13 ธันวาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ข้อมูลที่ถูกแชร์ :
หนึ่งในความเชื่อที่สร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV) คือการอ้างว่า รถยนต์ EV ไม่เหมาะกับการขับรถลุยน้ำท่วม ต่างจากรถยนต์สันดาปภายในหรือรถยนต์น้ำมันที่ขับลุยน้ำท่วมได้ดีกว่า
บทสรุป :
- รถยนต์ EV ส่วนใหญ่ผ่านมาตรฐาน IP67 ซึ่งป้องกันฝุ่นและน้ำเข้าตัวเครื่องได้ระดับหนึ่ง จึงสามารถวิ่งผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมได้ไม่ต่างจากรถยนต์น้ำมัน
- ผู้ขับรถยนต์ผ่านบริเวณน้ำท่ามควรศึกษา Wading Depth ของรถยนต์แต่ละรุ่น ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าสามารถขับผ่านระดับน้ำสูงที่สุดได้แค่ไหน
- รถยนต์ EV สามารถชาร์จไฟระหว่างฝนตกได้อย่างปลอดภัย
- ปัญหาการขับรถยนต์ EV ผ่านบริเวณที่มีน้ำทะเล อาจทำให้แบตเตอรี่ Lithium-Ion ทำปฏิกิริยากับเกลือจนเกิดลุกไหม้ได้ จำเป็นต้องจอดรถไว้นอกบ้านเพื่อป้องกันอัคคีภัย
FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :
แท้จริงแล้ว การขับลุยน้ำท่วมระหว่างรถยนต์ EV และรถยนต์น้ำมันแทบไม่มีความแตกต่างกัน
มาตรฐาน IP Code ของรถยนต์ EV
สิ่งที่ใช้วัดคุณสมบัติการป้องกันน้ำและฝุ่นในอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงรถยนต์ EV ได้แก่ มาตรฐาน IP Code หรือ Ingress Protection Code ซึ่งแบ่งเป็นมาตรฐานการป้องกันของแข็งและของเหลว โดยมาตรฐานการป้องกันของแข็งหรือฝุ่นจะอยู่ที่ 0-6 ส่วนมาตรฐานการป้องกันของเหลวหรือน้ำจะอยู่ที่ 0-9
รถยนต์ EV ส่วนใหญ่จะผ่านมาตรฐาน IP Code ในระดับ IP67 หมายความว่า มีการป้องกันของแข็งหรือฝุ่นในระดับที่ 6 หรือสูงสุด และการป้องกันของเหลวหรือน้ำในระดับที่ 7 ซึ่งเพียงพอสำหรับการขับรถไปในบริเวณที่มีน้ำท่วมขังปริมาณไม่มากและใช้เวลาขับผ่านไปในเวลาไม่นาน โดยไม่ทำให้มอเตอร์หรือแบตเตอรี่ได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ โครงสร้างของแบตเตอรี่และสายไฟฟ้าที่เชื่อมต่อระหว่างแบตเตอรี่กับมอเตอร์ ห่อหุ้มด้วยอุปกรณ์ที่เป็นฉนวนกันไฟ ภายในรถยนต์ EV ยังมีระบบตัดไฟในกรณีที่รถยนต์ได้รับการกระแทกจากอุบัติเหตุหรือตรวจพบการลัดวงจรในระบบไฟฟ้าเพื่อป้องกันรั่วไหลของกระแสไฟอีกด้วย
ขณะเดียวกัน การไม่มีท่อไอเสียและช่องระบายความร้อนบริเวณกระจังหน้าขนาดใหญ่เหมือนรถยนต์น้ำมันภายใน ทำให้รถยนต์ EV มีความเสี่ยงที่น้ำจะเข้าไปสร้างความเสียหายภายในตัวรถและห้องเครื่องน้อยกว่า
อันตรายจากการขับรถลุยน้ำท่วม
อย่างไรก็ดี การขับรถในบริเวณน้ำท่วมขังเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ข้อมูลจาก Environment Agency หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของสหราชอาณาจักร เตือนว่าการขับรถไปยังที่ที่มีน้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร มีความเสี่ยงที่รถถูกน้ำพัดออกนอกเส้นทางได้
หากมั่นใจว่าถนนบริเวณที่มีน้ำท่วมมีความปลอดภัยเพียงพอที่จะขับผ่านไปได้ ควรขับรถผ่านไปอย่างช้า ๆ โดยระดับน้ำไม่ควรสูงเกินครึ่งล้อรถยนต์
Wading Depth
รถยนต์แต่ละประเภทมีความสามารถในการขับผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมแตกต่างกัน สิ่งที่ใช้ยืนยันว่ารถยนต์แต่ละรุ่นสามารถขับลุยน้ำท่วมได้มากน้อยแค่ไหน คือ Wading Depth หรือค่าความลึกสูงสุดที่รถยนต์แต่ละรุ่นสามารถขับไปในที่ที่มีน้ำท่วมขังได้ ซึ่งแต่ละรุ่นจะมี Wading Depth ที่ระบุในคู่มือแตกต่างกัน
ปัจจุบัน ผู้ผลิตรถยนต์หลายเจ้าได้พัฒนาระบบที่สามารถตรวจจับได้ว่า ถนนที่มีน้ำท่วมอยู่ข้างหน้ามีความลึกแค่ไหน เช่นระบบ Wading Depth Detection หรือ Wading Depths and Wade Sensing
ความปลอดภัยจากการชาร์จไฟรถยนต์ EV ขณะฝนตก
นอกจากความสามารถในการขับรถไปยังบริเวณที่มีน้ำท่วมหรือขับรถตากฝนได้แล้ว รถยนต์ EV ยังถูกออกแบบมาให้สามารถชาร์จไฟฟ้าขณะที่มีฝนตกได้เช่นกัน
แบตเตอรี่รถยนต์ EV เกิดเพลิงไหม้เพราะน้ำทะเล
อย่างไรก็ตาม การนำรถยนต์ EV ขับผ่านบริเวณที่มีน้ำทะเลท่วมขัง มีความเสี่ยงที่จะทำให้แบตเตอรี่ Lithium-Ion ทำปฏิกิริยากับเกลือจากน้ำทะเลจนเกิดการลุกไหม้ได้ ซึ่งกลายเป็นข่าวโด่งดังในสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่ผ่านมา หลังรัฐฟลอริดาเผชิญพายุเฮอริเคนจนน้ำทะเลท่วมตัวเมือง และพบว่ามีรถยนต์ Tesla หลายคันลุกไหม้เพราะจอดอยู่ท่ามกลางน้ำทะเลที่ท่วมตัวเมืองเป็นเวลานาน
ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้นำรถยนต์ EV ที่ขับลุยน้ำทะเล ไปจอดนอกตัวอาคารหรือห่างไกลจากชุมชน เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้จากแบตเตอรี่ Lithium-Ion ที่ไปสัมผัสน้ำทะเล
ข้อมูลอ้างอิง :
https://www.electrifying.com/blog/knowledge-hub/electric-cars-and-floods-everything-you-need-to-know
https://www.recurrentauto.com/research/april-showers-myths-about-electric-cars-and-water
https://www.theaa.com/driving-advice/electric-vehicles/evs-fact-or-fiction.
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter