งจากสำนักวาติกัน ผู้นำคริสตจักรโรมันคาทอลิก และ Southern Baptist Convention องค์กรศาสนานิกายโปรเตสแตนต์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ และเป็นองค์กรศาสนานิกายแบปทิสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ต่างมองว่าการรับวัคซีนที่พัฒนาจากเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์เป็นสิ่งที่ยอมรับได้และไม่ผิดศีลธรรม เนื่องจากมองว่าไม่มีทางเลือกที่ดีกว่าในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

สหพันธ์สภาบิชอปคาทอลิกแห่งสหรัฐอเมริกา (USCCB) แนะนำให้เลือกวัคซีนที่มีความเชื่อมโยงกับเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์จากการทำแท้งให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่กระนั้นก็ยังมองว่า การรับวัคซีนโควิด-19 ถือเป็นภารกิจเพื่อการกุศลต่อเพื่อนมนุษย์ เป็นภารกิจที่สื่อถึงความรักต่อเพื่อนบ้านและเป็นความรับผิดชอบด้านศีลธรรมเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม

แม้แต่ สถาบัน Charlotte Lozier Institute องค์กรต่อต้านการทำแท้ง ก็มองว่าวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Pfizer/BioNTech และ Moderna ไม่ใช่สิ่งที่สร้างขึ้นโดยขัดต่อหลักจริยธรรม

หมอเคยฉีดวัคซีนที่ผลิตจากเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์มานานแล้ว

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนปี 2022 ศาลสูงของสหรัฐฯ มีมติ 6 ต่อ 3 ไม่รับพิจารณาคำร้องให้มีการยับยั้งนโยบายบังคับบุคลากรทางการแพทย์ในนิวยอร์กฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากมองว่า ที่ผ่านมาเคยมีวัคซีนที่กำหนดให้บุคลากรทางการแพทย์ในนิวยอร์กต้องฉีดโดยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธด้วยเหตุผลทางศาสนา และก็เป็นวัคซีนที่ผ่านการพัฒนาด้วยการใช้เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์มาแล้วเช่นกัน

ข้อมูลที่ทางการนิวยอร์กอ้างต่อศาลสูงของสหรัฐฯ ระบุว่า เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ชนิด HEK-293 ที่ใช้ในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Pfizer และ Moderna คือเซลล์ที่เพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ และเป็นเซลล์ที่สืบทอดมาจากเซลล์ต้นกำเนิดมาแล้วหลายพันรุ่นตั้งแต่ปี 1973 การนำเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์มาใช้ในการทดลองเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปในวงการแพทย์ รวมถึงการพัฒนาวัคซีนโรคหัดเยอรมัน ซึ่งเป็นวัคซีนพื้นฐานที่กำหนดให้บุคลากรทางการแพทย์ในนิวยอร์กต้องฉีดทุกคนอยู่แล้ว

คุณูปการของเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์

การนำเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์มาใช้เพื่อการวิจัยทางการแพทย์ เป็นประเด็นที่สร้างข้อโต้แย้งมานานนับทศวรรษ แต่กระนั้น เซลล์เพาะเลี้ยงเหล่านั้นคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานวิจัยด้านชีวการแพทย์ และมีบทบาทสำคัญในการค้นพบแนวทางการรักษาและการผลิตตัวยาชนิดใหม่ ๆ ออกมามากมาย รวมถึงยาสามัญประจำบ้านอย่าง พาราเซตามอล เช่นกัน

แนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อื่น ๆ ทั้งการใช้ Monoclonal antibodies หรือการผลิตยาต้านไวรัสอย่าง Remdesivir ต่างผ่านกระบวนการทดสอบกับเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์มาแล้วทั้งสิ้น

อาเมช อดัลจา ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ จากศูนย์ Johns Hopkins Center for Health Security ชี้แจงต่อนิตยสาร National Geographic ว่า ผู้คนมักไม่รู้ถึงความจำเป็นของการใช้เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์เพื่อการพัฒนายาและวัคซีน ซึ่งล้วนเป็นยาที่ใช้อย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน การนำเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์มาใช้เพื่อพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ไม่ได้ทำให้วัคซีนโควิด-19 มีความแตกต่างจากยาหรือวัคซีนชนิดอื่น ๆ แต่อย่างใด

มีการประเมินในปี 2015 ว่า เฉพาะวัคซีนที่พัฒนาจากเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ชนิด WI-38 สามารถช่วยชีวิตผู้คนมาแล้วกว่า 10.3 ล้านราย และยังช่วยป้องกันและรักษาผู้คนจากการป่วยด้วยโรคร้ายกว่า 4.5 พันล้านครั้ง

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2022/07/scicheck-covid-19-vaccines-dont-contain-fetal-tissue/
https://www.nationalgeographic.com/science/article/here-are-the-facts-about-fetal-cell-lines-and-covid-19-vaccines
https://www.vatican.va/roman_curia/congregations/cfaith/documents/rc_con_cfaith_doc_20201221_nota-vaccini-anticovid_en.html
https://erlc.com/resource-library/articles/explainer-covid-19-raises-concern-about-abortive-fetal-cells-in-medicine/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

ออกหมายจับ 17 ราย เอี่ยวคดี “ตึก สตง.ถล่ม”

15 พ.ค.- ออกหมายจับ 17 ราย วิศวกร – ผู้ควบคุมงาน – กิจการร่วมค้า เอี่ยวคดี “ตึก สตง.ถล่ม” เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา มีรายงานว่าศาลอาญาอนุมัติหมายจับ 17 วิศวกร ผู้ควบคุมงาน ก่อสร้างตึก สตง.แห่งใหม่ หลังพนักงานสอบสวนนครบาล นำสำนวนพร้อมหลักฐานทั้งการนำสืบและการสอบปากคำพยานบุคคลรวมถึงพยานแวดล้อม เสนอศาลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งการขออำนาจศาลออกหมายจับในครั้งนี้คณะพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้แบ่งกลุ่มผู้กระทำความผิดออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องและเป็นผู้กระทำความผิด ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 กลุ่มผู้ออกแบบและทำสัญญาระหว่างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล 1 ราย และมีกลุ่มวิศวกรผู้ลงนามในแบบแปลนซึ่งเป็นวิศวกรโครงสร้าง จำนวน 5 ราย รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย กลุ่มที่ 2 บริษัทผู้รับจ้างควบคุมการก่อสร้าง มีบริษัทกิจการร่วมการค้า 3 […]

กรมอุตุฯ ประกาศเริ่มต้นฤดูฝนปี 2568 อย่างเป็นทางการ

กรุงเทพฯ 15 พ.ค. – กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่องการเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทย พ.ศ. 2568 โดยระบุว่า ประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูร้อนและเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ลงนามในประกาศฯ ดังกล่าว หลังจากพิจารณาองค์ประกอบตามเกณฑ์ทางอุตุนิยมวิทยา โดยระบุว่า บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่นครอบคลุมพื้นที่มากกว่าร้อยละ 60 ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วันขึ้นไป ประกอบกับลมระดับบนที่ความสูงประมาณ 3.5 กิโลเมตร ได้เปลี่ยนทิศเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมมรสุมที่นำความชื้นจากทะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันลมระดับบนที่ความสูงประมาณ 30 กิโลเมตร ได้เปลี่ยนทิศเป็นลมฝ่ายตะวันออก ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการพิจารณาการเริ่มต้นฤดูฝน ทั้งนี้ ในช่วงต้นฤดูฝนจะมีปริมาณฝนน้อย ก่อนที่ปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มมากขึ้นในระยะต่อมา โดยฤดูฝนของพื้นที่ประเทศไทยตอนบนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม ส่วนภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งตะวันออก จะยังคงมีฝนตกชุกต่อเนื่องไปจนถึงกลางเดือนมกราคมปีถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมรับมือสภาพอากาศที่อาจเปลี่ยนแปลงในช่วงฤดูฝนนี้อย่างเหมาะสม. -512–สำนักข่าวไทย

ยักยอกเงินวัด

ศาลอนุมัติหมายจับ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยักยอกเงินวัดเล่นพนัน

15 พ.ค.- ศาลอาญาทุจริต อนุมัติหมายจับ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยักยอกเงินวัด เล่นพนันออนไลน์ จากกรณีมีการตรวจสอบพบ พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม หรือ เจ้าคณะภาค 14 กระทำการทุจริตยักยอกเงินจากบัญชีธนาคารของวัดโอนเข้าบัญขีธนาคารส่วนตัว เพื่อนำไปเล่นพนันออนไลน์ กว่า 300 ล้านบาท ก่อนที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พระธรรมวชิรานุวัตร จะชิงเดินทางมาขอเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อเข้ามอบตัวชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตามที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปปป. นำพยานหลักฐานเข้ายื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขอออกหมายจับ พระธรรมวชิรานุวัตร ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ชื้อ หรือ จัดการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบัง หรือ ทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงาปฏิบัติหรือละเว้นการปติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต” กระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. ศาลได้พิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ จากพนักงานสอบสวนแล้ว มีความเห็นควรให้อนุมัติการออกหมายจับอย่างเป็นทางการ ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างนำหมายจับมาแสดงต่อพระธรรมวชิรานุวัตร […]

นายกฯ เดินทางถึงกรุงฮานอย เวียดนาม

เวียดนาม 15 พ.ค.-นายกฯ เดินทางถึงกรุงฮานอย เวียดนาม เตรียมพบภาคเอกชนไทย-เวียดนาม ขยายการค้า-การลงทุน วันนี้ (15 พ.ค. 2568) เมื่อเวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งตรงกับเวลาในประเทศไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ประกอบไปด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายชัย วัชรงค์ ผู้แทนการค้าไทย เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีนายเหวียน วัน หุ่ง (H.E. Mr. Nguyen Van Hung) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม […]